ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 85

ตอนที่ 85 อาการของโรคที่แสดงออกมาภายหลังๆจากได้รับบาดเจ็บ

มู่น่อนน่อนออกไปก่อน ยืนรอมู่หวั่นขีที่นอกห้อง

มู่หวั่นขีเห็นเธอปุ๊บก็มีสีหน้าไม่ดี: “ดูซิว่าแกยังจะได้ใจอีกนานเท่าไหร่ รอคุณพ่อไล่แกออกจากบริษัทมู่ซื่อเถอะ!”

“อ้อหรอ? ไล่ฉันออกจากบริษัทมู่ซื่อ?” มู่น่อนน่อนยิ้มอย่างอ่อนโยน: “ไม่อยากให้เฉินถิงเซียวมาลงทุนที่บริษัทมู่ซื่อแล้วใช่มั้ย?”

มู่หวั่นขีเชอะเสียงเย็นชา: “นี่แกนึกว่าคนพิการอย่างเฉินถิงเซียวมีเงินจริงๆเหรอ?”

“พูดจาให้มันดีๆหน่อย” มู่น่อนน่อนกวาดสายตาเย็นชาใส่เธอทีนึง

“แกเองก็ยังพูดจาไม่ดีเลย ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นอีก?” มู่หวั่นขีเชิดคางขึ้น และหัวเราะอย่างได้ใจ จู่ๆนึกอะไรขึ้นมาได้ เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าลงเล็กน้อย จากนั้นได้หลังกลับไปที่ออฟฟิศของมู่ลี่เหยียน

มู่น่อนน่อนมองประตูออฟฟิศที่ปิดไว้แน่นแว๊บนึง จากนั้นได้หันหลังจากไป

ในออฟฟิศของมู่ลี่เหยียน

มู่หวั่นขีนั่งฝั่งตรงข้ามเขา สีหน้าเคร่งขรึม: “คุณพ่อคะ มีเรื่องนึงหนูลืมบอกคุณพ่อไป ในมือของมู่น่อนน่อนมีบัตรดำลิมิเต็ดระดับโลกใบนึงที่วงในของบริษัทเฉินซื่อถึงจะมีค่ะ”

“ลูกรู้ได้ยังไง?” มู่ลี่เหยียนถามด้วยสีหน้าช็อค: “เธอเพิ่งไปที่ตระกูลเฉินนานเท่าไหร่เอง เฉินถิงเซียวจะให้บัตรดำเธอได้ยังไง?”

“คราวก่อนหนูไปทานข้าวกับชูหานที่โรงแรมจีนติ่ง หนูเห็นกับตาว่าเธอใช้บัตรดำเช็คบิลค่ะ!” มู่หวั่นขีสีหน้าตื่นเต้น: “ได้ยินมาว่าบัตรดำของบริษัทเฉินซื่อ ไม่จำกัดวงเงินนะคะ?”

บัตรดำลิมิเต็ดระดับโลกของบริษัทเฉินซื่อ ไม่จำกัดวงเงินจริงหรือเปล่า อันนี้มู่ลี่เหยียนก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน

ในฐานะที่เป็นมหาเศรษฐีระดับต้นๆ ถึงจะไม่ใช่ไม่จำกัดวงเงิน ในนั้นก็ต้องเป็นตัวเลขที่มหาศาลแน่ๆ

เห็นมู่ลี่เหยียนได้ฟังคำพูดของตัวเองเข้าไปแล้ว มู่หวั่นขีพูดต่อ: “ถ้าเราสามารถเอาบัตรดำที่อยู่ในมือของมู่น่อนน่อนมาได้ ก็ไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องเงินแล้วค่ะ”

มู่ลี่เหยียนก็ค่อนข้างหวั่นไหว แต่ยังไงเขาก็เป็นมือเก่าในด้านธุรกิจ ไม่วู่วามเหมือนคนหนุ่มสาว ทำงานระมัดระวังกว่าเยอะเลย

เขาคิดๆแล้วพูด: “แต่ไม่ว่าจะยังไง บัตรดำนั่นเฉินถิงเซียวเป็นคนให้มู่น่อนน่อน เธอจะให้พวกเราใช้เหรอ?”

มู่หวั่นขีเห็นมู่ลี่เหยียนหวั่นไหวแล้ว แววตามีแสงแห่งความได้ใจแว๊บผ่าน: “คุณพ่อคะ คุณพ่อเป็นพ่อแท้ๆของมู่น่อนน่อนเชียวนะคะ พ่อให้กำเนิดเธอเอ็นดูเธอ แค่ใช้บัตรดำหน่อยเอง จะเป็นอะไรเชียว ถึงเธอเข้าใจพ่อผิดไม่อยากเอาบัตรดำให้พ่อ แต่อย่างน้อยก็ยังมีคุณแม่อยู่นี่คะ..........”

มู่ลี่เหยียนได้ยินคำพูดนี้แล้ว เงียบไปครู่นึงก็ได้พยักหน้า

...................

มู่น่อนน่อนเลิกงานกลับมาถึงบ้าน ยังไม่ได้ทำกับข้าว“เฉินเจียฉิน”ก็กลับมาแล้ว

ในวิลล่าเปิดเครื่องปรับอุณหภูมิความร้อนไว้ เขาเข้ามาป๊บก็ถอดเสื้อคลุมออก บนตัวเหลือแค่เสื้อเชิ๊ตสีเข้มที่เบาบางและกางเกงสูท รูปร่างสง่าผ่าเผยมาก

เขาไปหามู่น่อนน่อนที่ห้องครัวตามเสียง

เขาพิงอยู่ที่กรอบประตู พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ น้ำเสียงราบเรียบ: “ไปคุยงานเป็นยังไงบ้าง?”

มู่น่อนน่อนกำลังหั่นผักอยู่ พูดอย่างไม่ใส่ใจ: “ทำพังแล้วค่ะ”

เขาพูดเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม: “แค่โครงการแรกก็ทำพังแล้ว”

อารมณ์ในน้ำเสียงไม่ค่อยชัด ยากที่จะแยกแยะออกว่ากำลังหัวเราะเยาะเธอหรือเปล่า?

มู่น่อนน่อนหันมามองเขา: “มู่หวั่นขีเป็นคนทำพัง ไม่ใช่ฉันสักหน่อย”

ถึงแม้มู่หวั่นขีได้เอาความผิดในการคุยโครงพังโยนมาที่เธอ แต่เธอไม่ยอมรับหรอก

เธอพูดจบ ก็ได้หันไปหั่นผักอีก

เฉินถิงเซียวก้มหน้า หัวเราะอย่างไร้เสียง

วันถัดมาคือวันเสาร์

มู่น่อนน่อนได้ตื่นมาทำอาหารเช้าเหมือนปกติ “เฉินเจียฉิน”ก็ตื่นเช้าดี

มู่น่อนน่อนเห็นเธอปุ๊บ ก็พูดว่า: “ลูกพี่ลูกน้องคุณตื่นหรือยัง? คุณยกอาหารเช้าไปให้เขาหน่อย”

“ไม่ยก” เฉินถิงเซียวปฏิเสธโดยไม่คิด

เขาก็อยู่นี่แล้ว ยังจะยกอาหารเช้าอะไรอีก

มู่น่อนน่อนจ้องเขาทีนึง และเรียกบอดี้การ์ดคนนึงมายกอาหารเช้าไปให้เฉินถิงเซียว

เธอทานข้าวเสร็จก็ออกจากบ้านเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม