ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1819

ทันใดนั้น มังกรหยกก็คำรามเสียงดังสนั่นไปทั่วท้องฟ้า

อวิ๋นเหลิงซีรู้สึกบางอย่างโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือว่าซูอวิ๋นเจากำลังจะออกมา

กระบี่ยักษ์ในมือของเธอฟาดฟันไปที่หัวของมังกรหยกโดยไม่ลังเล!

ในขณะที่กระบี่ยักษ์ฟาดลง มันกลับแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่ที่ส่องประกายแสงเจิดจ้า คมกระบี่ยาวกว่าร่างของมังกร ราวกับสามารถฟาดฟันสวรรค์และโลกให้แยกออกจากกันได้

เหล่าผีบำเพ็ญถูกแรงกระแทกจนกระเด็นปลิวไป ในดวงตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว

ตอนนี้หลี่เฟิงอวิ๋นใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่เพียงเพื่อพยุงตัวให้ดูเหมือนคนปกติ

อย่างน้อยต้องไม่ให้ใครรู้ว่าเขากำลังใกล้ตายเต็มที...

แต่ภายใต้แสงกระบี่นั้นก็ทำเอาร่างของเขากระเด็นปลิวไป และกลิ้งไม่รู้กี่รอบ…

ผีบำเพ็ญที่อยู่ใกล้ๆ ต่างตกตะลึง และสายตาของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไป

เดิมทีคิดว่าชายคนนี้ร่วมมือกับจักรพรรดิหญิง แต่ดูเหมือนจะว่าไม่ใช่?

พวกเขาคิดว่าเขายังแข็งแกร่ง เพราะสัมผัสได้ถึงพลังระดับพญายมเต็มขั้น...แต่ที่แท้ก็เป็นเพียงแค่เปลือกว่างเปล่า?

แน่นอนว่ามีคนเริ่มจับจ้องไปที่หลี่เฟิงอวิ๋น และมองตรงไปยังแหวนในมือของเขา

คนที่อยู่ระดับพญายมเต็มขั้น แหวนของเขาย่อมต้องมีของดีแน่นอน!

หลี่เฟิงอวิ๋นใจหายวาบ เขารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย...ในใจเต็มไปด้วยความเสียใจและโกรธแค้น

ไอ้พวกกระจอก!

เขาเป็นถึงผีบำเพ็ญระดับพญายมเต็มขั้น...พวกเขากล้าคิดมุ่งร้ายต่อเขาด้วยหรือ?!

ในขณะนั้นเอง มังกรหยกก็ส่งเสียงคำรามแหลมคมออกมาจนเหล่าผีบำเพ็ญต่างก็สะดุ้งไปตามๆ กัน!

ลูกแก้วมังกรในปากของมังกรหยกถูกจักรพรรดิหญิงฟันจนกระเด็นออกมา!

เห็นเพียงลูกแก้วมังกรพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่องแสงสีทองเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ ทำให้ผู้คนไมสามารถลืมตาขึ้นมองได้

เหล่าผีบำเพ็ญที่อาศัยอยู่ในโลกหลังความตายมาอย่างยาวนาน รู้สึกถึงแสงเจิดจ้าราวกับแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก ในชั่วพริบตา ทุกคนราวกับถูกทำให้ตาบอด มีเพียงแสงสีทองสว่างไสวเต็มสายตา ไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้อีก

แต่อวิ๋นเหลิงซีกลับเห็นเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากแสงสีทอง

เธอดีใจอย่างยิ่ง และรีบก้าวไปข้างหน้า

ทันใดนั้นก็มีมือข้างหนึ่งคว้าแขนเธอและดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด

อวิ๋นเหลิงซีพูดไม่ออก “ในเวลาแบบนี้คุณก็ยัง...”

เสียงของซูอวิ๋นเจาดังขึ้นข้างหูของเธอ “ผมไม่ได้ล้อเล่น”

"นี่คุณฝึกบำเพ็ญจิตเทพมาโดยตลอด แต่ไม่เคยคืบหน้าเลยใช่ไหมเนี่ย?"

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพรสวรรค์หรืออะไร ถึงแม้อวิ๋นเหลิงซีจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่จิตเทพกลับเป็นจุดอ่อนของเธอ

อวิ๋นเหลิงซียังไม่ทันเข้าใจสิ่งที่เขาพูดก็เห็นแสงสีทองพุ่งเข้ามา และห่อหุ้มตัวเธอกับซูอวิ๋นเจาไว้

“ฟังผมนะ ให้ตั้งสมาธิ...และดูดซับแสงสีทองนี้เข้าไปทั้งหมด”

"สัมผัสได้หรือยัง...สสารในแสงสีทองนี้"

“ใช้ได้อย่างสบายใจ ของผมมีเพียงพอแล้ว”

เขาถูกเหล่าผีบำเพ็ญที่ต่อสู้แย่งชิงกันฉีกกระชากร่างจนแหลกเป็นชิ้นๆ

แหวนในมือถูกแย่งไป ทั้งเหรียญป้องกันชีวิต สายรัดเอว หรือแม้แต่รองเท้าล้ำค่าที่เขาสวมใส่

ทุกสิ่งทุกอย่างถูกชิงไปจนหมดสิ้น

เขาโกรธแค้นอย่างมาก แต่พวกนั้นก็รู้ดีว่าหากปล่อยให้ผีบำเพ็ญระดับพญายมเต็มขั้นเช่นเขารอดไปได้ พวกเขาต้องถูกแก้แค้นอย่างแน่นอนจึงต้องรีบฆ่าเขาในยามที่ไม่อาจขยับได้เช่นนี้

หลี่เฟิงอวิ๋นตะโกนร้องอย่างเกรี้ยวกราด...

ก่อนที่ร่างของเขาจะสลายไปกับสายลม ในที่สุดเขาก็ได้เห็นเงาของซูอวิ๋นเจาอย่างชัดเจน

คนที่เขาเคยคิดว่าเป็นเพียง ‘ซูอีเฉิน’ ที่ไร้ค่า

แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นจักรพรรดิ์ ในมือถือขวานยักษ์ ใบหน้าเย็นชาและทรงพลัง และฟาดฟันมังกรชั่วร้ายในคราเดียว

ส่วนเขา หลังจากเฝ้ารออยู่ที่ทะเลหลานซาสิบปีก็ยังไม่มีโอกาสเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย แต่กลับต้องถูกผีบำเพ็ญที่อ่อนแอกว่าเขาปล้นและฆ่าไปอย่างง่ายดาย

สิบปีที่ผ่านมานี้ เขาลงแรงไปเพื่ออะไรกันแน่??

แม้ว่าให้เขาได้ต่อสู้กับซูอีเฉิน แล้วถูกซูอีเฉินตบตายไปก็ยังจะดีกว่าตายอย่างน่าอัปยศแบบนี้!

ในวินาทีสุดท้ายก่อนที่เขาจะสลายหายไปจากโลก หลี่เฟิงอวิ๋นนึกถึงประโยคหนึ่งในหัว

เมื่อใดที่เจ้าแข็งแกร่งพอ ศัตรูที่เคยขัดขวางเจ้า ไม่ต้องแม้แต่จะลงมือ พวกมันก็จะมลายหายไปเอง...

แต่โชคร้ายที่ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของประโยคนี้ไม่ใช่เขา

หลี่เฟิงอวิ๋นสลายหายไปท่ามกลางความสิ้นหวัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน