ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 152

จวนซ่ง

ซ่งจือเป็นผู้ได้ข่าวการตายของฉินปาฟางในวินาทีแรก

เขาตบโต๊ะ เยี่ยม! เยี่ยม! เยี่ยม!

ไม่ได้สังหารเซียวเฉวียนล้างแค้นให้บุตรชาย แต่ฉินปาฟางตายไปสักคนก็คุ้มแล้ว!

คุ้มแล้ว!

เขาตบลงบนโต๊ะดังป้าบๆ "ลูกชายเอ๋ย! ในใจของพ่อต่อให้มีฉินปาฟางเป็นสิบคนก็สู้ลูกรักเช่นเจ้าไม่ได้!"

"เจ้า คือความแค้นของบิดา!"

"เจ้า คือชีวิตของบิดา!"

ซ่งจือตบหน้าอกทั้งหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน!

"ใต้เท้า ยาพิษถูกทำลายไปจนเกลี้ยงแล้ว คนตระกูลฉินจะต้องไม่สังเกตเห็นแน่"

คนผู้ที่มารายงานนั้นยืนรอรับคำชมจากซ่งจืออยู่ท่ามกลางแสงเทียนอันสลัว

ฉินฮุ่ยนั่นเอง

ดวงตาขาวสามส่วนคู่นั้นซึ่งโหดเหี้ยมกำลังได้ใจ

"ก็แค่ผู้อารักขารายหนึ่งเท่านั้นยังคิดอยากได้รางวัลอีกหรือ?" ผู้อารักขาที่เติบโตมาจากทาสคุนหลุนร่างกายสูงใหญ่ และที่น่ารังเกียจก็คือซ่งจือยังต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อคุยกับคนต่ำต้อยเช่่นเขา "ข้าเลี้ยงเจ้ามาเนิ่นนานเช่นนี้​ เจ้าเองก็ควรทำเรื่องที่ทำให้ข้าพอใจเช่นกัน!"

"..." ฉินฮุ่ยก้มศีรษะกัดฟัน

"มิเช่นนั้น​ คนที่เป็นแค่ลูกเขยขาวนาธรรมดาเช่นเจ้าจะไปมีอาวุธลับและอุปกรณ์มากมายเช่นนั้นได้อย่างไร ก็ข้าให้เจ้ามิใช่หรือ? ไม่ใช่อย่างนั้นหรือไร​ มิใช่ว่าข้าซื้อให้เจ้าหรอกหรือ? " ซ่งจือแค่นเสียงเย็น​ "งานถัดไปคือสังหารฉินเซิง!"

ฉินฮุ่ยก้มศีรษะไม่ได้ตอบรับ

" ตัวข้าพูดกับเจ้าอยู่! เจ้าไม่ได้ยินหรือ? "

" ใต้เท้าท่านเคยรับปากข้าเอาไว้แล้วว่าถ้าข้าสังหารฉินปาฟางท่านจะให้บุตรชายข้าเข้าสำนักศึกษา... "

คำว่าบุตรชายนี้เสียดแทงเข้าหัวใจของซ่งจือ!

"รอจนกระทั่งเจ้าสังหารฉินเซิงค่อยว่ากัน" ซ่งจือไม่ยี่หร่ะ เขาพ่นเสียงขึ้นจมูก​" ว่าไปแล้วลูกหญิงชาวบ้านกับผู้อารักขาจะร่ำเรียนความรู้อะไร? เซียวเฉวียนเรียนจนสอบเข้าราชสำนักได้ก็ต้องไปเริ่มใหม่จากลำดับต่ำสุดของกรมราชองครักษ์แล้วมีประโยชน์อะไร?"

"ใต้เท้าเรื่องนี้ ท่านรับปากข้าแล้ว..."

" บังอาจ! เป็นแค่ทาสคุนหลุน! เจ้ากล้าสงสัยข้า? ข้าเป็นถึงเสนาบดียุติธรรมของราชสำนักทั้งคนข้าบอกว่าใครผิด! ผู้นั้นก็ย่อมผิด! ต่อให้เป็นขุนนางใหญ่ปานใดก็โต้แย้งข้าไม่ได้! เจ้านับเป็นตัวอะไร? หา?"

ซ่งจือผุดลุกขึ้นพลางใช้ฝ่ามือตวัดใส่ใบหน้าฉินฮุ่ย!

ขนาดนี้แล้วเขายังไม่สาแก่โทสะ​ ปากยิ่งเอ่ยวาจาน่ารังเกียจเป็นที่สุด​" แม่งเอ้ย​ ถ้าข้าเป็นเจ้าจะไม่มีลูก! กันไว้จะได้ไม่ต่ำต้อยเช่นเจ้า! คนเช่นเจ้าอาศัยอะไรถึงมีบุตรชายกัน? ตัวข้ายังไม่มีบุตรชายเลย! เจ้าอาศัยอะไรถึงมีบุตรชาย!"

ซ่งจือง้างฝ่ามือตบใบหน้าของฉินฮุ่ยดังป้าบ​ ป้าบ​ ไม่ยั้ง

มีเสียงร้องเรียกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากความมืดสลัวที่ไม่ห่างออกไป ทั้งฟังดูห่างไกลและรางเลือน

คนผู้หนึ่งยืนถือกระบี่ฉุนจุนอยู่ตรงนั้น

“เซียวเฉวียน?” ซ่งจือหยืบยืมแสงเทียนอันห่างไกลมองผู้ที่มาได้ชัดเจน

ในที่นี้ ภายในจวนของขุนนางแห่งราชสำนักซึ่งป้องกันแน่นหนาเช่นเขา อีกฝ่ายเข้ามาได้อย่างไร?

ช่วงราตรีจันทร์ดับลมแรงเช่นนี้ คือเวลาสังหารคน

เซียวเฉวียนจับจ้องเขาอย่างเงียบๆ “เจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือไม่??”

ซ่งจือกระดิกใบหู นอกจากเสียงลม เสียงกิ่งไม้ขยับไหวและใบไม้ร่วงหล่นแล้วก็ไม่มีอะไรทั้งสิ้น

“ข้าไม่ได้ยินอะไร ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น อย่ามาแสร้งทำตัวลึกลับ!” ซ่งจือแค่นเสียงเย็น “เจ้าเข้ารับราชการในราชสำนักแล้ว เห็นข้ายังไม่ทำความเคารพอีกหรือ?”

ซ่งจือนั้นย่อมไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น

เพราะคนในจวนซ่งทั้งหลายล้วนตายสิ้นแล้ว

ในยามที่ซ่งจือกำลังด่าทอฉินฮุ่ยอู่นั้น เป็นเวลาที่เซียวเฉวียนนำเหล่าผู้อารักขาทั้งสิบสองกระโจนข้ามกำลังฝั่งทิศตะวันออกของจวนซ่งมา

สิบก้าวสังหารหนึ่งชีวิต พันลี้ไม่ทิ้งร่องรอย

ทั้งเบื้องบนเบื้องล่างเขานับแล้วมีคนหกสิบแปดคน

ไม่ว่าเขาจะไปที่ใด คนเหล่านั้นล้วนตกตะลึงจนไม่มีโอกาสได้แสดงออก หลังจากนั้นก็ถูกกระบี่หนึ่งตัดลำคอ กระทั่งจะดิ้นรนยังทำไม่ได้

เดินไปพลางสังหารไปพลางระหว่างทาง

เดินไปพลาง กวัดแกว่งกระบี่ไปพลาง

ไปว่าจะไปที่ใดโลหิตข้นคลั่กก็สาดโชกพื้นและต้นไม้ใบหญ้า

ซ่งจือที่ยังไม่รู้เรื่องยังสั่งให้เซียวเฉวียนคุกเข่าทำความเคารพ

ทว่าสามวินาทีเท่านั้น ในที่สุดซ่งจือก็พบว่าไม่ถูก “เพราะอะไรเจ้าถึงไม่ตกใจล่ะ?”

ตกใจอะไรหรือ?

ตกใจที่ยามดึกสงัดฉินฮุ่ยอยู่ที่จวนซ่งงั้นหรือ?

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าฉินฮุ่ยเป็นคนของข้า? แล้วเจ้ารู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเจ้ามาตั้งแต่เมื่อใดกันอีก?” ซ่งจือลนลาน ฉินฮุ่ยซ่อนตัวเป็นความลับยิ่ง กระทั่งฮ่องเต้และตระกูลฉินไม่เคยสังเกตพบด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดเซียวเฉวียนถึงได้รู้ว่าฉินฮุ่ยอยู่กับเขาที่นี่?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย