เฉินมู่ได้ยินคำพูดของมู่น่อนน่อนแล้ว ก็ได้เดินมาอย่างเชื่อฟังจริงๆ ไม่ได้กระโดดโลดเต้นออกมาอีก
พอเธอมาถึงห้องโถงใหญ่แล้ว ก็ได้ปล่อยมือออกไปจากสาวใช้ไปทันที แล้วกระโจนเข้าไปหามู่น่อนน่อนอย่างรวดเร็ว
มู่น่อนน่อนย่อตัวนั่งลง รับเจ้าก้อนน้อยที่กระโจนเข้ามา แล้วจุ๊บลงบนใบหน้าของเธอไปทีนึง
ตอนนี้ทั้งหัวใจของเฉินมู่ล้วนมีแต่แอปเปิลที่ตนวาดทั้งนั้น ไม่มีเวลาไปสนใจจุ๊บด้วยความรักของมู่น่อนน่อนเลย
เธอเปิดภาพแอปเปิลหน้านั้นที่เธอวาดเหมือนกับกำลังโอ้อวดความสามารถที่ตัวเองนึกว่ามันดีมากอยู่ ให้มู่น่อนน่อนดู “คุณแม่รีบดูแอปเปิลที่หนูวาดสิ”
ขีดเส้นหลากหลายสีสัน ได้ปกคลุมอยู่เต็มกระดาษวาดภาพไปตามอารมณ์อย่างมาก จะมองดูยังไงก็มองรูปทรงแอปเปิลไม่ออกเลย
แต่เห็นได้ชัดว่าเฉินมู่มีความสุขมาก
เธอเปิดสมุดวาดภาพไปพลาง พูดพึมพำกับตัวเองไปพลาง “หนูยังวาดแอปเปิลอีกสามลูก แล้วยังวาดลูกชิ้นเนื้อด้วย...”
มู่น่อนน่อนพบว่าเฉินมู่เหมือนจะชอบวาดภาพมากเลย
เพียงแต่ว่าเธอในตอนนี้ยังเด็กเกินไป จึงวาดของอะไรออกมาไม่ได้เลย รู้เพียงแค่เลือกสีที่ชอบมาละเลงลงไปบนสมุดวาดภาพไปเท่านั้น
ในเมื่อเฉินมู่ชอบ มู่น่อนน่อนก็ไม่มีทางทำลายความกระตือรือร้นของเธอไปเช่นกัน
มู่น่อนน่อนอุ้มเธอไปนั่งลงบนโซฟา จากนั้นก็รับสมุดวาดภาพไป มองไปอย่างตั้งอกตั้งใจไปสักพักหนึ่ง แล้วก็ยิ้มพลางเอ่ยออกไปกับเฉินมู่ “วาดเก่งมาก แต่แม่เชื่อว่าหลังจากนี้ไปหนูจะวาดได้ดีกว่านี้อีก!”
เฉินมู่ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ก็ปิดปากยิ้มตาหยีออกมาอย่างมีความสุข เหมือนกับเขินอายมากออกมา
มู่น่อนน่อนยื่นมือไปจิ้มหน้าผากเธอไปเบาๆ “มู่มู่ของพวกเราเขินอายกับเขาด้วยเหรอ?”
“อิอิ...” เฉินมู่จับมือของมู่น่อนน่อนเอาไว้ ยิ้มออกมาจนใบหน้าดูมีความสุขไปหมด
ตอนนี้เฉินถิงเซียวก็ได้เข้ามาจากข้างนอกด้วยเหมือนกัน
เด็กน้อยต่างก็ชอบที่จะได้รับความเห็นพ้องต้องกันและการชื่นชมจากคนใกล้ชิดกันทั้งนั้น เฉินมู่เองก็เช่นกัน
เธอเห็นเฉินถิงเซียว ก็ได้ดึงสมุดวาดภาพวิ่งเข้าไปหาเขา
มู่น่อนน่อนรู้ว่าตอนนี้เฉินถิงเซียวอารมณ์ไม่ดี ก็ได้ลุกยืนขึ้นมาด้วยความกังวลอยู่บ้าง แล้วส่งเสียงเรียกออกไป “มู่มู่!”
แต่เฉินมู่ไม่ได้ยินคำพูดของเธอ เหยียบรองเท้าวิ่งเตาะแตะไปที่ตรงหน้าเฉินถิงเซียว แล้วยกสมุดวาดภาพของตัวเองขึ้นมา “คุณพ่อ คุณพ่อดูแอปเปิลที่หนูวาด แอปเปิลลูกโตๆสองลูก...”
คิ้วที่แต่เดิมได้ขมวดแน่นของเฉินถิงเซียว หลังจากที่เห็น “แอปเปิล” บนสมุดวาดภาพของเฉินมู่แล้ว คิ้วก็ได้ขมวดแน่นออกมายิ่งกว่าเดิม
ภายในใจของมู่น่อนน่อนแอบรู้สึกไม่ดีอยู่ลึกๆ จึงได้ส่งเสียงเรียกออกไป “เฉินถิงเซียว!”
เธอกังวลว่าเขาจะพูดอะไรบ้าๆออกมา
ช่วงนี้เขาเหมือนจะไม่ได้ดีกับเฉินมู่เท่าแต่ก่อน ไม่ได้มีความอดทนเท่าแต่ก่อน เธอกังวลว่าต่อจากนี้เขาจะพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังจำพวกที่ว่า “วาดบ้าอะไรเนี่ย” ออกมาจริงๆเลย
เฉินถิงเซียวเลิกตาขึ้นมา มองเธอมาแวบนึง จากนั้นก็ได้ถอนสายตาออกไป แล้วเอาสายตาจรดไปที่บนสมุดวาดภาพของเฉินมู่
ผ่านไปสองวิ เขาก็ได้ส่งเสียงพูดออกมาคำนึง “อืม”
ไม่ได้รับคำชมเชยจากเฉินถิงเซียว เฉินมู่ถึงแม้ว่าจะหดหู่ใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังเบ้ปากพูดออกมาประโยคนึง “เอาเถอะ”
เธอเก็บสมุดวาดภาพกลับมา แล้วก็ได้เงยหน้ามองเฉินถิงเซียวตาปริบๆไปอีกที เม้มปาก แล้วเดินเข้าไปทางมู่น่อนน่อน
พอเธอเดินไป เฉินถิงเซียวก็ได้ขึ้นชั้นบนไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาเลย
หลังจากที่เฉินมู่เดินเข้ามาใกล้ มู่น่อนน่อนก็ยื่นมือไปแตะหัวของเธอไปเบาๆ แล้วเอ่ยออกไป “คุณพ่อก็คิดว่าหนูวาดได้ไม่เลวเหมือนกันแหละ”
เฉินมู่ได้ยินคำพูดของมู่น่อนน่อนแล้ว เงยใบหน้าที่เหมือนกับซาลาเปาน้อยขึ้นมา มองเธอไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงงงวย
เมื่อกี้คุณพ่อได้ชมเธอหรือเปล่า?
“คุณพ่อก็แค่คิดว่าหนูวาดได้ไม่เลวเลย หนูจะต้องไม่ลดละความพยายาม! สู้ๆ!” มู่น่อนน่อนทำมือสู้ๆไปให้เธอ
เฉินมู่ได้ทำมือสู้ๆตามเธอออกมาด้วยเหมือนกัน จากนั้นก็หัวเราะ “คิกคัก” ขึ้นมา
เป็นเด็กน้อยมันดีจริงๆ ไม่เข้าใจอะไรเลย พูดกล่อมไปสองประโยคก็สามารถมีความสุขได้นานแล้ว
มู่น่อนน่อนเงยหน้ามองไปที่ชั้นบน นึกถึงคำพูดที่เฉินถิงเซียวพูดออกมาเมื่อกี้นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย
ผู้ชายตัวโตคนหนึ่งพูดกล่อมได้ยากกว่าเด็กน้อยเยอะเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...