ตอนที่ 70 ช่างกล้านัก
มู่น่อนน่อนหั่นมะเขือเทศกับเนื้อ ทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อซุปมะเขือเทศ
ตอนที่เธอกำลังหั่นเนื้อ เฉินถิงเซียวยืนอยู่ข้างไม่ไปไหน ผ่านไปสักพัก เขาพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “คุณหั่นช้าหน่อย”
ผู้ชายซื่อตรงที่ไม่เคยทำอาหาร
มู่น่อนน่อนยิ่งหั่นเร็วมากขึ้น พอน้ำเนื้อจัดใส่จานแล้ว เธอถึงหันกลับไปมองเขา “ออกไป อย่ามาเกะกะที่นี่”
อาจเป็นเพราะดึกๆ มักทำให้คนรู้สึกโดดเดี่ยว เฉินถิงเซียวไม่อยากไปรอที่โต๊ะอาหารคนเดียว เพียงแค่อยากดูมู่น่อนน่อนทำกับข้าวตรงนี้
เขาทำสายตาเฉยๆ หาข้ออ้างหาตัวเอง “ผมก็จะดูอยู่ตรงนี้ ถ้าเกิดคุณวางยาผมหล่ะ? ผมยังไม่อยากตาย”
“ฉันไม่งี่เง่าขนาดนั้น หากวางยาพิษฆ่าคุณตาย ฉันก็อยู่ไม่รอดหรอก!ฉันแพงมากนะ ฉันเป็นคนที่มีค่าถึงสามร้อยล้านเลย!” มู่น่อนน่อนจริงๆ นั้นคือกำลังประชดตัวเอง
แต่พูดด้วยเฉยๆ พอฟังแล้วก็เหมือนมีอะไร
เฉินถิงเซียวพูดอธิบายตัวเองอย่างหาได้ยาก “เรื่องนี้เป็นผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งจัดไว้ พี่ชายไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้”
“ฉันไม่ได้โทษเขาสักหน่อย คุณใจร้อนอะไร” มู่น่อนน่อนมอง “เฉินเจียฉิน” ไว้อย่างแปลกๆ “ฉันจำได้ว่าวันแรกที่ฉันเข้ามา คุณบอกต่อหน้าฉันว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนเลว ตอนนี้คุณกลับช่วยพูดแทนเขา ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาดีหรือไม่ดีกันแน่? ”
“เฉินเจียฉิน” ย้อนถาม “คุณว่าหล่ะ? ”
เหอๆ ฉันว่าคุณเป็นโรคจิตที่ไร้ยางอาย!
แต่คำพูดนี้มู่น่อนน่อนเพียงแค่กล้าพูดอยู่ในใจแป๊บเดียวเท่านั้น
เร็วมากที่มู่น่อนน่อนโยกก๋วยเตี๋ยวสองถ้วยไปที่โต๊ะ
อาจเป็นเพราะเที่ยงคืนเงียบสงบ ทั้งสองคนเลยได้ปล่อยความขัดใจไป แล้วกินไปด้วยพูดไปด้วย
แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นมู่น่อนน่อนพูด สิ่งที่เธอถามส่วนมากเป็นเรื่องของเฉินถิงเซียว
คำที่ “เฉินเจียฉิน” ตอบนั้นส่วนใหญ่คือ “อืม” “ไม่ใช่” “ไม่รู้” “คงจะใช่” ประมาณนี้
นี่ก็ทำให้มู่น่อนน่อนต้องสงสัย ว่าความสัมพันธ์สองพี่น้องนี้คงทำด้วยพลาสติก
……
วันต่อมา
มู่น่อนน่อนนอนตื่นสายเลย
เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนผ้า แล้ววิ่งออกไป
ตรงหน้าลิฟต์ เธอเจอ “เฉินเจียฉิน” ที่มีชีวิตชีวา
ต่างเป็นคนที่ตื่นมากินข้าวเที่ยงคืนเหมือนกัน แต่ทำไมเธอถึงตื่นสายแล้วยังมึนๆ ส่วนผู้ชายคนนี้กลับแลดูสดใสมากนัก!
เธอสงสัยอีกครั้ง ร่างชายคนนี้ต้องทำด้วยเหล็กแน่นอน
เฉินถิงเซียวเห็นเธอไม่สดใส ขมวดคิ้วเล็กน้อย “หลับไม่ดีหรือ? ”
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเขากำลังอวดตัวเอง
เธอก้มมองเวลาทีหนึ่ง ทิ้งไปคำเดียว “ฉันจะสายแล้ว วันนี้ไม่ทำอาหารเช้าแล้ว” จากนั้นก็ลงชั้นล่างอย่างเร่งรีบ
เฉินถิงเซียวเดินก้าวยาวๆ เดินเข้าไปจับปกเสื้อเธอไว้ “ผมส่งคุณ”
มู่น่อนน่อนไม่อยากให้เขาส่งนะ แต่พอเห็นว่าถ้าเธอไปอัดรถเมล์แล้วก็ต้องสายแล้วแน่ๆ
สุดท้าย “เฉินเจียฉิน” ก็ไม่ได้ไปส่งมู่น่อนน่อนทำงาน เพราะเขาถูกสายหนึ่งเรียกไว้ ก่อนที่เขาจะไป เขาได้มอบหมายให้บอดี้การ์ดส่งมู่น่อนน่อนไปที่ทำงาน
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...