พักผ่อนงั้นหรือ?
การหยุดพักก็เหมือนรอความตายนั่นละ
ต่อหน้ามือสังหาร เวลานั้นหมายถึงชีวิต
หากให้นักฆ่าไล่ตามมาทันละก็ จะตึงมืออย่างมากทีเดียว
เซียวเฉวียนแค่นเสียงดังเฮอะ “ไม่ต้อง พวกเรายังตามไปทัน”
หลังจากสลัดนักฆ่าเหล่านั้นแล้วค่อยพักผ่อนให้ดีๆ รักษาบาดแผล แต่ว่าเซียวเฉวียนเพิ่งจะพูดประโยคนั้นจบ ก็พลันมีเสียงพลั่กตกดังขึ้นมาบนพื้น
ร่างกายของเขานั้นคล้ายจะทนกับแรงสั่นประเภทนี้ไม่ไหว
“อั่ก!”
เจ็บจนกระทั่งเซียวเฉวียนผู้ชายทั้งแท่งแบบนี้แทบอดคำรามออกมาไม่ได้ครั้งหนึ่ง
มู่จิ่นและโย่วควนเองถูกสถานการณ์กระทันหันนี้ทำเอาตกใจจนหัวใจเต้นระรัวแทบไม่ไหว พวกเขากระโดดลงมาทั้งที่ยังไม่ได้หยุดม้าด้วยซ้ำ
“เซียวเฉวียน!”
“นายท่าน!”
ทั้งสองคนเดินเข้ามาหวังจะพยุงตัวเซียวเฉวียน มือของพวกเขาเพิ่งจะออกแรงเล็กน้อยก็ทำเอาเซียวเฉวียนเจ็บจนกระทั่งต้องกัดฟันส่งเสียงแค่นเฮอะออกมา “อย่า พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้”
เมื่อถูกพวกเขาพยุงเอาไว้ เซียวเฉวียนก็รู้สึกว่าตัวเองคล้ายพิการ
ในเวลานี้ เซียวเฉวียนเจ็บจนใบหน้าซีดขาว มองเห็นแล้วน่าตกใจนิดหน่อย
มู่จิ่นจับชีพจรให้เซียวเฉวียนอย่างเป็นกังวลยิ่ง พูดไปแล้วก็ประหลาดนัก ดูจากเส้นชีพจรของเซียวเฉวียน บาดแผลของเซียวเฉวียนไม่ถือว่าหนักมากนี่
เส้นชีพจรของเซียวเฉวียนนั้นแค่อ่อนแรงเท่านั้น จริงๆ แล้วยังจะดีกว่าครั้งที่จับชีพจรของมู่จิ่นอยู่มากทีเดียว
ทว่าจะดูอย่างไรร่างกายของเซียวเฉวียนก็อ่อนแอกว่าครั้งที่แล้วมากนี่?
มู่จิ่นเป็นหมอมาเนิ่นนาน และนี่เป็นครั้งแรกที่เจอสถานการณ์ประหลาดแบบนี้
เวลานี้แล้ว มู่จิ่นรำคาญใจที่ตนเองลำเอียงขนาดนี้ หากว่ามู่จิ่นเรียนรู้บาดแผลทั้งภายในภายนอกคู่กัน ก็คงจะไม่รู้สึกอับจนหนทางได้มากถึงตอนนี้หรอก
มาภายหลังยังมีนักฆ่าตามมาอีก เช่นนี้จะทำอย่างไรกัน?
หากเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วนักฆ่าก็คงจะตามมาทันแล้วแน่
“เซียวเฉวียน เอาปืนให้ข้ากระบอกหนึ่ง” มู่จิ่นเปิดปากพูด
ในเวลานี้โย่วควนก็ใช้ปืนเป็นแล้ว และมู่จิ่นก็หยิบมาอีกกระบอก การรับมือกับนักฆ่าพวกนี้เกรงว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่จิ่น เซียวเฉวียนก็พูดอย่างอ่อนแรง “ภาพวาดอรุณรุ่ง ออกมา”
ภาพวาดอรุณรุ่งรับไม้ต่อ มันลงมือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วส่งปืนพกกระบอกหนึ่งและลูกกระสุนจำนวนหนึ่งให้มู่จิ่น หลังจากนั้นก็เติมลูกปืนจำนวนหนึ่งให้กับโย่วควน
เอ๋ ภาพวาดอรุณรุ่งนี่จะเข้าใจนิสัยคนเกินไปหน่อยแล้วหรือเปล่า?
แถมยังเติมไอเท็มให้คนอัตโนมัติด้วยหรือนี่?
โย่วควนรับกระสุนมาอย่างประหลาดใจ ส่วนมู่จิ่นก็ยกนิ้วโป้งให้กับภาพวาดอรุณรุ่ง เพื่อชื่นชมมัน
ส่วนภาพวาดอรุณรุ่งนั้นก็เหมือนกับเด็กน้อยที่ได้รับคำชม หลังจากได้รับคำชมแล้ว มันก็ส่ายตัวอย่างภาคภูมิใจหลังจากนั้นก็กลับเข้าไปรอคอยในชายเสื้อของเซียวเฉวียน
ภาพวาดอรุณรุ่งรู้ว่าบาดแผลของเซียวเฉวียนนั้นทับซ้อนกันทำเอาเขาเจ็บจนพูดไม่ออกแล้ว มันเลยรู้สึกว่าต้องลงแรงช่วยเหลือเซียวเฉวียนสักหน่อย
ภาพวาดอรุณรุ่งที่ม้วนตัวเข้าแขนเสื้อขยับสองครั้ง เหมือนมันกำลังพูดว่า นายท่าน ข้ารู้ความหรือไม่?
เซียวเฉวียนเอ่ยเสียงเบาๆ หนึ่งคำ “เด็กดี”
หลังจากนั้นภาพวาดอรุณรุ่งก็อยู่เงียบๆ ของมันเองเพื่อรอคอย
“เฮ้อ! นี่มิใช่เซียวเฉวียนหรือ?”
ในเวลานี้เอง นักฆ่าที่ตามมาทันนั้นก็พลันชะงักฝีเท้าในพริบตา จากนั้นก็มองเซียวเฉวียนด้วยสายตาสะใจในความทุกข์ของชาวบ้านจากระยะสิบเมตร “เหตุใดจึงนอนอยู่บนพื้นล่ะ?”
“จิ๊ วิ่งหนีสิ เหตุใดจึงไม่วิ่ง?” นักฆ่าที่ผ่านยุทธภพมาจนโชกโชนแล้ว ใช้การมองปราดเดียวเขาก็ตัดสินใจได้ว่าเซียวเฉวียนคงจะยืนขึ้นมาไม่ไหวอีก
ไม่อย่างนั้นเหตุใดทั้งที่เซียวเฉวียนรู้อยู่แล้วว่ามีนักฆ่าตามมาฆ่าแต่กลับนอนเป็นอัมพาตไม่หนีไปไหนกันล่ะ?
แล้วบนพื้นมันไม่เย็นเยียบอย่างไร!
นักฆ่าหยิบขึ้นมา เขายังคงเดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าได้ใจ
ในเวลานี้กระทั่งจะยืนเซียวเฉวียนยังทำไม่ได้ นักฆ่าจึงไม่กลัวว่าเซียวเฉวียนจะหนีไปอีก
เซียวเฉวียนในตอนนี้ต่อให้ปล่อยให้เขาบินหนี เขาก็บินหนีไม่ได้
หากเปลี่ยนคำพูดนั้นก็คือ เซียวเฉวียนทำได้แค่นอนรอความตาย รอให้นักฆ่ามาฆ่าเขา
สวรรค์ทรงเป็นใจ !
หา?
โย่วควนจะอย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าในบรรดาคนเมืองหลวงแคว้นต้าเว่ย นอกจากชาวยุทธ์แท้ของเว่ยเชียนชิวแล้ว ยังซ่อนกลุ่มคนมีฝีมือพวกนี้ไว้อยู่อีก
ศัตรูที่แข็งแกร่งของเซียวเฉวียนเพิ่มมาอีกหนึ่งแล้ว
เดิมทีเซียวเฉวียนก็มีศัตรูมากพออยู่แล้ว มาตอนนี้ยังมีจางเคอมาอีก โย่วควนเป็นกังวลแทนเซียวเฉวียนนัก
แต่ว่า ตอนนี้กังวลเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ จะจัดการกับพวกนักฆ่าพวกนี้อย่างไรสิถึงจะเป็นเรื่องสำคัญในเรื่องสำคัญ
มู่จิ่นกับโย่วควนนั้นพลันมองเซียวเฉวียนด้วยหัวใจตรงกัน ในสายตานั้นแสดงให้เห็นว่าพวกเราจะทำอย่างไรดี
และในเวลานี้เอง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด กระดูกทั้งร่างของเซียวเฉวียนปวดร้าว เซียวเฉวียนแทบไม่มีเวลาคิด เขาได้แต่เอ่ยปากพูดลอดไรฟันมาว่า “ยิงปืนไม่ยั้ง”
เซียวเฉวียนไม่เชื่อว่า นักฆ่าจะสามารถหลบพ้นการยิงปืนติดๆ กันหลายนัดไปได้!
ช่างหัวมารดามันเถอะ!
เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียนแล้ว ทั้งสองคนก็ยิงปืนขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง ในทันใดนั้น สถานที่นี้ก็กลายเป็นแดนสงครามไป คล้ายกับประทัดที่ส่งเสียงดังเป็นชุดๆ ต่อๆ กันกระนั้น ปลุกประสาทคนให้ตื่น
หรือมิใช่ ในช่วงเวลาที่ไฟกำลังจะไหม้ขนคิ้วเช่นนี้ ใครยังกล้าไม่ตื่นตัวอยู่อีก?
การที่สติหลุดสักเล็กน้อย ก็อาจจะรับประกันชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว
จำเป็นต้องพูดสักหน่อยว่า ลูกไม้นี้ของเซียวเฉวียนก็พอมีประโยชน์อยู่ แม้ว่าจะสังหารนักฆ่าให้ตายไม่ได้แม้แต่คนเดียวก็ทำให้พวกมันบาดเจ็บไปสามคน
แต่ว่า ค่าตอบแทนในการทำร้ายนักฆ่าทั้งสามนั้น ก็คือลูกปืนของทั้งมู่จิ่นและโย่วควนกลับใช้หมดแล้ว
และตอนนี้ นักฆ่าก็อยู่ห่างจากพวกมันเพียงแค่ห้าก้าวเท่านั้น
มู่จิ่นกับโย่วควนคิดอยากให้ภาพวาดอรุณรุ่งส่งกระสุนมาเพิ่มก็ไม่ทันแล้ว
นักฆ่ารายหนึ่งสาวเท้านำเข้ามา เขาตวัดท่อนขาเตะกวาดครั้งหนึ่งก็กวาดเอาปืนในมือของมู่จิ่นกับโย่วควนกระเด็นลอยไปแล้ว
มือของมู่จิ่นกับโย่วควนนั้นว่างเปล่าขึ้นมาในทันใด
และในเวลาติดๆ กัน นักฆ่าก็จัดการถีบไปที่ขาของมู่จิ่นกับโย่วควนคนละครั้งอย่างหนักหน่วง ทำให้ทั้งสองคนยืนต่อไม่ไหว
เขาไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าสองคนนี้ พวกมันเป็นแค่ตัวเกะกะ นักฆ่าจึงให้เจ้าพวกนี้รออยู่อีกด้านหนึ่งก่อน
ดังนั้นแล้ว สายตาของนักฆ่าจึงจ้องมองเซียวเฉวียนด้วยสายตาคมกริบแทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...