ดังนั้นการที่จ้าวหลานจึงมาหาเซียวเฉวียนในครั้งนี้ อีกความหมายหนึ่งคือการบอกลา
หลังจากนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกเมื่อใด
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตือนเซียวเฉวียนให้ระวังอู๋ฟาน
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนไม่คิดสนเขาเลย
ตลอดเส้นทาง ไม่เคยเห็นใครเหมือนเซียวเฉวียน พวกที่ตกอยู่ในมือของเขา ไม่มีสิ่งไหนเลยที่ไม่ใช่มังกรหรือหงส์?
เซียวเฉวียนไม่เคยกลัว!
ไม่ต้องพูดถึงอู๋ฟาน แม้ว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากเว่ยเชียนชิว แต่เซียวเฉวียนก็ไม่กลัว
อย่างไรก็ตามเซียวเฉวียนอย่างขอบคุณจ้าวหลานที่เมตตามาเตือนเขา เขาจึงพูดเบาๆ “ทราบแล้ว เจ้าก็ควรระวังด้วยเช่นกัน”
แม้ว่าเว่ยเชียนชิวจะเสียชีวิต แต่ราชสำนักก็ดูสงบสุขดี
แต่สิ่งที่ราชสำนักไม่เคยขาดคือการวางอุบายและความทะเยอทะยาน
ถ้าใครอยากจะรับช่วงต่อ ก็ต้องมีคนสละตำแหน่ง
หากคนที่มีความทะเยอทะยานรู้ว่าจ้าวหลานเดินทางไกล การสร้างอุบัติเหตุ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
จ้าวหลานย่อมเข้าใจดีว่าเซียวเฉวียนหมายถึงอะไร เขายิ้มบางแล้วพูดว่า “ข้าทราบดี”
ทั้งสองพูดคุยกันเป็นเวลานาน จากนั้นจ้าวหลานก็ออกจากจวนเซียวไปพร้อมกับความคิดที่ยังไม่สิ้นสุด
เนื่องจากการสิ้นชีพของเว่ยเชียนชิว ทำให้ไม่มีการต่อสู้กันโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในต้าเว่ย อำนาจกลับคืนสู่มือของฮ่องเต้
องค์ฮ่องเต้ทรงสั่งให้มีการอภัยโทษทั่วใต้หล้า โดยอ้างว่าการพัฒนาของต้าเว่ยจำเป็นต้องใช้กำลังแรงงาน
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนจำนวนมากถูกจำคุกเนื่องจากการข่มเหงของเว่ยเชียนชิว ตอนนี้เว่ยเชียนชิวสิ้นชีพแล้ว องค์ฮ่องเต้ควรให้อิสรภาพแก่พวกเขา
นอกจากนี้หากต้าเว่ยต้องการพัฒนาก็ต้องใช้แรงงานมากขึ้น
มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังไม่ถูกถอนออก นั่นคือหมายจับจางเคอ
เรื่องนี้ได้รับคำสั่งจากองค์ฮ่องเต้เป็นพิเศษ ไม่อาจละทิ้งการค้นหาจางเคอ ตายต้องพบศพ เป็นต้องเห็นคน
การที่ฮ่องเต้ทรงทำเช่นนี้ ย่อมต้องมีเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมาย โดยเหตุผลของฮ่องเต้ก็คือจางเคอไม่เคารพวิญญาณกองทัพตระกูลเซียว ทั้งยังยังไม่รู้ว่าจะกลับใจและหนีออกจากคุก
คนดื้อรั้นเช่นนี้เป็นบาปที่ให้อภัยไม่ได้จริงๆ!
อันที่จริง นี่คือความตั้งใจของฮ่องเต้ และนี่ก็เป็นความตั้งใจของเซียวเฉวียนด้วย
จางเคอเป็นคนบ้าที่ต้องการทำลายพิธีบังสุกุลและปรารถนาองค์หญิง โดยธรรมชาติแล้วเซียวเฉวียนจะไม่ปล่อยเขาไป!
ในไม่ช้าข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วต้าเว่ย ทุกคนรู้สึกว่าจางเคอ สมควรได้รับสิ่งนี้ และคนอย่างจางเคอ ควรได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง!
ทันใดนั้น ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของจางเคอในเมืองหลวงที่ย่ำแย่ แต่ผู้คนในต้าเว่ยทั้งหมดล้วนไม่ชอบจางเคอ พวกเขาต่างออกเสียงว่าจะช่วยราชสำนักจับจางเคอ
ดังสุภาษิตที่ว่า สามคนกลายเป็นเสือ[1] ปากฝูงชนละลายทอง[2]
ข่าวลือแพร่สะพัด และมีข่าวลือว่าสมองของจางเคอผิดปกติ เขาไม่คิดก้าวไปข้างหน้าด้วยอนาคตที่สดใส และต้องจัดการกับวิญญาณของกองทัพตระกูลเซียว เกรงว่ามันจะเป็นแค่การก่อเรื่องวุ่นวายจากสมองของเขา
เคยเห็นคนโง่ แต่ไม่เคยเห็นใครโง่ขนาดนี้มาก่อน เขากำลังมีปัญหากับใคร?
เจ้าต้องจัดการกับคนตาย!
เยี่ยมมาก นี่เป็นเพียงการฆ่าตัวตาย!
ตลอดยุคสมัย เขาเก่งที่สุด!
บรรพบุรุษทุกคนอาจต้องอับอายเพราะจางเคอ!
ในไม่ช้าข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปยังซินเจียง ทั่วทั้งซินเจียงล้วนตกตะลึง
ผู้คนในซินเจียงต่างสงสัยอย่างมากว่าจางเคอผู้นี้เป็นใคร พวกเขาประหลาดใจมากว่าทำไมถึงมีคนโง่เช่นจางเคอในต้าเว่ย!
เมื่อกล่าวถึงต้าเว่ย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงราชบุตรเขยอย่างเซียวเฉวียน เขาก็มาจากต้าเว่ย เป็นการดีกว่าสำหรับพวกเขาที่ราชบุตรเขยเป็นคนฉลาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...