ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1

นี่เป็นไปไม่ได้เลย

จางจิ่นสมควรรักษาชีวิตไว้เพื่อรับใช้ต้าเว่ย

เขายังไม่ได้เป็นขุนนางที่แท้จริง ดังนั้นจะมาตายเช่นนี้ไม่ได้

ทว่าหลังจากคิดแล้วคิดอีก จางจิ่นใช้สมองอย่างหนัก และไม่สามารถคิดหาวิธีที่จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองทางได้

ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ เฮยหลังผู้ติดตามคนโปรดที่อยู่เคียงข้างเว่ยเชียนชิวก็กลับมาแล้ว

เฮยหลังบอกเว่ยเชียนชิวว่ายามนี้ในเมืองหลวงมีเสียงสาปแช่งเว่ยเชียนชิวและยกย่องเซียวเฉวียนทั่วทุกที่ ขณะที่ยกย่องเซียวเฉวียนขึ้นฟ้า ก็สาปแช่งเว่ยเชียนชิวลงหล่มไปด้วย

ประชาชนต่างเตรียมตัว เพื่อมาสร้างปัญหาที่จวนจาง

เมื่อเขาได้ยินข่าวที่เฮยหลังไปสืบมา ใบหน้าเว่ยเชียนชิวมืดลงทันที

โอ้บรรพบุรุษ!

พิธีบังสุกุล[1]ถูกทำลาย เว่ยเชียนชิวจำต้องระงับความโกรธไว้ เนื่องจากไม่มีที่ให้จะระบายความโกรธ

ตอนนี้เขาตกเป็นเป้าหมายของการวิจารณ์จากสาธารณชนแล้ว!

เซียวเฉวียนช่างมีความสามารถ!

ความโกรธในหัวใจของเว่ยเชียนชิวทำให้เส้นเลือดโป่งพอง ศีรษะของเขาเริ่มปวด เขาลูบขมับอย่างอ่อนแรง ดวงตาแดงก่ำระเบิดความดุร้าย

ในสถานการณ์เช่นนี้ เว่ยเชียนชิวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าวังเพื่อซ่อนตัวจากข่าวลือ

เขาไม่เชื่อว่าคนไร้ยางอายเหล่านั้นสามารถไปสร้างปัญหาถึงประตูวังโดยยังชีวิตได้!

ไม่เสียเวลาอีกต่อไป เว่ยเชียนชิวเข้าวังเงียบๆ โดยไม่แม้แต่จะเอ่ยคำใด

ช่างน่าละอายจริงๆ!

ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าฮ่องเต้จะเชิญอย่างไร เว่ยเชียนชิวก็ไม่ยอมก้าวเข้าวังเลยด้วยซ้ำ

ยามนี้เว่ยเชียนชิวกลับริเริ่มที่จะเข้าไปหลบภัยในวังหลวงด้วยความสิ้นหวัง

มันคงเป็นเรื่องน่าอายมากที่จะกล่าวถึง

ดังนั้นเว่ยเชียนชิวจึงเข้าไปในวังอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้ใครถูกค้นพบ จากนั้นเว่ยเชียนชิวก็เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในที่ประทับของไทเฮาโดยตรง

นับตั้งแต่ไทเฮาถูกเซียวเฉวียนแช่ในบ่อน้ำ ที่ประทับของไทเฮาก็ว่างเปล่า ข้ารับใช้ทั้งหมดล้วนถูกส่งออกไป

ดังนั้นเว่ยเชียนชิวจึงอาศัยอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบสุข

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ จึงไม่จำเป็นต้องอับอาย

หึ!

เจียนกั๋วผู้สง่างามแห่งแคว้น ถูกเซียวเฉวียนเด็กเหลือขอตัวน้อย

บังคับให้ต้องทำเช่นนี้ เว่ยเชียนชิวยังมีความรู้สึกผสมปนเปด้วยความสับสน

ทว่าบ่อน้ำที่ไทเฮาทรงอยู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากที่ซึ่งไทเฮาประทับอยู่

ดังนั้นเว่ยเชียนชิวจึงได้ยินเสียงแหบแห้งของไทเฮาร้องขอความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว “ช่วยด้วย ปล่อยข้าออกไป!”

เสียงแหบแห้งนี้ ทำให้เว่ยเชียนชิวอารมณ์เสียเล็กน้อย

แต่เขาต้องอดทน

เขาไม่สามารถช่วยไทเฮาได้ และเขาก็ไม่อยากช่วย ไม่อยากให้ไทเฮารู้ว่าตนเข้ามาในวังหลวง

ถูกหญิงผู้หนึ่งรู้ว่าเว่ยเชียนชิวกำลังใช้ชีวิตอยู่ในความยุ่งเหยิงเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอม

ด้วยวิธีนี้ เว่ยเชียนชิวจึงออกจากจวนจางเพียงลำพัง แม้กระทั่งจางจิ่นก็ยังไม่รู้ และจางจิ่นยังคงคิดหนักเพื่อเกี่ยวกับหนทางช่วยเว่ยเชียนชิวลี้ภัยชั่วคราว

จางจิ่นคิดเรื่องนี้ทั้งคืน แต่เขายังไม่สามารถคิดหาเหตุผลที่น่าเชื่อถือไปกว่านี้ได้

เรื่องนี้ทำให้จางจิ่นกังวลมากจนเขาไม่อยากอาหารและเครื่องดื่มด้วยซ้ำ

ไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับคนธรรมดาที่สร้างปัญหา เมื่อปัญหาเกิดขึ้นในจวนจาง แม้พวกเขาจะไม่รื้อจวนจาง อย่างไรจวนจางก็ต้องไม่จบลง

ขอเพียงพวกเขาตรวจสอบว่าไม่มีร่องรอยของเว่ยเชียนชิวในจวนจางจริงๆ พวกเขาจึงจะปล่อยจวนจางไป

ทันใดนั้น พ่อบ้านก็เข้ามาอย่างตื่นเต้น “ใต้เท้า”

พ่อบ้านตระหนักได้ว่าตนตื่นเต้นเกินไป เกรงว่ากำแพงจะมีหู เขาจึงเอาปากแนบหูแล้วลดเสียงลง “ใต้เท้า ข่าวดี เจียนกั๋วไม่ได้ออกจากห้องพัก ไม่แน่ว่าอาจจากไปแล้วขอรับ”

“โอ้? จริงหรือ?” ดวงตาของจางจิ่นเป็นประกายเมื่อเขาได้ยินเช่นนี้

“จริงขอรับ เมื่อครู่ข้าน้อยไปส่งอาหารเช้า ก่อนพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน จึงค้นดูอีกครั้งก็ยังไม่พบใครเลย” พ่อบ้านกล่าวยืนยัน

“เยี่ยม!” จางจิ่นพูดอย่างตื่นเต้น

ตอนนี้เสวียนอวี๋ติดอยู่ในม่านพลัง เขาไม่มีพลังที่จะสู้กลับ ดังนั้นจะให้เสี่ยวเซียนชิวสัมผัสไม่ได้

เมื่อได้รับอนุญาตจากเซียวเฉวียน เสี่ยวเซียนชิวก็คำราม “หึ! ถึงทีข้าแล้ว!”

หลังจากพูดเช่นนั้น เสี่ยวเซียนชิวก็ยืดกล้ามเนื้อ กำหมัดแน่น แล้วปล่อยหมัดใส่เสวียนอวี๋ ทุบหลังของเขาอย่างแรง

การเคลื่อนไหวโจมตีคนจากระยะไกลของเสี่ยวเซียนชิว ได้รับมาจากมังกรเขียว

เนื่องจากมันถูกมาจากมังกรเขียว จึงมีส่งเสริมม่านพลังมังกรเขียวด้วยเช่นกัน

นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวเซียนชิวใช้มัน เมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเสวียนอวี๋ เสี่ยวเซียนชิวก็ยกยิ้มอย่างพึงพอใจ

สิ่งของจากบรรพบุรุษมีประโยชน์มาก

ใช่ ใช่แล้วเสี่ยวเซียนชิวจะเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมจากมังกรเขียว ในอนาคตจะช่วยเซียวเฉวียนสู้กับคนเลว

“คืนพู่กันให้บิดาข้า” เสี่ยวเซียนชิวมองเสวียนอวี๋ด้วยความภาคภูมิใจ

เสวียนอวี๋ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด จ้องมองเสี่ยวเซียนชิวด้วยความโกรธ “อย่าแม้แต่จะคิด!”

หลังจากได้รับความเดือดร้อนมามากแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่ เสวียนอวี๋จะมอบพู่กันเฉียนคุนอย่างเชื่อฟัง!

ในความจริง เซียวเฉวียนไม่คิดว่าเสี่ยวเซียนชิวจะเอาชนะเสวียนอวี๋ได้ และสามารถนำพู่กันจินหลุนเฉียนคุนกลับมา เซียวเฉวียนเพียงอยากสั่งสอนเสวียนอวี๋ ว่าถ้าเขาออกไป ไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องได้รับการชำระคืน

ตัวอย่างเช่น เมื่อเสวียนอวี๋ตบเสี่ยวเซียนชิวด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้าจากอากาศ เซียวเฉวียนก็จะให้เสี่ยวเซียนชิวตบคืน

เสี่ยวเซียนชิวเป็นชุดคลุมบุผ้าฝ้ายตัวเล็กๆ ของเขา เซียวเฉวียนทนไม่ได้ที่จะสาปแช่งเขา โดยธรรมชาติแล้ว เขาทนไม่ได้ที่คนอื่นรังแกเสี่ยวเซียนชิว

“เจ้าคิดว่าข้าไม่สามารถเอาพู่กันเฉียนคุนกลับมาได้จริงหรือ?” เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว มองเสวียนอวี๋อย่างไม่ไยดี “ในเมื่อมังกรเขียวสามารถจับตัวเจ้าได้อย่างง่ายดาย จะมีปัญหาอะไรในการดึงพู่กันกลับมาจากเจ้า”

“ฮึ่ม!” คำพูดของเซียวเฉวียนฟังดูสมเหตุสมผล เสวียนอวี๋ไม่มีอะไรจะพูด ทำได้เพียงส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา และแสดงความไม่พอใจต่อเซียวเฉวียน

“เป็นอย่างไร? เจ้าคืนพู่กันให้ข้า แล้วข้าจะให้มังกรเขียวปล่อยเจ้าไป ดีไหม?” เซียวเฉวียนถามอย่างไม่มั่นใจ

..........

เชิงอรรถ

[1] พิธีบังสุกุล (安魂礼) การบูชาผู้ล่วงลับ และในการสวดบังสุกุลจะเป็นการสวดเพื่อให้ผู้ฟังและผู้รับบทสวดเกิดความปลงกับความเที่ยงของสังขาร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย