นางกับครอบครัวก็มาถึงร้านกันแล้วสภาพร้านไม่ถึงกับแย่มากนางจะรื้อและสร้างใหม่ให้หมดจะเอารูปแบบร้านในโลกก่อน
นางกับครอบครัวก็เดินสำรวจทั้งชั้นล่างชั้นบนร้านเครื่องประดับนี้มีทั้งหมด2ชั้น กว้างขวางดี
"ท่านพ่อข้าว่าเราไปหาช่างมาดูแบบที่ข้าวาดไว้เถอะจะได้รื้อและสร้างใหม่"
"งั้นก็ไปหาช่างมู่เถอะบ้านของเขารับจ้างสร้างบ้านสร้างร้านค้า"
"เจ้าค่ะ"
ตอนนี้นางอยู่ที่บ้านของช่างมู่แลัวบ้านของเขามีรูปแบบสวยงามตกแต่งได้เหมาะสม
อืมเหมาะแล้วที่เป็นช่างไม้
"ช่างมู่อยู่บ้านหรือไหมขอรับ"
ท่านพ่อตะโกนเรียกอยู่สักพักก็มีคนมาเปิดประตู
"ครอบครัวเลี่ยงนี้เองข้านึกว่าใครมาหาข้า"ช่างมู่คือช่างที่มาสร้างบ้านให้นางกับครอบครัว ครอบครัวของเขาเปิดเป็นร้านรับจ้างสร้างบ้านต่างๆ ถือว่าครอบครัวมู่ร่ำรวยอยู่พอตัว
"ข้าอยากให้ท่านไปช่วยรื้อร้านเครื่องประดับและสร้างใหม่ได้หรือไมขอรับ"
"เข้ามาก่อนเดียวค่อยคุยกันคนกันเองทั้งนั่น"พวกนางก็เข้าไปนั่ง
"ท่านจะสร้างอะไรรึ"
"ข้าจะสร้างโรงเตี้ยมข้างๆ ร้านอาภร"
"โอ้ว! พวกเจ้าจะมีกิจการเป็นของตนเองรึ"มู่หว่างไม่คิดจะถามว่าทำไมครอบครัวเลี่ยงถึงมีเงินมาสร้างโรงเตี้ยมทั้งที่เป็นชาวบ้านเพราะเขาคิดว่าครอบครัวนี้ไม่ธรรมดาเพราะมีนักยุทธระดับ7มาด้วย
"ท่านจะสร้างให้พวกข้าหรือไม"
"เจ้าต้องการให้โรงเตี้ยมนี้เสร็จเวลาใด"
"เดือน6ขอรับ"
"นี้ก็เดือนสามแล้วมีเวลาแค่3เดือนถ้าจะสร้างให้เสร็จก็ต้องใช้เงินไม่น้อย"
"จะจ่ายเท่าไรพวกข้าไม่เกี่ยงขอให้งานออกมาสวยงามเสร็จสมบูรณ์ก็พอ"
"อืม ได้งั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปหาลูกน้องข้าจะจ้างพวกเข้าสัก50คนพวกเจ้าคิดว่าอย่างไร"
"ข้าคิดว่าเหมาะสมแล้วเจ้าคะคนเยอะงานจะได้เสร็จเร็ว"
"อุปกรณ์ไม้ต่างๆ พวกเจ้าจะให้ข้าหาซื้อมาให้หรือพวกเจ้าจะไปซื้อเองรึ"
"คงต้องขอรับกวนช่างมู่แล้ว"
"เเต่ช่างมู่ต้องหาไม้ที่มีคุณภาพดีที่สุดนะเจ้าคะ"
"ได้ๆ ข้าจะหาให้ดีที่สุด"
"งั้นข้าจะเริ่มงานพรุ่งนี้จะสั่งคนให้ไปรื้อถอน"
"เจ้าค่ะ เมื่อรื้อถอนเสร็จข้าจะเอาแบบมาให้นะเจ้าคะ"
ท่านพ่อตกลงกับช่างมู่เล็กน้อยก่อนพวกนางจะลากลับบ้าน
"ท่านพ่อข้าว่าเราไปเหลาอาหารของคุณชายซูเถอะเจ้าคะ ไปบอกเรื่องที่เราจะสร้างโรงเตี้ยมจะไม่ได้เป็นการแย่งลูกค้ากันในอนาคต"
"งั้นก็ไปกันเถอะ"
"เชิญขอรับ"เสี่ยวเอ้อของเหลาอาหารเห็นครอบครัวหนึ่งดูไม่ค่อยมีเงินเดินเข้ามาในเหลาอาหารก็ต้อนรับเป็นอย่างดี
เลี่ยงหลิ่งมองดูก็พยักหน้าอย่างพอใจคุณชายซูสั่งสอนคนได้ไม่เลว
"พวกข้าขอพบคุณชายซู"ท่านพ่อนางเดินเข้าไปคุยกับเสี่ยวเอ้อ
"ขอทราบนามพวกท่านด้วย"
"เลี่ยงรุ่ย"
"งั้นรอข้าสักครู่ ข้าจะไปแจ้งคุณชายซูสักครู่"
นางกับครอบครัวรอไม่นานเสี่ยวเอ้อก็มาตาม เชิญพวกนางขึ้นไปชั้นบน
"พวกท่านเชิญนั่งก่อนขอรับ ขออภัยถ้าเสี่ยวเอ้อทำอะไรผิด"
"ไม่เป็นไรคุณชายซูเรื่องเเค่นี้เอง"
"พวกท่านมาหาข้ามีอะไรรึ"
"ข้าจะพูดตรงๆ เลยนะเจ้าค่ะ"
"เรื่องนี้สำคัญมากรึ"
"ใช่เจ้าคะ ครอบครัวข้าจะเปิดโรงเตี้ยม พวกข้าเลยกังวลว่าจะเกิดการเเย่งลูกค้ากันในอนาคต ข้าเลยมีข้อเสนอมาให้ท่าน"
"ข้อเสนออะไรรึ"
"ข้าจะยังส่งผักให้ท่านตามเดิมแต่ผักข้าก็จะเอาไปทำอาหารที่โรงเตี้ยมด้วย"
"ท่านคิดว่าอย่างไรเจ้าค่ะ"
"ได้ข้าตกลงคงต้องวัดกันที่ฝีมือพ่อครัวเเล้วละ ข้าคงไปห้ามพวกเจ้าไม่ได้"อย่างน้อยครอบครัวพวกนางก็ยังส่งผักให้เขาเหมือนเดิมอย่างนี้คงวัดได้อย่างเดียวคือฝีมือคนครัว"
ท่านพ่อรับมาอ่านนางก็เข้าไปอ่านด้วยเมื่อเห็นว่าเป็นไปตามที่ตกลงท่านพ่อก็พยักหน้า
"งั้นก็เขียนชื่อท่านลงไปข้าจะเก็บฉบับนี้ไว้ส่วนท่านก็เก็บฉบับที่ข้าเขียนชื่อข้าลงไป"เมื่อทั้งสองเขียนเสร็จก็ยื่นกระดาษเปลี่ยนกันท่านอาจารย์รับกระดาษจากท่านพ่อมาใส่วิชาคงอยู่ วิชาคงอยู่จะไม่มีใครสามารถทำลายได้นอกจากจะมีปราณที่เหนือกว่า
"พวกท่านเชิญอยู่กินข้าวเที่ยงที่นี้เถอะนี้ก็เที่ยงแล้ว"
"ท่านพ่อเรากินอาหารที่นี้เถอะ"
"งั้นก็ได้" นางอยากชิมอาหารของเหลาอาหารคุณชายซูว่าจะอร่อยกว่าที่นางทำหรือไม
"เสี่ยวเอ้อไปบอกพ่อครัวให้ทำอาหารมาส่งที่ห้องนี้ บอกว่าข้ามีแขกด้วย"
"ขอรับ"
ผ่านไปสักครึ่งชั่วยามเสี่ยวเอ้อก็นำคนยกอาหารขึ้นมา
"พวกท่านเชิญ" ตามความจริงคุณชายซูต้องเป็นคนเริ่มกินก่อนเเต่เพราะมีท่านอาจารย์ของนางเขาจึงไม่กล้าข้ามหน้าข้ามตาท่านอาวุโส เมื่อท่านอาจารย์เริ่มกินพวกนางก็กินตาม
อาหารของคุณชายซูก็อร่อยเเต่นางคิดว่านางสามารถทำได้อร่อยกว่านี้เป็นเเน่ คนที่นี้ชอบทำอาหารรสไม่จัดมากนำเสนอวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารไม่เต็มที่ แต่ทำได้เท่านี้ก็ถือว่าไม่เลว
เมื่อครอบครัวนางกินเสร็จก็เดินทางไปที่โรงค้าทาสอาหารมื้อนี้คุณชายซูบอกว่าเลี้ยงเเสดงความยินดีที่นางจะสร้างโรงเตี้ยม
นางก็ไม่คิดจะปฏิเสธ
"เลี่ยงหลิ่งเรายังสร้างโรงเตี้ยมไม่เสร็จจะให้พวกเขาไปอยู่ที่ใดรึ"
"บ้านหลังเก่าเราเจ้าคะเราต้องฝึกวิธีการทำอาหารให้พวกเขาเเละสอนการทำงานให้พวกเข้าด้วยเจ้าคะ"
"งั้นรึ เดียวข้าจะช่วยเจ้าเลือกเอง"
"ขอบพระคุณเจ้าคะ"
นางเดินทางอีกสัก1จิบชาก็มาถึงโรงค้าทาสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ท้ายตลาด ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กดังไม่ไม่ขาดสาย นางยังไม่เห็นสภาพพวกเขาเลยเเค่ได้ยินเสียงนางก็สงสารจับใจ
"กลับเลยรึไมเลี่ยงหลิ่งเจ้าไม่ต้องเขาไปก็ได้"
"ข้าไม่เป็นไรเจ้าคะ พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะเจ้าคะ"
นางเดินเข้ามาเห็นคนหลายช่วงอายุนั่งเกาะกันอยู่ก็ได้แต่สงสารเพราะนางคงไม่สามารถช่วยได้ ทุกคน
"เชิญทางนี้ขอรับ"ลูกจ้างพาพวกนางเข้ามานั่งรอในห้อง"
"พวกท่านมีธุระอะไรรึ"นายหน้าค้าทาสถามพวกนางขึ้น
"ข้าต้องการทาสประมาณ20คน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตในสวนผัก