ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1

ในสายตาของนักปราชญ์ เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ที่ผูกมัดด้วยผลประโยชน์เท่านั้นที่จะคงอยู่ได้นาน

เซียวเฉวียนติดกับดัก ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับเสวียนจิ้ง ซึ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่า เขามีความสุขยิ่งกว่าผ่านการสอบขุนนางระดับเคอจี่เสียอีก

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หัวเราะออกมาดังๆ แค่เบือนหน้าหนีแล้วลอบยิ้ม

เขาไม่กล้าให้ชาวยุทธ์แท้เห็นมัน

มิฉะนั้นนักปราชญ์จะตำหนิเขาอย่างรุนแรง

แม้ว่าการสนทนาระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ แม้จะเงียบสงบ แต่ฉินเฟิงซึ่งอยู่ไม่ไกลก็ยังฟังอย่างคลุมเครือ

เมื่อรวมกับการแสดงออกของอาจารย์กับลูกศิษย์ ฉินเฟิงคิดว่าในตอนนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขมากควรจะเกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน

เป็นไปได้ไหมที่เซียวเฉวียนตกหลุมพรางของนักปราชญ์?

หากเป็นเช่นนี้ จะเป็นไปไม่ได้หรือที่กองกำลังชาวยุทธ์แท้จะกลับไปสู่เงื้อมมือของต้าเว่ย?

ฉินเฟิงอธิษฐานในใจว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเซียวเฉวียน

บางคนมีความสุขจริงๆ ขณะที่บางคนก็เศร้าสร้อย

ในอีกด้านหนึ่ง เซียวเฉวียนและเหมิงเอ้าใช้พลังงานไปมากในการจัดขบวน และเริ่มหิวนิดหน่อย

ไม่รู้ว่านักปราชญ์จะกลับมาเมื่อใด และพวกเขาทั้งสามแทบจะทนไม่ไหวแล้ว

พวกเขาทั้งสามจึงออกไปล่าเหยื่อ หาแหล่งน้ำ ทำความสะอาดอวัยวะภายในและเส้นขน แล้วนำกลับมา จากนั้นจึงก่อไฟและย่าง

ปิ้งย่างกลางแจ้งไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับคนอย่างเจินฮ่าว

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจินฮ่าวได้เห็นขวดเครื่องปรุงรสมากมายต่อหน้า

ในขณะที่เจินฮ่าวประหลาดใจที่ภาพชุนเซี่ยวมีมนต์ขลัง ขณะเดียวกันก็เป็นหีบสมบัติ นอกจากนี้เขายังศึกษาเครื่องปรุงรสที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างอยากรู้อยากเห็นอีกด้วย

ตอนที่เขาอยู่ในรัฐมู่อวิ๋น เครื่องปรุงรสที่เจินฮ่าวเคยเห็นมีเพียงน้ำมัน เกลือ น้ำปรุง และน้ำส้มสายชู แต่เซียวเฉวียนนั้น นอกเหนือจากสี่อย่างนี้แล้ว ยังมีเครื่องปรุงอื่นๆ อีกหลายอย่างที่เจินฮ่าวไม่เคยเห็นมาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเฝ้ามองเซียวเฉวียนเติมเครื่องปรุงรสต่างๆ อย่างชำนาญ เจินฮ่าวก็ถามอย่างสงสัย “ท่านพี่เซียว ในมือท่านคือสิ่งใดหรือ?”

เจินฮ่าวไม่เคยเห็นผงสีแดงเหล่านี้มาก่อน

เซียวเฉวียนพูดอย่างใจเย็น “นี่คือพริกป่น”

ปิ้งย่างต้องมีรสเผ็ดสักหน่อยจึงจะมีรสชาติ!

คนสมัยก่อนน่าสงสารยิ่งนัก พวหเขาไม่ลิ้นรสของอร่อยขนาดนี้มาก่อน

มีเพียงน้ำมัน เกลือ น้ำปรุง และน้ำส้มสายชู ซึ่งรสชาติจืดไปนิด

ในความเป็นจริง ในยุคนี้มีวัตถุดิบอยู่มากมาย แต่คนโบราณเหล่านี้ไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าต้องกินมันอย่างไร

ตัวอย่างเช่นพริกไทย อบเชย โป๊ยกั้ก กานพลู ยี่หร่า ล้วนมีอยู่ในต้าเว่ย

แต่ผู้คนในต้าเว่ยไม่รู้ว่าจะใช้มันเป็นเครื่องปรุงรสเหล่านี้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงการบดทั้งห้าสิ่งนี้ให้เป็นผงแล้วผสมให้เข้ากันเป็นผงห้าเครื่องเทศ[1]เลย

ผู้คนในต้าเว่ยไม่รู้ว่าผงห้าเครื่องเทศมีกลิ่นหอมเพียงใดเมื่อนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรสในการปรุงอาหาร

เฮ่อ!

คนสมัยก่อนเหล่านี้ ต่อมรับรสของพวกเขายังต้องได้รับการกระตุ้นอีกมาก

เจินฮ่าวไม่เคยเห็นผงพริกมาก่อน ดังนั้นเขาจึงหยิบมันมาจ่อจมูก แล้วดมกลิ่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ไม่ได้กลิ่นก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อดมกลิ่น มันย่อมทำให้จมูกเจ็บแสบ เจินฮ่าวรีบยัดพริกป่นคืนเซียวเฉวียน แล้วไอพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่เซียวทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้ พริกป่นฉุนเพียงนี้เชียวหรือ?”

เจินฮ่าวสำลัก ไปจนน้ำตาแทบไหล

เหมิงเอ้าได้แต่ยิ้มเงียบๆ อยู่ไม่ไกล

เมื่อเห็นเจินฮ่าวในตอนนี้ เขาเป็นเหมือนกับเห็นตัวเองในตอนนั้นไม่มีผิด

ในความคิดของเซียวเฉวียน พวกเขาเป็นคนบ้าที่ไม่เคยเห็นพริกมาก่อนด้วยซ้ำ

ประมาณครึ่งชั่วยามต่อมา อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเนื้อ

เมื่อมองเหยื่อที่ร้อนจัด เจินฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย แล้วพูดว่า “ท่านพี่เซียว หอมยิ่งนัก กินได้แล้วหรือยัง?”

เซียวเฉวียนยิ้มเบาๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขายื่นเนื้อเสียบไม้ชิ้นหนึ่งให้เจินฮ่าวแล้วพูดว่า “รับไป”

จากนั้นเขาก็ส่งสัญญาณให้เจินฮ่าวกินได้

เจินฮ่าวหยิบเนื้อขึ้นมาอย่างมีความสุข ยื่นจมูก และดมกลิ่น มันมีกลิ่นหอมมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย