พอซูหว่านได้ยินว่ามีคนจากสำนักศึกษามาหา ก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที นางรีบหันไปมองปฏิกิริยาของซูจิ่ง
ทว่าซูจิ่งกลับไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพียงแต่บอกว่าพรุ่งนี้จะลองไปที่สำนักศึกษาดูว่ามีธุระอะไรกับเขา
จะได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าสองพ่อลูกตระกูลจ้าวเริ่มวางแผนการแล้ว หวังจะคว้าตัวพี่ชายของนาง ว่าที่บัณฑิตจิ้นซื่อในอนาคตไปเป็นลูกเขย
“พี่ใหญ่ ข้าจะไปกับท่านด้วย!” ซูหว่านรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที
“เจ้าจะไปทำไมกัน อากาศหนาว อยู่บ้านดีเถิด อยากได้อะไร เดี๋ยวพี่ใหญ่จะซื้อกลับมาฝาก” ซูจิ่งคิดว่าที่ซูหว่านอยากไปด้วยเพราะต้องการจะซื้อของ
“ข้าจะไปซื้อของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง พี่ใหญ่คงไม่สะดวก”
อย่างไรเสียนางก็ต้องไปให้ได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าซูจิ่งจะเดินทางเข้าเมืองหลวง นางจะจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด ต้องไม่ให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ
นางแสร้งแต่งเรื่องขึ้นมาเล็กน้อย ซูจิ่งก็ไม่ได้สงสัยอันใด ของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง เขาก็ไม่สะดวกใจที่จะไปซื้อให้จริง ๆ
“ก็ได้ เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้า เจ้าก็ไปกับข้าเถิด”
หลังจากป้าจ้าวกลับไปแล้ว ครอบครัวตระกูลซูก็ช่วยกันจัดแจงที่หลับที่นอนให้ซูอวิ๋นเรียบร้อย ส่วนแม่ซูก็วางแผนว่าพรุ่งนี้จะเข้าเมืองไปแลกเงินในบ้านให้เป็นตั๋วเงินเพื่อสะดวกแก่การเก็บรักษา อีกทั้งยังต้องซื้อของเตรียมสำหรับปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษคำกลอนมงคลหรือประทัด ของเหล่านี้ยังไม่ได้จัดเตรียมเลยแม้แต่อย่างเดียว
ช่างบังเอิญนัก ซูหว่านที่กำลังกลุ้มใจว่าพรุ่งนี้จะซื้อของใช้ส่วนตัวอะไรดี ระดูของร่างนี้ก็มาพอดี
นางไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่ปวดท้องอีกด้วย ส่วนใหญ่ต้องยกความดีความชอบให้เจ้าของร่างเดิมที่ได้รับการบำรุงเลี้ยงดูมาอย่างดีที่ตระกูลกู้ จึงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวด
นางยังจำได้ว่าในยุคปัจจุบัน วัยเด็กของนางต้องลำบากเหลือแสน ต้องอาศัยอยู่กับน้าสะใภ้ กินไม่อิ่มนอนไม่อุ่น ส่งผลให้หลังจากมีระดูครั้งแรก ก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดราวกับจะตายทั้งเป็นทุกเดือน
ความรู้สึกแบบนี้ช่างดีเหลือเกิน นางไปขอผ้าอนามัยแบบซักได้จากแม่ซู พอแม่ซูได้ยินว่านางมีระดูก็ดีใจไม่น้อย
“รอเดี๋ยว แม่จะเย็บผืนใหม่ให้เจ้าสักสองสามผืน ร่างกายเจ้าไม่สะดวก พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปอำเภอแล้ว พักผ่อนอยู่ที่บ้านให้ดีเถิด”
จะได้อย่างไร นางยังต้องเฝ้าดูพี่ใหญ่อยู่นะ
ผ้าอนามัยในยุคนี้ไม่ได้ดีนัก หากวันไหนมามากก็อาจจะซึมเปื้อนกางเกงได้ ดังนั้นเมื่อถึงช่วงเวลานี้ของเดือน ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงมักจะอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ที่บ้านเรายังมีนุ่นอยู่มิใช่หรือ รองไว้หลายชั้นหน่อยก็ใช้ได้แล้ว”
ในตอนนี้ นางกลับรู้สึกว่าการมาของมันช่างไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย กลับกลายเป็นการจำกัดการเคลื่อนไหวเสียมากกว่า
ซูเฉินรู้สึกสงสัยยิ่งนัก คำว่าต้องพาเขากลับมาให้ได้นั้นหมายความว่าอย่างไรกัน?
“เจ้าคิดว่าการไปสำนักศึกษาของพี่ใหญ่คราวนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างนั้นหรือ?”
ซูหว่านพยักหน้า แล้วจึงเล่าเรื่องที่ตนแต่งขึ้นให้เขาฟัง
“ตอนที่ข้าไปหาพี่ใหญ่ที่สำนักศึกษาครั้งก่อน ข้าไปเจอความลับหนึ่งเข้า อาจารย์ใหญ่มีบุตรสาวใช่หรือไม่? ดูเหมือนว่านางจะหมายตาพี่ใหญ่ของเราเข้าแล้ว คอยตามตอแยพี่ใหญ่เราอยู่เรื่อย อยากจะแต่งให้เขาให้ได้”
“นี่มันเรื่องน่ายินดี บุตรสาวของอาจารย์ใหญ่แห่งสำนักศึกษาจงอวิ๋น ย่อมต้องเป็นกุลสตรีที่เปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถ เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม เหมาะสมกับพี่ใหญ่อย่างยิ่ง เป็นคู่ครองที่เพียบพร้อม!”
ด้วยบารมีของผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นถึงบัณฑิตจวี่เหริน จ้าวซีอวิ๋นจึงราวกับมีม่านมากรองไว้ คนนอกล้วนคิดว่านางจะต้องเป็นเหมือนบิดาของนาง
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว มีเพียงคนที่คุ้นเคยกับนางเท่านั้นจึงจะรู้ว่านางนั้นร้ายโดยสันดาน
“ไม่เลย ไม่เลย ท่านไม่รู้จักนาง ท่านจึงไม่รู้ ตอนที่ข้ายังเป็นคุณหนูตระกูลกู้ ในแวดวงของคุณหนูในอำเภอ ข้าก็เคยคบหาสมาคมกับนางอยู่บ้าง นางแตกต่างจากคำร่ำลือโดยสิ้นเชิง ตรงกันข้าม นางถูกที่บ้านตามใจจนเสียคน หยิ่งยโสโอหังที่สุด นางยังเคยประกาศกร้าวว่า มีเพียงบัณฑิตจิ้นซื่อผู้มีความสามารถและรูปโฉมเพียบพร้อมเท่านั้นจึงจะคู่ควรกับนาง คนธรรมดาสามัญนางไม่เคยชายตามอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว พี่สามยังคิดว่านางเป็นคู่ครองที่เพียบพร้อมอยู่อีกหรือ?”
คำพูดเหล่านี้มิใช่นางกุขึ้นมาเอง เจ้าของร่างเดิมเคยคบหาสมาคมกับนางจริง เพียงแต่ตอนนั้นอายุแค่เจ็ดแปดขวบเท่านั้น วันที่ได้เจอกัน ซูหว่านในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปมากแล้ว นางจึงจำไม่ได้ว่าเป็นตน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...