"เจ้าค่ะ ข้าจะไปเอามาให้"นางรีบวิ่งเข้าห้องเเละหาแบบที่วาดไว้แต่ห้องนางออกจะรกนิดหน่อยเพราะไม่ได้เก็บของ เมื่อหาเจอก็รีบวิ่งเอาไปให้คนของช่างมู่
"คุณหนูไม่ต้องรีบข้ารอได้"
"ข้าเกือบลืมไปเลยว่าวันนี้ต้องเอาแบบไปให้ช่างมู่ ฝากขอโทษช่างมู่ด้วย"
"ไม่เป็นไรขอรับช่างมู่เห็นว่าคุณหนูไม่มาจึงคิดว่าติดธุระจึงให้ข้าน้อยมาเอา"
ท่านพ่อยื่นเงิน เหรียญเงินให้ไป3เหรียญ
"นี้สำหรับค่าเสียเวลาขอบคุณพวกท่านมาก"
หลังจากคนของช่างมู่กลับไป
นางก็เดินไปหาท่านอาจารย์เพื่อไปฝึกปราณกับค่ายพรางตา
"วันนี้เจ้าฝึกแต่ปราณไปก่อนเถอะ"
"ทำไมรึเจ้าคะ"
"ข้าจะออกไปทำธุระข้างนอก"
"เจ้าค่ะ"นางไม่คิดจะถามว่าธุระอะไรเพราะถ้าท่านอาจารย์อยากบอกก็จะบอกเอง
"พวกทาสที่เจ้าซื้อมาเมื่อเช้ามาขอทำงานข้าจึงให้ไปช่วยงานพ่อของเจ้าที่ไร่"
"แล้วพวกเขาจะไม่รู้เรื่องผักปราณรึเจ้าคะ"
"ไม่รู้หลอกข้าไปว่างค่ายพรางเพิ่มเเล้ว เจ้าคิดจะบอกเรื่องผักปราณกับพวกเขาหรือไหม"
"ข้าจะบอกเจ้าคะ เพราะพวกเขาต้องอยู่กับพวกเราไปอีกนาน"
"ตอนไหนรึ"
"ยังไม่รู้เจ้าคะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้เจ้าคะข้ายังไม่สามารถเชื่อพวกเขาได้เต็มร้อยถ้าเกิดพวกเขาเอาความลับเราไปบอกคนอื่นอันตรายอาจตกมาที่ครอบครัวเราได้"
"อืม! รอบคอบไว้ก็ดี ใจมนุษย์สุดยั้งถึง"
"เจ้าคะ"
"งั้นเจ้าไปฝึกปราณเถอะข้าจะไปทำธุระสักหน่อย"
ลี่กวางธุระที่เขาไปทำนั้นก็คือการส่งข่าวไปให้เจ้าลูกชายที่อยู่หุบเขาเพราะมันก็ใกล้ถึงเวลาที่ยัยหนูหลิ่งเอ้อจะไปที่หุบเขา
เลี่ยงหลิ่งนางก็เดินเข้าไปนั่งใต้ต้นไม้เเละเริ่มฝึกปราณทันที
ผ่านไป2ชั่วยาม
นางค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพราะได้ยินเสียงคนเดินมาใกล้บริเวณที่นางนั่ง
"คุ คุ คุณหนู ขะ ขอรับ ฮะฮูหยินให้มาตามท่านขอรับ"
เลี่ยงหลิ่งได้เเต่มองท่าทางตลกของจือเย่ เเล้วพยายามกลั้นขำจนหน้าแดง
"ตามข้าทำไมรึ"
"มะ ไม่รู้ขอรับ ตะ เเต่ให้ท่านไปที่ไร่ขอรับ"
"อืม! ได้ ข้าขอไปเปลี่ยนชุดสักครู่เจ้ารอข้าตรงนี้ก่อน"
"ขอรับ"จือเย่ได้แต่มองตามคุณหนูเลี่ยงหลิ่งไปด้วยความชื่นชมเเเละความเคารพเพราะถ้าไม่ได้คุณหนูไถ่ตัวออกมาพร้อมท่านเเม่เขาอาจจะไม่มีชีวิตอยู่ก็ได้ เขาสัญญาว่าจะปกป้องคุณหนูด้วยชีวิต
เลี่ยงหลิ่งนางเปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินออกมาหาจือเย่
"ที่ไร่เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึป่าว"
"ไม่รู้ขอรับ"
"งั้นก็รีบไปกันเถอะเพื่อเป็นเรื่องสำคัญ"
นางใช่เวลาประมาณ1เค่อเดินมาถึงไร่ ก็รีบเดินเข้าไปหาท่านพ่อท่านเเม่
"มีอะไรรึเจ้าคะ ถึงให้จือเย่ไปตามข้าที่บ้าน"
"ไม่มีอะไรสำคัญหรอกเจ้าพักให้หายเหนื่อยเเล้วค่อยคุย"
"เจ้าคะ"นางเดินเข้าไปนั่งตักน้ำมาก็ยื่นให้จือเย่ที่ดูจะเหนื่อยกว่านางร่างกายเขาก็ดูอ่อนเเอกว่านางมากเพราะคงไม่ได้กินอาหารเเละออกกำลังเป็นเเน่
"ไม่เป็นไรขอรับข้าไม่เหนื่อยเลยขอรับ"
"รับไปเถอะดูเหงื่อเจ้าออกเยอะขนาดนั้นรึไม่เหนื่อย"
จือเย่เมื่อเห็นสายตาตำหนิที่เขาไม่ยอมรับน้ำจากนางก็ ก็รีบยื่นมือไปรับทันที
"ขอบคุณขอรับ"
เลี่ยงหลิ่งเห็นจือเย่รับน้ำไปแล้วนางก็ตักน้ำขึ้นมากินบ้างความจริงนางไม่ได้เหนื่อยอะไรเลยคงเพราะฝึกวรยุทธถึงทำให้ร่างกายนางไม่เหนื่อยง่าย พี่ใหญ่ก็มีร่างกำยำขึ้น พี่รองก็ดูสูงเเละเเข็งเเรง พวกเขาชื่นชอบการฝึกวรยุทธมาก เเละดูจะสนใจข้อเสนอที่ท่านอาจารย์เคยถามเเต่นางก็ไปตัดสินเเทนพวกเขาไม่ได้
"ท่านพ่อมีเรื่องอะไรจะปรึกษาข้ารึเจ้าคะ"
"อีก2วันจะมีเรือชาวต่างชาติมาจอดเทียบท่าที่เเม่น้ำ พ่อเลยอยากให้เจ้าไปหาซื้อพันธ์ุพืชมาเพิ่มเพราะไร่ที่เราซื้อเพิ่มก็พรวนดินเสร็จเเล้ว"
"เเล้วทำไมเราไม่ซื้อที่ร้านในเมืองเจ้าคะ"
"เมล็ดที่เราไปซื้อในเมืองก็ซื้อมาปลูกซ้ำหลายรอบเเล้ว พ่อคิดว่าน่าจะซื้อเพิ่มเพราะเราก็จะมีโรงเตี้ยมอีกถ้าเราส่งผักปราณให้คุณชายซูอาหารคงจะเหมือนหรือเเตกต่างกันไม่มากเพราะใช้ผักชนิดเดียวกัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตในสวนผัก