อยากสิ อยากเหลือเกิน!
เซียวเฉวียนรู้ การที่เสวียนอวี๋ถามเช่นนี้ออกมาก็แสดงว่าเขารู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร
เมื่อได้รับการอนุญาตจากเซียวเฉวียน เสวียนอวี๋ก็ยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา จากนั้นกล่าวออกมาว่า “เช่นนั้นข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง”
เซียวเฉวียนรู้สึกว่า การที่ให้เสวียนอวี๋เป็นคนจัดการเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสม ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีการใด ไม่ว่าจะทำให้แม่สื่อพวกนั้นไม่พอใจแค่ไหน แม่สื่อพวกนั้นก็ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ เต็มที่ก็ได้แค่บ่นออกมาสองสามคำ
ใครใช้ให้เสวียนอวี๋เป็นแค่เด็ก ยังไงผู้ใหญ่ก็คงไม่ว่าอะไรเด็กคนหนึ่งหรอกใช่ไหม
เซียวเฉวียนกำชับว่า “อื้อ ไปเถอะ แต่ระวังอย่าหักโหมมากเกินไป”
เสวียนอวี๋ทุบหน้าอกของตัวเอง “ท่านลุงเซียววางใจ เสวียนอวี๋รู้ดีอยู่แล้ว”
ท้ายที่สุดแล้วเขาเติบโตมาจากสำนักหมิงเซียนมาตั้งแต่เด็ก และสำนักหมิงเซียนก็เป็นตัวแทนของเทียนเต๋า
ตัวแทนของเทียนเต๋า ไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำก็ล้วนแต่เป็นตัวแทนของเทียนเต๋า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากความภาคภูมิใจ
ยิ่งไปกว่านั้น เสวียนอวี๋เป็นลูกศิษย์แท้ๆ ของนักปราชญ์ กฎเกณฑ์เหล่านี้เขารู้และเข้าใจมันเป็นอย่างดี
แม้ว่าเสวียนอวี๋จะยังเด็ก แต่กฎเกณฑ์ที่ควรรู้เขาก็ไม่เคยตกหล่น รู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ทำได้ถึงระดับไหน ทุกอย่างเขารู้ดีอยู่แก่ใจ
พูดจบเขาก็วิ่งออกไปจากจวนเซียว ยืนอยู่บนบันไดทางขึ้นของหน้าประตูจวนเซียว
เขาตั้งใจกระแอมออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจของแม่สื่อ หลังจากนั้นก็ชี้ไปที่แม่สื่อและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงของเด็ก “ท่านยาย ท่านรู้หรือไม่ว่า การที่พวกท่านมาตะโกนส่งเสียงดังหน้าประตูจวนเซียวทุกวันนั้นทำให้คนในจวนเซียววุ่นวายจนไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข”
เมื่อแม่สื่อได้ยินเสียงตะโกนว่าท่านยายจากเสวียนอวี๋ สีหน้าของนางก็ลดลงในทันใด
นางสัมผัสใบหน้าของตนเองด้วยความกังวล จากนั้นก็พึมพำออกมา “ข้าเพิ่งจะอายุ 32 ปี เด็กคนนี้เรียกข้าว่าท่านยาย ข้าดูแก่ขนาดนั้นเลยงั้นหรือ?”
เกิดเป็นผู้หญิง ใครบ้างที่ไม่อยากดูเด็ก ใครบ้างที่ไม่อยากงดงาม?
เห็นอยู่ว่านางเพิ่งจะอายุได้สามสิบต้นๆ นางยังไม่ได้แก่ขนาดนั้น
เด็กคนนี้อยากจะพูดอะไรออกมากันแน่?
แม่สื่อรู้สึกโกรธจนแทบทนไม่ไหว
แต่ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ มันคงไม่ดีหากแม่สื่อระเบิดความโกรธออกมา นางแอบจ้องเขม็งมาที่เสวียนอวี๋ จากนั้นก็กระแอมออกมา “นี่ เจ้าเป็นเด็กจากตระกูลไหนอย่างนั้นหรือ พูดจาเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร? เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่าเข้ามายุ่ง!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเสวียนอวี๋ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า ดูเหมือนว่าแม่สื่อผู้นี้จะโกรธที่เสวียนอวี๋เรียกนางว่าท่านยายจนโงหัวไม่ขึ้น คำพูดหลังจากนั้นไม่ได้เข้าไปในหูของนางเลย!
เสวียนอวี๋ตอบกลับไปว่า “ข้าบอกว่า ท่านมาส่งเสียงดังเอะอะโวยวายทุกวัน คนในจวนเซียววุ่นวายจนใช้ชีวิตไม่เป็นปกติสุขแล้ว ได้ยินไม่ชัดอย่างนั้นหรือ?”
ความหมายของมันก็คือ ข้าคือคนของจวนเซียว และข้าก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ได้ยินคำพูดของเสวียนอวี๋ แม่สื่อก็ได้สติกลับคืนมาในทันใด พร้อมกับเข้าใจในคำพูดของเสวียนอวี๋
ที่แท้ก็เป็นคนของจวนเซียว!
ได้ยินว่าเป็นคนของจวนเซียว ทัศนคติของแม่สื่อก็เปลี่ยนไป กล่าวออกมาด้วยใบหน้าเป็นมิตร “ข้าขอโทษ นายน้อย ข้าขอถามหน่อยว่าใต้เท้าเซียวอยู่ในจวนหรือไม่?”
เสวียนอวี๋เหลือบตาขาวใส่แม่สื่อ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนแรกผู้นำตระกูลของข้าก็อยู่ในจวน แต่เนื่องจากพวกท่านมาสร้างความรบกวนเช่นนี้ ตอนนี้เขาก็ได้หนีไปซ่อนตัวแล้ว”
“ไม่ใช่แค่พวกท่านที่อยากพบเขา พวกเราคนของจวนเซียวเองก็อยากพบเขาเช่นกัน แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาไปอยู่แห่งหนใด”
เป็นเพราะคนพวกนี้เอาแต่มาสร้างความวุ่นวายอยู่หน้าจวนเซียว ทำเหมือนกับจวนเซียวเป็นตลาดสด ขับไล่เซียวเฉวียนให้หนีไปจากความเพราะความรำคาญ
แล้วยังคิดจะเจอเขา?
ฝันไปเถอะ!
ข้าจะบอกพวกเจ้าเอาไว้ พวกเจ้าคือคนที่บีบบังคับให้เซียวเฉวียนต้องหนีไป!
คำพูดของเสวียนอวี๋ทำให้ทุกคนเข้าใจอย่างชัดเจน พวกเขาตะลึงงัน เงียบสงบลงในทันใด
ผ่านไปพักใหญ่ถึงได้สติกลับคืนมา มองมาที่เสวียนอวี๋ด้วยความสงสัย หรือว่าความหวังดีจะกลายเป็นปัญหา พวกเขากระตือรือร้นมากเกินไปงั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...