เธอมองดูหน้าจอที่แตกละเอียดอย่างนึกเสียดาย ส่ายหัวไปมา
“ไม่เจอตั้งนาน นิสัยของคุณไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แต่น่าเสียดาย เจ้าอารมณ์ แต่กลับไม่มีความสามารถอะไร”
พูดจบ เธอก็คลายมือออก หน้าจอที่แตกของหลี่เฟยได้เพิ่มรอยร้าวมากขึ้นไปอีก
“เธอมาอีกทำไม ?!”
หลี่เฟยเดินออกมาจากห้องโถง แม้เหตุการณ์ทวงหนี้ในครั้งที่แล้วของเซิงเกอยังคงชัดเจนในความทรงจำ แต่ชีวิตคุณนายผู้สูงศักดิ์ไม่ยอมให้เธอต้องขี้ขลาด
“เธอมันตัวซวย หย่ากันไปแล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้ลูกชายฉันอีก ลูกชายของฉันช่างโชคร้ายจริงๆ”
“ใช่ค่ะ ลูกชายคุณโชคร้าย ต่อไปเขาจะยิ่งโชคร้ายเข้าไปอีก”เซิงเกอหุบยิ้ม ถามอย่างเย็นชาว่า “ดังนั้นบอกฉันมา ว่าเฟิงยู่เหนียนไปไหน?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ? เธออย่ามาตามรังควานลูกชายของฉัน!ปากก็บอกจะไปจากเขา แต่ก็ยังคอยตามเขาไม่เลิก ทำทีแสร้งปล่อยเพื่อจับ นี่เธอไม่อายเลยหรือยังไง ?”
หลี่เฟยกลอกตาใส่อย่างไม่ปิดบัง
เซิงเกอหัวเราะลั่น
กำลังจะโต้แย้ง เฟิงเซิงเซิงก็เดินลงมาจากชั้นบน ใบหน้าเล็กๆจ้องมองมาที่เธอ
“เธอควรรู้ด้วยเหรอว่าพี่ชายฉันอยู่ไหน ? พี่ชายฉันเขามีพี่จื่อหนิงแล้ว คนน่ารังเกียจอย่างเธอทำไมถึงได้ไม่รู้จักอายแบบนี้?”
ก่อนหน้านั้นถูกเซิงเกอทำให้อับอายไปถึงสองครั้ง เฟิงเซิงเซิงยังจำฝังใจไม่ลืม
เธอไม่กล้าเดินเข้ามา ทำเพียงยืนอยู่ที่ตรงบันได จ้องมองเธอด้วยความโกรธเกลียด อยากจะฉีกร่างเธอให้เป็นชิ้นๆผ่านทางสายตา คุยโวโอ้อวดต่อ
“หากไม่ใช่เพราะถูกลู่ฮั๋วเลี้ยงดู เธอจะสามารถมาอวดเบ่งแบบนี้ได้เหรอ ? หน้าตาก็อย่างกับนังจิ้งจอก มีแต่กระดูก เทียบอะไรกับพี่จื่อหนิงไม่ได้เลย !”
“ฉันจะบอกอะไรให้ !พี่จื่อหนิงกำลังจะแต่งเข้าตระกูลเฟิง เธออย่ามาประจานความน่าอับอายของตัวเองที่นี่ ไสหัวออกไป!”
เซิงเกอเอนหลังพิงผนัง ฟังเธอพูดอย่างเงียบๆ
“มีเวลาก็เปิดโทรศัพท์ที่เธอถือติดมือไปมาดู ข่าวของวันนี้ พี่จื่อหนิงสุดที่รักของเธอเหมือนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่”
หลี่เฟยกับเฟิงเซิงเซิงไม่ได้ดูข่าว คำพูดของเธอทำเอาพวกเขามึนงงเป็นไก่ตาแตก
เซิงเกอเกี่ยวปอยผมที่ข้างใบหู ลำคอระหงของเธอค่อยๆยกขึ้น กวาดสายตามองไปรอบๆคฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลเฟิง จากนั้นก็ถึงได้พูดต่อว่า
“ถึงเฟิงยู่เหนียนจะไม่อยู่ แต่ก็ไม่เป็นไร มีเรื่องเรื่องหนึ่งที่ฉันต้องแจ้งกับพวกคุณ ชีวิตของพวกคุณสุขสบายมากเกินไปแล้ว มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไร”
“นี่เธอ……หมายความว่ายังไง?”
เฟิงเซิงเซิงถูกรังสีพิฆาตอันเย็นเยือกบนตัวของเซิงเกอข่มจนชะงักไป
เหตุการณ์ที่น่าสังเวชเมื่อหลายวันก่อน ทำเธอมองออกไปนอกประตูโดยไม่รู้ตัว เพื่อมองดูว่ามีบอดี้การ์ดหรือเปล่า
ริมฝีปากบางเซิงเกอยกหยักเล็กน้อย อ่อนโยนและน่ารัก
“เพราะฉะนั้นตระกูลเฟิง เตรียมล้มละลายได้เลย”
ในตอนที่เธอพูดคำนี้ ใบหน้าเรียบเฉย ราวกับกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไปอยู่
พูดจบ เธอก็เดินไปขึ้นรถ เหยียบคันเร่งจนมิด และออกจากตระกูลเฟิงไป
เหลือแค่เพียงสองคนแม่ลูกที่โกรธแค้นอย่างมากและก่นด่าสาปแช่งเธอตามหลังไม่หยุด
“แม่!แม่ดูเอา นังชั่วคนนี้ เหิมเกริมหนักไปแล้ว!”เฟิงเซิงเซิงโกรธจนมือไม้สั่นเทา
สีหน้าของหลี่เฟยก็ดูแย่มากเช่นกัน
“แม่ ลู่ฮั๋วคงไม่ช่วยเธอทำลายบ้านเราจริงๆหรอกใช่ไหม ?”
หลี่เฟยส่ายหัวให้อย่างไม่ลังเล“จะเป็นไปได้ยังไง!ลู่ฮั๋วเก่งมากก็จริง แต่เฟิงซื่อกรุ๊ปก็ใช่ว่าจะรังแกได้ง่ายๆ ต่อให้ลู่ฮั๋วจะชอบเธอมากแค่ไหน ก็คงไม่มาเป็นปฏิปักษ์กับเฟิงซื่อกรุ๊ปเพราะเธอหรอก”
พูดออกไปแบบนั้น แต่หญิงชั่วอย่างเซิงเกอกลับวิ่งแจ้นมาถึงที่คฤหาสน์หลังเก่าเพื่อมาพูดจาท้าทาย!
ท่าทีที่ยโสโอหังนั้น หลี่เฟยก็แทบจะกระอักเลือด!
หากไม่สั่งสอนหญิงชั่วคนนี้ให้รู้จักหลาบจำ เธอคงจะอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้แน่ !
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...