ซูเปอร์หมอเข็ม นิยาย บท 42

ตอนที่ 42 ไม่ใช่เรื่องที่ล่าช้า

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็ทำอาหารง่ายๆกิน นำเอาปากกา น้ำหมึก และกระดานไม้อันใหญ่ที่เมื่อก่อนใช้ฝึกเขียนออกมา เอาพู่กันจุ่มน้ำหมึกแล้วขีดเขียนเส้นอย่างมีพลังแม้แต่มังกรเห็นก็ตื่นตะลึง

หลังจากที่ได้เขียนตัวอักษรที่งดงามดั่งมีชีวิตชีวาจำนวนหนึ่ง หลินหยางพยักหน้าด้วยความพอใจ ตามศักยภาพที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้น ตนเองเขียนตัวหนังสือนับวันก็ยิ่งมีพลัง

หลังจากหลินหยางเสร็จจากการฝึกคัดตัวอักษร เวลาก็ล่วงเลยไปสิบโมงกว่าแล้ว หลินหยางจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วปิดประตูเดินออกไปข้างนอก

เดินไปทางแม่น้ำซี บริเวณตรงนั้นพวกหู่จือยังคงกำลังอาบน้ำกันอยู่ ระหว่างทางที่เดิน หลินหยางก็พบเห็นคนจำนวนมากกำลังหักข้าวโพดอยู่ แยกข้าวโพดลงมา ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณของการเฉลิมฉลองของการเก็บเกี่ยวที่ดี

แต่ว่าคนที่ทำงานในที่นาส่วนมากจะเป็นคนแก่และเด็กผู้หญิง พวกคนหนุ่มก็ไปทำงาน

มาถึงแม่น้ำซีแล้ว มองไปที่น้ำแม่น้ำที่ใสสะอาด คาดไม่ถึงว่าไม่มีคนกำลังอาบน้ำเลย หลินหยางก็ยืนปวดหัวอยู่พักนึง

โถ่เอ๊ย คงจะไม่ไปแยกข้าวโพดกันหมดนะ หลินหยางด่าออกมาแล้วเดินไปทางบ้านของหู่จือทันที เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะหาไม่เจอ

เมื่อหลินหยางถึงบ้านหู่จือ ผู้ที่หูดีอย่างหลินหยางก็ได้ยินเสียงที่ดังต่อเนื่องออกมาจากข้างใน

เมื่อเปิดประตูบ้านของหู่จือไปยังลานบ้าน ทิศเหนือของลานบ้านถึงจะเป็นห้องที่พัก

“แม้แต่ประตูลานบ้านก็ไม่ปิด เขาไม่กลัวคนเข้ามาหรอ?” ขณะที่หลินหยางบ่นอยู่ในใจแล้วกำลังจะเดินออกไปนั้น บังเอิญไปเห็นหญิงสาวคนนึงกำลังนอนอยู่ในบริเวณซอกหน้าต่าง เขาเลยแอบมองเข้าไปด้านใน

จังหวะก้าวของหลินหยางเบามาก หญิงสาวคนนั้นไม่แม้แต่จะได้ยิน สำหรับหญิงสาวคนนี้แล้วหลินหยางก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าอะไรเพราะเธอคือพี่สาวของหู่จือ เหมือนจะชื่อลั่วหยิ่ง ปีนี้อายุ 19 แล้ว

ตอนแรกคิดว่าจะเดินออกมาเลยแต่แล้วก็ละทิ้งความคิดนั้น เขาเข้ามาข้างๆลั่วหยิ่งอย่างเงียบๆ ตีไปที่หลังของลั่วหยิ่ง

จู่จู่ก็รู้สึกเหมือนมีคนมาตีข้างหลังของตนเอง ลั่วหยิ่งตกใจมากเลยร้องออกมาแต่ก็โดนฝ่ามืออันใหญ่ปิดมากเธอไว้

ชวู่ชวู่----- หลินหยางเอานิ้วชี้วางไว้ที่ปากข้างหน้า ส่งสัญญาณว่าให้เงียบๆอย่าเสียงดัง

แม้ว่าหลินหยางจะเรียนอยู่ที่เมืองเจียงหลิงหลายปีแต่ก็มักจะอาทิตย์นึงถึงจะกลับบ้านครั้งนึง และลั่วหยิ่งก็ขึ้นมัธยมปลาย สองคนเลยไม่ค่อยได้เจอกัน

ตอนนี้หลินหยางก็เห็นรูปร่างหน้าของลั่วหยิ่งอย่างชัดเจนขึ้น

ลั่วหยิ่งหน้าตาสวยงาม รูปร่างประมาณ165 เซนติเมตร หน้ากลมๆ ตาสองข้างกลมโต ดูแล้วอ่อนหวานมาก ตอนนี้ดวงตาที่กลมโตของเธอหน้าแดงเล็กน้อยมองไปที่หลินหยาง เหมือนกับไม่เข้าใจว่าพ่อหนุ่มคนนี้เข้ามาได้อย่างไร

มองไปที่หญิงสาวที่ลมหายใจถี่กระชั้น ราวกับกระต่ายน้อยที่ตื่นตระหนกตกใจมาก หลินหยางยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่รีบร้อนที่จะให้ความสนใจลั่วหยิ่ง และสายตามองไปที่รอยแตกของหน้าต่างไม้

เมื่อเห็นหลินหยางมองเข้าไปข้างใน ในใจลั่วหยิ่งไม่ได้กังวลอะไรเพียงแค่อยากดึงหลินหยางออกเท่านั้น แม้มือของเธอจะแตะโดนหลินหยางแล้วแต่ทว่าไม่ว่าจะใช้แรงดึงมือของหลินหยางออกขนาดไหนเขาก็ยังคงอยู่นิ่งเหมือนเดิม

เมื่อมองดูสถานการณ์อย่างทะลุปรุโปร่งในใจของหลินหยางก็รู้สึกประหลาดเป็นอย่างมาก

ลั่วหยิ่งอยู่ข้างในนี้ยังมองไม่เห็นพ่อกับแม่ของเธอแต่ก็คาดไม่ถึงคนข้างในคือพ่อของลั่วหยิ่งกับหลี่ซูเฟิน

สุดท้ายครั้งนี้หลินหยางก็รู้แล้วว่าหลี่ซูเฟินจริงๆแล่วมั่วแค่ไหน คืนมะวานมีอะไรกับหนิวเฮิงแล้ว ยังมีอะไรกับตนเองอีกชั่วโมงกว่า แม้ว่าจะผ่านไปแค่คืนเดียว ก็ยังจะมายั่วพ่อของลั่วหยิ่งที่บ้านอีก

มองหลี่ซูเฟินที่เอนกายอยู่บนเตียง สองขาเรียวสวยยกไปที่เอวของพ่อลั่วหยิ่ง ลั่วหย่งออกแรงอย่างขยันขันแข็งเพื่อหลี่ซูเฟิง

“ต้าหย่ง ทำไมอยู่ๆก็กลับมาหล่ะ?” หลี่ซูเฟินรีบถาม

“ฉันกลับมาเอากระสอบเพื่อเอาไปใส่ข้าวโพด หลังจากนั้นก็บังเอิญเจอเธอ เธอกลับมาทำอะไร?” ลั่วหย่งถาม

“จะทำอะไรหล่ะ ก็เหมือนคุณนั่นแหละ แต่พอเจอคุณคุณก็ลากฉันเข้ามาในบ้าน คุณไม่กลัวลูกชายกับลูกสาวกลับมาเห็นหรอ” หลี่ซูเฟินพูดด้วยเสียงออดอ้อนเอื่อยๆขณะอยู่บนเตียง

เสียงของทั้งสองแม้ว่าจะไม่ดังนัก แต่ก็เข้ามาที่หูของหลินหยางกับลั่วหยิ่งอย่างชัดเจน

หลินหยางมองไปที่ตาของลั่วหยิ่งอย่างครุ่นคิด แต่คล้ายกับรับรู้ถึงแววตาของหลินหยาง ลั่วหยิ่งจึงยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆหลินหยาง งุนงงทำอะไรไม่ถูก

ทุกคนทำงานอยู่ที่ไร่ข้าวโพด จะกลับมาได้ยังไง? พวกเราทำแค่แปปเดียว ไม่ใช่เรื่องที่ล่าช้า ลั่วหย่งพูดแล้วทำต่อ ใช้แรงในการทำมากขึ้น

พวกเราเร็วๆหน่อย คุณเพิ่มแรงอีกหน่อย อย่าสงสารฉัน! หลี่ซูเฟินร้องออกมา ทั้งในห้องก็อบอวลไปด้วยอารมณ์รักอย่างทันใด

ในขณะที่หลินหยางกำลังเพลิดเพลินไปกับสถานการณ์สู้รบของข้างใน อยู่ๆก็เจ็บแขนเลยรีบมองลงไปดู กลับพบว่าลั่วหยิ่งกำลังหยิกแขนตนเองอยู่ เมื่อเห็นหลินหยางมองมาที่ตน เลยทำปากเป็นสัญลักษณ์ว่าไปได้แล้ว แล้วดึงหลินหยางให้ออกไปข้างนอก

แม้ว่าหลินหยางอยากที่จะอยู่ดูแต่ก็ถูกลั่วหยิ่งดึงตัวและก็รู้สึกไม่ดีที่อยู่ตรงนี้นานๆเลยตามลั่วหยิ่งออกไป

เมื่อปิดประตูใหญ่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่สองคนกำลังเดินนั้น บรรยากาศออกจะเก้อเขินนิดหน่อย

“ลั่วหยิ่ง เธอเรียนอยู่ชั้นอะไรแล้ว หลินหยางถามเพื่อทำลายบรรกาศอันสงบเงียบ”

“จบชั้นมัธยม6แล้ว ยังรอใบประกาศ ลั่วหยิ่งพูดด้วยเสียงเล็ก”

“โหว? เธอสอบเข้าที่ไหน? เมื่อหลินหยางได้ยินว่าอยากสอบเข้ามหาลัยเลยรีบถาม”

“ฉันสมัครไปที่มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์อยู่ที่เมืองเจียงหลิงของเรานี่แหละ น่าจะผ่านนะ ได้ยินมาว่าตอนนี้เป็นหมอค่อนข้างจะเนื้อหอม ฉันเลยสมัคร” ลั่วหยิ่งพูดอย่างหน้าแดงด้วยเสียงเล็กๆ ทันทีที่นึกได้ มองไปที่หลินหยางแล้วถาม “นายก็เข้ามหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไม่ใช่หรอ”? มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ดีหรือไม่ดี

ก็ไม่เลว เธอสมัครแพทย์แผนจีนหรือแพทย์แผนปัจจุบัน? หลินหยางถาม

แพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนจีนจะมีประโยชน์อะไร ลั่วหยิ่งพูดอย่างไม่สนใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์หมอเข็ม