เมื่อเรื่องเหล่านี้เสร็จสิ้น เซียวเฉวียนก็สามารถพาครอบครัวของเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้
เขาหวังว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วๆ นี้ ดังนั้นเขาจึงต้องการ จบเรื่องเหล่านี้โดยเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้นักปราชญ์ยังคงลอยนวลอยู่ และยังมีโอกาสที่จะทำร้ายนักรบต่อไป เซียวเฉวียนจึงต้องหาตัวเขาให้พบเพื่อหยุดยั้งการฆาตกรรม
แต่ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแส เซียวเฉวียนจึงต้องกลับไปเมืองหลวง เขาไม่สามารถอยู่ที่เกาะนกกสาได้นาน
พูดมาทั้งหมด สรุปก็คือ ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไร ข้าก็ต้องกลับเมืองหลวง
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนก็จากเมืองหลวงไปนานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว เขาต้องกลับไปดูจวนเซียว ไปดูองค์หญิงต้าถงและเซียวหมิงชิว
นอกจากนี้ เขายังต้องไปดูว่าหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันได้รับการบูรณะใหม่เป็นอย่างไร
เซียวจิงรู้ดีว่าเซียวเฉวียนอยู่ที่เกาะนกกระสาได้ไม่นาน แม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่เธอไม่ได้รั้งเซียวเฉวียนไว้ เธอยิ้มและพูดว่า “เมื่อพี่ชายกลับไปแล้ว อย่าลืมทักทายพี่สะใภ้และหลานสาวจากจิงเอ๋อร์ด้วย”
เซียวเฉวียนยิ้มจางๆ และพูดว่า “แน่นอน พวกเจ้าอยู่ดูแลตัวเองนะ เจอกันใหม่”
เมื่อตัดสินใจแล้ว เสี่ยวเซียนชิวก็ไม่อยากพูดอะไรอีก เธอเพียงมองเซียวเฉวียนและเสวียนอวี๋จากไป
ร่างของพวกเขาหายไปจากสายตาในพริบตา
มาอย่างรีบร้อน ไปอย่างรีบร้อน
อาสือกลับไปทำงานต่อ
เซียวจิงพาเสี่ยวเซียนชิวกลับไปที่พักของเธอ
ในสมัยโบราณ การมีวิชาตัวเบาทำให้การเดินทางสะดวกสบาย และการมีวิชานี้ยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น รวดเร็วกว่าเครื่องบินในยุคปัจจุบัน
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งดอกไม้ธูป เซียวเฉวียนและเสวียนอวี๋ก็กลับมาถึงเมืองหลวง
พวกเขาไม่ได้หยุดที่ประตูเมือง แต่ตรงไปที่จวนเซียว
สิ่งแรกที่พวกเขาทำเมื่อกลับมาถึงจวนเซียวคือเทมันเทศที่ซ่อนอยู่ในภาพชุนเซี่ยว ออกมา
เซียวเฉวียนนำมันเทศที่ขุดจากเกาะนกกระสากลับมาครึ่งหนึ่ง
ดังนั้น เมื่อเทมันเทศทั้งหมดออกมา มันเทศจึงกองรวมกันเป็นภูเขาเล็กๆ
ทุกคนในจวนเซียวรู้ดีว่ามันเทศอร่อยแค่ไหน ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นมันเทศมากมาย ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น มากกว่าตอนที่พวกเขาเห็นเงินสีขาว
แม้ เงินที่พวกเขาเห็น ส่วนใหญ่จะไม่เข้ากระเป๋าของพวกเขา แต่กองมันเทศนี้ พวกเขาจะได้กินแน่นอน
ก่อนหน้านี้ เซียวเฉวียนเคยนำเถาของมันเทศกลับมาเมืองหลวง ปลูกมันเทศและพวกเขามีโอกาสได้ลองชิม แต่ไม่จุใจ
ตอนนี้เซียวเฉวียนนำมันเทศกลับมาเยอะขนาดนี้ พวกเขามีความสุข
เฉวียนอีพูดด้วยสายตาที่เป็นประกายว่า “นายท่าน ท่านไปเอามันเทศมาจากไหนเยอะขนาดนี้ขอรับ?”
เซียวเฉวียนตอบอย่างเย็นชาว่า “เกาะนกกระสา”
เขาหยุดชั่วครู่แล้วพูดต่อว่า “พวกเจ้าหาที่เก็บมันเทศเหล่านี้ไว้ อยากกินก็ต้มกินได้”
เซียวเฉวียนเคยบอกวิธีการกินมันเทศหลายแบบกับคนเหล่านี้แล้ว ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก
เฉวียนอีและคนอื่นๆ ตอบว่า “ขอรับ นายท่าน!”
จากนั้นเซียวเฉวียนก็สั่งให้คนหาถุงปุ๋ยมาใส่มันเทศจนเต็มครึ่งถุง
คนในบ้านอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเซียวเฉวียนจะเอาถุงมันเทศนี้ไปที่ไหน
เซียวเฉวียนพูดอย่างเย็นชาว่า “เอาไปเข้าวังถวายให้กับฝ่าบาท”
ฮ่องเต้คิดถึงมันเทศมานานแล้ว ตอนนี้เซียวเฉวียนเอา กลับมา ก็เลยใส่ถุงเอาไปให้เขา
มันเทศไม่เยอะ เพราะคนในจวนมีเยอะที่จะต้องกิน ฮ่องเต้ก็ประหยัดๆ กินให้น้อยๆ
ถ้าอยากกินมาก ฮ่องเต้ก็สามารถสั่งให้คนปลูกได้ เพราะในวังมีแรงงานและพื้นที่มากมาย
ถ้าฮ่องเต้ไม่เสียดาย สวนหลวงก็สามารถปลูกมันเทศได้ เพียงพอให้คนในวังกินได้
สรุปว่า ถ้าอยากปลูก ที่ไหนก็สามารถปลูกมันเทศได้
เมื่อได้ยินว่ามันเทศเป็นของฮ่องเต้ ทุกคนก็สงสัยว่า เซียวเฉวียนเอา กลับมาเยอะขนาดนี้ แต่ให้ฮ่องเต้แค่ครึ่งถุง เซียวเฉวียนงกกับฮ่องเต้หรือเปล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...