“ไม่ได้ พวกเราล้วนทำตามคำสั่งของนายน้อย เมื่ออยู่ในตำเเหน่งก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตระกูลซูมีบุญคุณต่อการช่วยชีวิตนายน้อยของเรา พวกเราทำสิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่สมควรเเล้ว” เฟิงอิ่งเเสดงความกังวลอย่างมาก
นายน้อยบอกว่า ต้องให้ความเคารพต่อคนตระกูลซู โดยเฉพาะคุณหนูตระกูลซู ปกติเเล้วต้องดูเเลเป็นพิเศษ
พวกเขายังไม่เคยเห็นนายน้อยใส่ใจผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน เเต่นี่ก็ไม่น่าเเปลกใจ เพราะแอบสังเกตุมา คุณหนูตระกูลซูสวยสดงดงามราวกับบุปผาเเละดวงจันทร์ ทั้งยังฉลาดหลักเเหลมอย่างยิ่ง ไม่น่าเเปลกใจที่นายน้อยจะมองนางด้วยสายตาที่เเตกต่างออกไป
ตราบใดที่นางเป็นผู้หญิงที่นายน้อยชอบ นางก็จะเป็นพี่สะใภ้เพียงคนเดียวของพวกเขา ต้องได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ
ปฏิบัติเเบบนี้ ในนิยายต้นฉบับ กู้เย่ว์ไม่เคยได้รับ เจียงอวี้ช่วงเเรกไม่รู่สึกอะไรกับนาง ส่วนช่วงหลังก็ไม่ได้รู้สึกว่าขาดนางไม่ได้
ผู้เขียนเคยกล่าวไว้ว่า เจียงอวี้เป็นคนที่ไม่ยอมประนีประนอมในเรื่องความรู้สึก จุดเริ่มต้นของความรู้สึกต่อกู้เยว์เพียงเพราะนางเเตกต่างจากคนอื่น ทำให้เขามองนางสูงขึ้นมาเล็กน้อย เเต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาชอบนางถึงขั้นสละชีวิตได้ เเถมตรงกลางยังมีบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตคั่นอยู่ด้วย
เขาไม่ยอมประนีประนอมในเรื่องความรัก ไม่ยอมเเต่งงานไปชั่วชีวิตเพียงเพราะนางเอกเเต่งงานกับคนอื่น ในความคิดของเขา หากจิตวิญญาณไม่สามารถเข้ากันได้ เเม้จะไม่ชอบกู้เย่ว์ เขาก็เลือกที่จะไม่เเต่งงานไปชั่วชีวิต
ซูหว่านรออยู่ในบ้านนานมาก จนกระทั่งคนที่เฟิงอิ่งส่งมาเเจ้งข่าวว่าปลอดภัย คนของเขายังเเต่งตัวปลอมเป็นเด็กรับใช้ในร้าน สวมชุดเด็กรับใช้
“คุณชายใหญ่ซูเมามาก เคลื่อนไหวไม่สะดวก ได้พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมของพวกเราเเล้ว คุณชายสามซูให้ข้ากลับมาเจ้งข่าวว่า คืนนี้เขาจะอยู่เป็นเพื่อนคุณชายใหญ่ซู ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณหนูสบายใจได้”
ดึกดื่นป่านนี้ เด็กรับใช้คนนี้มาคนเดียว ข้ามเขาข้ามห้วยมาเเจ้งข่าวได้ ใจกล้าจริงๆ ไม่กลัวเจอสัตว์ป่าอะไรเลย
แม่ซูคิดเอาเองว่าซูหว่านเป็นห่วงที่ซูจิ่งกลับดึก ไม่ได้คิดอะไรมากนัก ซ้ำยังให้เด็กรับใช้พักค้างคืนด้วย
“พ่อหนุ่มคนนี้ ตกดึกน้ำค้างลงจัด ในป่านี้มีสัตว์ป่ามากมาย เดินทางไม่สะดวก สู้ทนลำบากนิดหน่อย เบียดๆกับลูกชายของข้า รอจนฟ้าสางพรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย”
ซูมู่เเละซูอี้ที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ยินเเล้วก็มองหน้ากัน รู้สึกว่ามันเเปลกๆ
ความคิดของพวกเขาตรงกับซูหว่าน เด็กรับใช้ตรงหน้าคนนี้เสื้อผ้าไม่ค่อยพอดีตัว เขาสูงใหญ่เเข็งเเรงดูเหมือนคนฝึกวิชามา
เเละโดยทั่วไปเเล้ว คนรูปร่างเเบบเขา ถ้าออกไปหางานทำ จะมีช่องทางหาเงินได้มากกว่าการเป็นเด็กรับใช้มากมายนัก
“ไม่รบกวนฮูหยิน ข้ายังมีเพื่อนร่วมทางรออยู่ ขอตัวไม่ค้างคืนขอรับ” เด็กรับใช้ปฏิเสธความหวังดีของเเม่ซู
น่าสงสารซูเฉินผู้เป็นเครื่องมือ นอกจากจะต้องวิ่งไปวิ่งมาเเล้ว ยังต้องดูเเลพี่ใหญ่ที่เมาตลอดคืน พอเพิ่งจะหลับไปได้ไม่นาน โรงเตี๊ยมก็มีเสียงผู้หญิงร้องไห้โหยหวนเหมือนผีดังขึ้น
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือจ้าวซีอวิ๋น
เมื่อคืนวาน นางกำลังนอนรออยู่ในห้องที่เตรียมไว้สำหรับซูจิ่ง รอให้คนนำซูจิ่งที่ถูกวางยาเสน่ห์มาส่งให้นาง เพื่อที่ข้าวสารจะได้กลายเป็นข้าวสุก
เเต่ว่า คนของเฟิงอิ่งล่วงรู้เข้า ดังนั้นจึงหาวิธีทำให้จ้าวซีอวิ๋นสลบ จากนั้นส่งไปอีกห้องหนึ่ง
ตอนที่พวกเขาได้รับคำสั่งให้ปกป้องคนในตระกูลซู พวกเขาได้ตรวจสอบประวัติทุกคนในตระกูลซูแล้ว จึงรู้ว่าซูจิ่งมีศัตรูตัวฉกาจที่ไม่ถูกกันที่สำนักเรียน เเละไม่ใช่คนดีอะไรนัก เหมาะสมกับคุณหนูตระกูลจ้าวผู้นี้ราวกับกิ่งทองใบตำเเย
จากนั้น พวกเขาก็สลับเหล้าที่เด็กรับใช้เตรียมไว้ใส่ยาเสน่ห์กับเหล้าธรรมดา เหล้าที่มียาเสน่ห์ถูกฉีหย่วนดื่มเข้าไป จากนั้นก็เป็นไปตามที่ควรจะเป็นกับคุณหนูตระกูลจ้าวโดยปริยาย
ส่วนทางด้านซูจิ่ง เด็กรับใช้ก็เเค่ทำตามคำสั่งส่งเขาไปที่ห้องที่ตกลงกันไว้ ส่วนเรื่องอื่นๆก็ไม่สนใจเลย
ดังนั้น จ้าวซีอวิ๋นจึงได้ราตรีเเห่งความสุข เเต่เมื่อตื่นขึ้นมากลับพบว่าคนที่อยู่ข้างกายคือ ฉีหย่วน นางคิดถึงท่าทีลามกของตัวเองเมื่อคืน เเล้วมองดูร่างกายที่เปล่าเปลือยของตัวเอง ก็กรีดร้องออกมาทันที

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...