ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 14

ซู่เป่าเก็บภาพวาดในมือกลับมาเงียบๆ

คุณท่านซูควบคุมความโกรธแล้วสั่งสอนว่า “หานหาน น้องสาวให้ของขวัญหนูเพราะอยากเป็นเพื่อนกับหนู หนูผลักน้องไม่ถูกนะ”

เขามองตุ๊กตาที่พังบนพื้นแล้วขมวดคิ้วโดยไม่ตั้งใจ

ลูกของเจ้าสองคนนี้ขี้แยมาก ทุกครั้งที่พูดจาแรงๆ ใส่เธอนิดหน่อยก็จะร้องไห้โวยวาย

ปรากฏว่าน้ำตาของหานหานไหลออกมาทันที กระทืบเท้าและตะโกนว่า “หนูไม่เอา”

ซู่เป่ารวบรวมความกล้าแล้วยื่นภาพวาดให้หานหาน “พี่สาวอย่าร้องไห้เลยนะ นี่เป็นของขวัญที่ซู่เป่าให้พี่สาวค่ะ...”

หานหานมองดูภาพวาดในมือของเธอ แล้วผลักเธอออก “ใครอยากได้ของของเธอ ไปให้พ้น”

เหวยหว่านภรรยาของซูจื่อหลินได้ยินเสียงดังจึงเข้ามาและรีบพูดว่า “หานหาน จะเอาแต่ใจไม่ได้นะ”

แล้วก็หันมาพูดกับคุณท่านซูว่า “พ่อคะ หานหานยังเด็ก...”

คุณท่านซูตำหนิว่า “ยังเด็กต้องสั่งสอน ปัญหานี้ฉันไม่ได้พูดแค่ครั้งเดียว พวกเธอเลี้ยงลูกกันยังไง อายุแค่นี้ถึงได้หยาบคายแบบนี้ โตขึ้นจะอยู่ในสังคมได้ยังไง”

เหวยหว่านก้มหน้า “ฉันรู้แล้วค่ะพ่อ”

คุณท่านซูจูงซู่เป่าออกไปด้วยความโกรธ

หานหานเห็นคุณปู่จากไปโดยไม่สนใจเธอ เธอยิ่งร้องไห้หนักขึ้น จากนั้นวิ่งเข้าห้องแล้วโยนข้าวของบนโต๊ะทิ้งกระจัดกระจาย

ในใจเหวยหว่านรู้สึกไม่สบอารมณ์ รู้สึกว่าคุณท่านซูพูดแรงไป

ลูกของเธอเธอสอนเองได้ คนอื่นมีสิทธิ์อะไรมาบ่งการ

ถึงจะเป็นคุณปู่ของเด็กคนนี้ก็ไม่ได้

ถึงแม้ว่าคุณท่านซูและนายหญิงซูจะดีกับเธอและเคารพเธอมาก พวกท่านแทบจะไม่ยุ่งเรื่องในครอบครัวของเธอเลย

และปกติเธอก็กตัญญูต่อพวกเขามาก ทั้งรินน้ำเสิร์ฟชา เมื่อถึงช่วงเทศกาลก็ใช้เวลาเลือกซื้อของขวัญให้พวกเขา คงไม่มีลูกสะใภ้คนไหนดีไปกว่าเธอแล้วล่ะ

เธอเพียงแค่ยืนกรานประเด็นเรื่องเลี้ยงลูกชายจน เลี้ยงลูกสาวรวย แล้วแนวคิดของเธอผิดอะไร

หานหานเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตระกูลซู ต่อไปถึงไม่ได้ทำงานแต่ก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้ อายุแค่นี้ทำไมต้องคิดว่าจะเอาตัวรอดในสังคมอย่างไร มีเงินมีฐานะแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ดีหรือไง

เหวยหว่านเดินเข้าไปในห้อง แล้วปลอบหานหานด้วยท่าทีอ่อนโยนและน้ำเสียงนุ่มนวล “ไม่เป็นไรนะ หานหานเด็กดี อย่าร้องไห้เลยนะ...”

หานหานยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม “ไม่ หนูไม่”

เหวยหว่าน “โอเค ๆ ...”

คุณท่านซูพาซู่เป่ากลับมาที่ห้องของตัวเอง นกแก้วเห็นซู่เป่ากลับมาก็กระพือปีกอยากจะบินเข้าไปหา แต่ถูกโซ่ที่ขาของมันดึงไว้

ซู่เป่าพูดปลอบใจมันว่า “เสี่ยวอู่อยู่เชื่องๆ นะ รอให้คุณลุงทำห้องให้แกเสร็จก่อน แล้วจะปล่อยแกออกมานะ”

เนื่องจากห้องของซู่เป่าได้จัดตกแต่งไว้ดีแล้วตอนเธอเข้าโรงพยาบาล พวกคุณลุงไม่รู้ว่าเธอยังมีนกแก้วอีกตัว

จึงไม่ได้ตกแต่งห้องให้เป็นพิเศษและหลายอย่างก็เป็นอันตรายต่อนกแก้ว อย่างเช่นเสี่ยวอู่เคยชินกับการอยู่ในป่า ถ้าเลี้ยงไว้ในบ้านอาจจะไปโดนกระจกได้

ดังนั้นเสี่ยวอู่จึงต้องถูกล่ามอยู่ในห้องชั่วคราวไปก่อน รอให้มันคุ้นเคยก่อนค่อยปล่อยมัน

คุณท่านซูมองดูเจ้าแก้มก้อนปลอบนกแก้วก็ทุกข์ใจไม่น้อย

เจ้าตัวเล็กต้องเสียใจมากแน่ ๆ

“ซู่เป่า ปกติพี่สาวก็เป็นแบบนี้แหละ อารมณ์ไม่ค่อยดี หนูอย่าเสียใจไปเลยนะ...”

นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวซู่เป่ากลับหัวเราะ “ไม่เป็นไรค่ะคุณตา”

เมื่อเห็นสีหน้าอารมณ์ที่ซับซ้อนของคุณท่านซู ซู่เป่าจึงรู้ตัวและพูดปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะคุณตา ซู่เป่าก็ไม่ชอบเอาของของตัวเองให้คนอื่น”

ซู่เป่าไม่เข้าใจว่าทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงต้องให้เด็ก ๆ อย่างพวกเขาให้เกียรติก่อน หรือพวกผู้ใหญ่คิดว่าแบบนี้ถึงจะมีมารยาท แต่พวกเด็ก ๆ กลับไม่คิดอย่างนั้น

ของของตัวเองก็คือของของตัวเองสิ ทำไมถึงต้องเอาของที่ตัวเองชอบให้คนอื่นเพื่อแสดงความมีมารยาทล่ะ

คุณท่านซูอึ่งทึ่ง

ซู่เป่าเด็กขนาดนี้ แต่เธอกลับเข้าใจทุกเรื่อง...

คุณท่านซูยิ่งทุกข์ใจกว่าเดิม แล้วลูบศีรษะของเธอด้วยสีหน้าอ่อนโยนพร้อมกับพูดว่า “ซู่เป่า ภาพพวกนี้หนูเป็นคนวาดเองทั้งหมดเลยเหรอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน