บทที่ 1,432 วิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1,432 วิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
แต่หากเป็นเขาจริง แล้วเหตุใดเขาถึงทำเช่นนี้?
หากเขาเพียงต้องการไขมันชิ้นใหญ่ในต้าเว่ย เขาสามารถหาวิธีกำจัดชิงหลงได้อย่างแน่นอน จากนั้นจึงนำกองทหารของเขาเข้าโจมตีต้าเว่ย
แต่เขาไม่ทำ
เขาไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อชิงหลง
แน่นอนว่าถ้าชางซ่งสมรู้ร่วมคิดกับนักปราชญ์ เขาย่อมมีเป้าหมายอื่น
เขาต้องการทำอะไรบนแผ่นดินนี้กันแน่?
ชิงหลงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีเบาะแสใดเลย
ความจริงแล้ว เหตุผลนั้นง่ายมาก ชางซ่งแค่อยากให้ชาวคุนหลุนครองโลกา
แต่เขาไม่สามารถทำร้ายชิงหลงได้ เขาเฝ้ามองชิงหลงเติบโตขึ้นมา และเขาถือว่าชิงหลงเป็นลูกของตน
ในเวลานี้ ชิงหลงต้องการยืนยันบางอย่างกับเซียวเฉวียน “แสดงว่าท่านสูญเสียการติดตามนักปราชญ์แล้ว?”
เซียวเฉวียนส่งเสียง “อืม” เบาๆ แล้วพูดว่า “อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่ปลายสุดขอบโลก แต่ข้าก็ยังหาทางไปหาพวกเขาได้”
ตราบใดที่พวกเขายังคงอยู่ในโลกนี้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่น้ำไม่รั่วแม้สักหยด[1]
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนที่ใหญ่โตอย่างกองกำลังชาวยุทธ์แท้ การเอาชีวิตรอดในทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย
ชิงหลงกล่าวว่า “เอาล่ะ ระวังตัวด้วย หากท่านต้องการความช่วยเหลือจากข้า ก็บอกมาได้เลย”
เซียวเฉวียนกล่าวว่า “ได้”
ตั้งแต่มายังต้าเว่ย เซียวเฉวียนไม่เคยสุภาพกับชิงหลง
ผู้อื่นมองว่าชิงหลงเป็นองค์ชายแห่งคุนหลุนและเป็นเทพเจ้า แต่ เซียวเฉวียนถือว่าเขาเป็นพี่ชาย ซึ่งเป็นพี่ชายประเภทที่สามารถเรียกได้ตลอดเวลา
ชิงหลงมีความสามารถ ผู้ที่มีความสามารถจะต้องทำงานหนัก ไม่เช่นนั้นจะสิ้นเปลืองทรัพยากร
หลังจากวางสายทางไกลกับชิงหลง เซียวเฉวียนก็สบตากับเหมิงเอ้าที่จ้องมองอย่างกระตือรือร้น ทั้งยังถามว่า “นายท่าน ต่อจากนี้ เราจะไปหาที่อยู่ของพวกนักปราชญ์ในทะเลทรายหรือไม่?”
ลมและทรายในทะเลทรายรุนแรงมากจนบดบังรอยเท้าของได้อย่างสมบูรณ์
อย่างน้อยที่สุด แม้กระทั่งพวกนักปราชญ์ก็ไม่เข้าใจทิศทางของตน
การค้นหาอย่างไร้จุดหมายในทะเลทรายอันกว้างใหญ่อาจเป็นเรื่องยากไปสักหน่อย
เซียวเฉวียนมองไปไกล แล้วพูดอย่างหนักแน่น “ไม่ กลับเมืองชานถังกันเถอะ”
ยามนี้ มีเบาะแสอื่นที่สามารถทำให้เซียวเฉวียนค้นหาที่อยู่ของนักปราชญ์และกองกำลังได้โดยเร็วที่สุด และนั่นคือการติดตามเบาะแสของอูฐ
หลังพูดจบ เซียวเฉวียนก็ใช้วิชาเคลื่อนย้ายวิญญาณพาเหมิงเอ้าและเจินฮ่าวกลับเมืองชานถัง
หลังจากที่คนพาลและขุนนางทุจริตในเมืองชานถังถูกลงโทษ ผู้คนในเมืองก็เริ่มกระตือรือร้นกับชีวิตมากขึ้นกว่าที่เคย
พวกเซียวเฉวียนออกจากเมืองชานถังไปเพียงไม่กี่วัน เมื่อพวกเขากลับมา พวกเขาก็พบว่าเมืองชานถังมีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อก่อนมาก มีผู้คนเดินอยู่บนถนนมากขึ้น
เหมิงเอ้าและเจินฮ่าวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่พวกเขาเปลี่ยนไปมากในเวลาเพียงไม่กี่วัน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็ยิ้มบาง แล้วกล่าวว่า “การเมืองโปร่งใส ประชาชนไร้ความกลัว นี่คือสิ่งที่ชีวิตควรจะเป็น”
ก่อนหน้านี้ผู้คนที่นี่ถูกขุนนางโกงกินกดขี่และรังแก ไม่ว่าชายหรือหญิงล้วนไม่กล้าออกไปข้างนอก เพราะกลัวว่าจะประสบหายนะหากเจอคนพาล
ตอนนี้ภัยคุกคามเหล่านี้หมดไปแล้ว ชีวิตของผู้คนไม่ถูกคุกคามอีกต่อไป พวกเขาเต็มไปด้วยความหวังในชีวิต ดังนั้นจึงเคลื่อนไหวมากขึ้นโดยธรรมชาติ
เช่นเดียวกับจีนยุคใหม่ที่มีสันติภาพ ผู้คนใช้ชีวิตและทำงานอย่างสงบและพึงพอใจ เมื่อรักชีวิต จึงสร้างสรรค์ฉากที่เจริญรุ่งเรือง
ในประเทศจีนยุคใหม่ ผู้คนคือเจ้านายของประเทศ และนั่นเรียกว่าชีวิตจริง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมืองชานถังล้าหลังยุคปัจจุบันมาก!
เหมิงเอ้าและเจินฮ่าวเข้าใจความหมายในคำพูดของเซียวเฉวียน และรู้สึกว่าคำพูดของเซียวเฉวียนนั้นสมเหตุสมผล
สิ่งนี้ทำให้ความชื่นชอบของเจินฮ่าวที่มีต่อเซียวเฉวียนเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
เซียวเฉวียนน่าทึ่งมาก ไม่ต้องพูดถึงทักษะการต่อสู้ของเขา เขายังมีหลักการปกครองแคว้น ทว่าเหตุผลหลักคือปิ้งย่างที่เขาทำนั้นอร่อยเป็นพิเศษ
อีกมั้งเขายังสูงและหล่อยิ่งนัก
หากเจินฮ่าวเป็นสตรี เขาคงอยากแต่งให้เซียวเฉวียน แม้ต้องกลายเป็นอนุ เขาก็เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนไม่ได้พูดสิ่งนี้ด้วยตัวเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจินตนาการของเจินฮ่าว หากเจินฮ่าวรู้ความจริงในอนาคต เขาย่อมไม่สามารถตำหนิเซียวเฉวียนได้
จริงๆ แล้ว เซียวเฉวียนต้องการเห็นการแสดงออกของเจินฮ่าว เมื่อเขารู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของเซียวเฉวียนในอนาคต
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ทั้งสามเข้าไปในโรงเตี๊ยม
เที่ยงแล้ว ตามนิสัยที่ผ่านมา กองคาราวานอูฐได้ผ่านไปแล้ว พวกเขาทำได้เพียงรอถึงพรุ่งนี้จึงจะติดตามไปได้
พวกเขาทั้งสามคุยกันอยู่ในโรงเตี๊ยม
หัวข้อสนทนาไม่สามารถแยกออกจากเซียวเฉวียนได้
ส่วนใหญ่แล้วเหมิงเอ้าและเจินฮ่าวเป็นคนพูดคุยกัน เซียวเฉวียนแค่ตอบพวกเขาเป็นครั้งคราวด้วยหนึ่งหรือสองประโยค เพื่อชี้แจงข้อสงสัยของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นเจินฮ่าวกำลังถามเหมิงเอ้าเกี่ยวกับอดีตของเซียวเฉวียน
แฟนตัวยงสองคนของเซียวเฉวียนมักจะพูดถึงเซียวเฉวียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เหมิงเอ้ารู้จักเซียวเฉวียนเป็นอย่างดี และเขาเป็นคนที่พูดได้มากที่สุดเมื่อพูดถึงเซียวเฉวียน
ขณะที่เขาพูด เขาก็ภูมิใจราวกับไก่ตัวโตที่ยืดอก เพราะเขารู้จักเซียวเฉวียน ไม่มีความหดหู่ใจเหมือนอยู่ในภูเขาลึกและป่ารกชัน
สำหรับเจินฮ่าวเขายังเปิดโหมดคนพูดพล่อยอีกด้วย ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยได้พูดจา ทั้งยังไม่มีเรื่องสนุกให้พูดคุย
มันเป็นเพียงเรื่องของเซียวเฉวียนถามด้วยซ้ำว่าเขาไปเข้าห้องน้ำวันละกี่ครั้ง
หากผู้คนในรัฐมู่อวิ๋นรู้ว่านายน้อยเจิ้นที่เย็นชาอยู่เสมอสามารถพูดได้มากเพียงนี้ พวกเขาคงตกใจ และพวกเขาก็คงจะสงสัยว่าเจินฮ่าวถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิงหรือไม่
แต่ไม่เลย เซียวเฉวียนบุคคลที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ขณะฟังการสนทนาระหว่างเหมิงเอ้าน้อยกับเจินฮ่าว เขาทำเพียงหลับตาลง เพื่อบ่งบอกว่าตนไม่ได้มองทั้งสองด้วยซ้ำ
..........
เชิงอรรถ
[1] น้ำไม่รั่วแม้สักหยด (滴水不漏) แปลว่ามิดชิด หรือไม่มีช่องโหว่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...