“ท่าน!” อีกนิดเดียวจางเคอก็แทบจะอาละวาดใส่จางจิ่นแล้ว
สิ่งที่จางเคอพูดนั้นหมายความว่า จางจิ่นนั้นไร้ประโยชน์เป็นตัวถ่วงของตระกูลจาง
เมื่อก่อนจางเคอจะถามความคิดเห็นของจางจิ่นในทุกอย่าง และจางจิ่นก็ได้กล่าวว่าตัวเองนั้นก็จะฟังคำพูดของจางเคอ มีครั้งเดียวที่เขาไม่เชื่อฟังคำพูดของจางจิ่นคือหลังจากที่จางเคอได้รับเลือกเป็นขุนนาง เขาก็ไปอยู่ฝ่ายฮ่องเต้
ตั้งแต่นั้นมาจางจิ่นและจางเคอก็แทบจะไม่มีการสนทนาอันใดกันเลย
และด้วยเหตุผลบางประการ จางเคอก็เลือกไปขอที่พึ่งกับเว่ยเชียนชิว และทํางานร่วมกับจางจิ่นเพื่อทํางานให้กับเว่ยเชียนชิว
จางจิ่นไม่รู้เหตุผลนั้นเลย แม้ว่าจางจิ่นจะส่งคนไปสืบ แต่ก็ไม่ได้เบาะแสอะไร
ภายใต้การตรวจสอบของจางจิ่นอีกครั้ง จางเคอพูดเพียงประโยคเดียวว่า “ฮ่องเต้นั่นช่างไร้ความสามารถ มันไม่คู่ควรที่จางเคอจะไปรับใช้” เพื่อตอบคำถามที่จางจิ่นนั้นสงสัย
ต่อให้มากกว่านี้ แต่จางจิ่นก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว
หลังจากที่ทั้งสองทํางานให้เว่ยเชียนชิวร่วมกัน จางเคอก็เริ่มกลับมาเคารพจางจิ่นอีกครั้ง ทั้งสองลุงหลานชายก็ไม่เคยโกรธเคืองกันอีก
นี่เป็นครั้งเเรก
จางเคอไม่อยากพูดกับคนใจปลาใจซิวอย่างจางจิ่นแม้แต่คำเดียว เขาตั้งใจเมินจางจิ่น
เเต่จางจิ่นก็ไม่ยอมเเพ้ที่จะเกลี้ยกล่อมจางเคอ เขากำลังไปได้ดีและเตือนสถานการณ์ปัจจุบันของจางเคอด้วยความหวังดี
สรุปก็คือจางจิ่นตั้งใจจะเข้าใกล้ค่ายของฮ้องเต้ให้มากขึ้น เเละเขาก็หวังว่าจางเคอก็จะเข้าใกล้ฮ่องเต้ไปพร้อมๆกับเขา
แต่มันกลายเป็นเรื่องตลกเมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูของจางเคอ เขาหัวเราะอย่างเย็นชาว่า “สเด็จลุง ท่านมีอายุมาถึงขนาดนี้เเล้ว ทำไมท่านถึงยังได้ไร้เดียงสาเช่นนี้? ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นหรอก ถ้าท่านไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังของเจียนกั๋ว ท่านยังจะได้เลื่อนตำเเหน่งเป็นอัครเสนาบดีได้หรือไม่?”
“เลิกเพ้อเจ้อได้เเล้ว! เซียวเฉวียนเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในตำเเหน่งอัครเสนาบดีของฮ่องเต้” เมื่อพูดถึงเซียวเฉวียนจางเคอก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง
ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังหรือความสามารถของจางเคอ มันไม่สามารถดีไปกว่าเซียวเฉวียนได้เลยหรือ?
เหตุใดเรื่องดีๆถึงเกิดขึ้นกับเซียวเฉวียนอยู่เสมอ เขามีดีอะไรงั้นหรือ?
องค์หญิงต้าถงแต่งงานกับเซียวเฉวียน
ประมุขแห่งชิงหยวนก็คือเซียวเฉวียน
ราชครูก็คือเซียวเฉวียน
ฮ่องเต้ยังตั้งใจให้เซียวเฉวียนได้ตำเเหน่งอัครเสนาบดี
เพราะเหตุใดกัน!
และฮ่องเต้ก็ชื่นชอบเซียวเฉวียนเป็นพิเศษ นี่มันก็ลำเอียงเกินไปเเล้ว
มันทำให้จางเคอไม่พอใจ!
ตำเเหน่งอัครเสนาบดี มันคือสิ่งที่จางจิ่นนั้นหมกมุ่น
เมื่อเผชิญกับชีวิตเเละชื่อเสียงของตระกูล จางจิ่นก็รู้สึกว่าตอนนี้ควรหยุดหมกมุ่นเรื่องตำแหน่งอัครเสนาบดีชั่วคราว แล้วกลับมาสนใจเรื่องอื่นที่สำคัญกว่านี้ก่อนจะดีเสียกว่า
เเค่มีชีวิตเเละชื่อเสียงของตระกูล เพียงเเค่จางจิ่นยังดำรงตำเเหน่งอัครเสนาบดีอยู่ เขาก็ยังมีโอกาสที่จะต่อสู้เพื่อชิงตำเเหน่งอัครเสนาบดี เเละยังมีโอกาสที่จะได้ต่อสู้กับเซียวเฉวียน
ดังนั้นจางจิ่นจึงตัดสินใจในครั้งนี้ว่าจะเข้าใกล้ค่ายฮ่องเต้ให้มากขึ้น
จางจิ่นยังคงยืนยันในความคิดเห็นของตัวเอง “เคอเอ๋อร์ ตอนนี้พวกเราควรคิดเรื่องรักษาชีวิตและชื่อเสียงของตระกูลจางก่อน”
“ดูคนที่อยู่ข้างหลังนั่นสิ ถ้าวันนี้พวกเราทําอะไรพลาดไปแล้วเมื่อเรื่องถูกเปิดเผย คนเหล่านี้จะถีบพวกเราลงเหวเป็นแน่ หรือแม้แต่คนในตระกูลจางก็เช่นกัน” จางจิ่นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเกลี้ยกล่อมจางเคอ “เรื่องเมื่อวานนี้พลเรือนที่จวนจางชุมนุมกันสาปแช่งเจียนกั๋ว ข้าเดาว่าเจ้าก็น่าจะรู้เรื่องนี้”
ย้อนกลับไปเมื่อก่อน คนเหล่านี้จะกล้าดูถูกเว่ยเชียวชิวอย่างบ้าคลั่งเช่นนั้นได้อย่างไร?
นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
เว่ยเชียนชิวใกล้ถึงจุดดับแล้วรึ!
จางจิ่นไม่พูดประโยคหลังจากนั้น เชื่อจางเคอคงจะเข้าใจส่วนที่เหลือเอง
เป็นเรื่องฉลาดที่จะทิ้งความมืดนี้ และหันกลับไปหาทางสว่างให้เร็วที่สุด!
แต่ในเรื่องนี้ ทำให้เห็นได้ชัดว่าจางเคอตั้งใจอย่างแน่วแน่มาก เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “เสด็จลุงไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้แล้ว และยังเป็นคำเดิมว่า ถ้าหากท่านไม่อยากทำ ข้าก็จะไม่บังคับ แต่อย่ายุ่งกับเรื่องของข้า”
หลังจากพูดจบ จางเคอยืนอยู่ข้างๆและสะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธ และสร้างเขตแดนระหว่างจางจิ่นขึ้น
ในเมื่อเส้นทางเลือกไม่เหมือนกัน ก็ไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้อีก!
หลังจากนั้นจางเคอและจางจิ่นก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...