ตาแก่ผู้มีอายุนับพันปี มาถือสากับชายหนุ่มในวัยยี่สิบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็จะทำให้ผนึกจูเสินดูเป็นคนใจแคบ ปราศจากความสง่างามและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างที่เทพประทับแห่งสหัสวรรษควรมี
น่าขายหน้า
มันคงจะน่าอายกว่านี้อีก ถ้าเด็กหนุ่มอย่างเซียวเฉวียนได้รับอนุญาตให้จับจุดข้อบกพร่องนี้ เอามันมาเยาะเย้ยผนึกจูเสิน
ดังนั้น บรรพชนจึงควรมีบุคลิกของบรรพชน ไม่ถือสากับรุ่นน้องมากเกินไป
ในชั่วพริบตา เซียวเฉวียนก็มาถึงต่อหน้าผู้คน
เมื่อเห็นเซียวเฉวียนปรากฏตัว ราวกับว่าพวกเขาเห็นฟางช่วยชีวิต ผู้คนต่างรีบพูดว่า "ใต้เท้าเซียว
ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว"
"ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใต้เท้าเซียว ท่านดูสิ ลมนี้พัดอย่างต่อเนื่อง ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่หยุด หากยังเป็นเช่นนี้ พืชผลของเราก็จะรับไว้ไม่ไหวแล้ว”
หากพืชผลไม่สามารถกักเก็บได้ เกาะนกกระสาก็จะถูกน้ำท่วมเช่นกัน
เมื่อน้ำท่วมแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะกลับมาทำเกษตรกรรมและใช้ชีวิตตามปกติได้
บางคนจึงอยากรู้อยากเห็นและถามว่า "ใต้เท้าเซียว ท่านช่วยทำให้พายุนี้หยุดได้หรือไม่?"
แท้จริงแล้ว ฝนตกหนักกว่าตอนที่ฝนตกแต่แรกมาก
เมื่อฝนตกครั้งแรก ไม่มีลม แต่ตอนนี้ลมแรงมากจนพัดบ้านสีดำที่ถูกไฟไหม้อีกหลังหนึ่งล้มลงต่อหน้าเซียวเฉวียน
พายุลูกนี้ควรจะหยุดได้แล้วจริงๆ
ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงตั้งสมาธิและใช้ความคิดของเขาเพื่อหยุดพายุ
เทคนิคนี้ถูกใช้โดยเซียวเฉวียน ตอนที่เขาอยู่ในหุบเขารัฐมู่อวิ๋น และมันยังคงได้ผลและผลลัพธ์ก็รวดเร็ว ในเวลานั้น ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ตอนนี้เวลาผ่านไปพอประมาณแล้ว แต่ลมและฝนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสน เขาใช้ความคิดส่งข้อความถึงผนึกจูเสินด้วยความสับสน "เหล่าจู นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"
ทำไมตอนนี้ถึงใช้งานไม่ได้?
ทันใดนั้นผนึกจูเสินก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “เจ้าใช้การลงโทษด้วยวาจา
ในสองแห่งในเวลาเดียวกัน หากเจ้าต้องการให้ลมและฝนหยุด เจ้าทำได้เพียงทำให้ลมและฝนในทะเลหยุดด้วยเท่านั้น”
การลงโทษด้วยวาจา
มีข้อจำกัดแบบนี้ ใช้ได้หลายๆ ที่พร้อมๆ กัน
แต่เมื่อเจ้าต้องการให้มันหยุด เจ้าไม่สามารถหยุดมันได้อย่างเลือกสรร
หากเจ้าต้องการหยุดต้องหยุดพวกมันทั้งหมด และจะต้องเป็นยึดจุดหลังเป็นหลัก
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าเซียวเฉวียนต้องการให้ลมและฝนในเกาะนกกระสาหยุด ให้สภาพอากาศกลับสู่ปกติ เขาจะต้องทำให้ลมและฝนในทะเลหยุดเช่นกัน
ทันทีที่ลมและฝนบนทะเลหยุด ลมและฝนบนเกาะนกกระสาก็จะหยุดเช่นกัน
นี่
เป็นกับดักของผนึกจูเสินจริงๆ!
มันรู้ชัดเจนว่าเซียวเฉวียนมาที่นี่เพียงเพื่อหยุดพายุ แล้วทำไมถึงไม่พูดตั้งแต่แรก?
เหตุใดยังให้เซียวเฉวียนมาที่นี่เป็นพิเศษ
คนผู้นี้หลอกคนขึ้นมา คือทำให้คนไม่ทันระวังจริงๆ
อย่างไรก็ตามเซียวเฉวียนไม่สามารถตำหนิได้ ท้ายที่สุดเซียวเฉวียนไม่ได้ถามมัน และมัน "ไม่รู้" ว่าเซียวเฉวียนกลับมาคืออยากหยุดพายุ
เซียวเฉวียนจะพูดอะไรได้อีก
พูดตามตรง เซียวเฉวียนไม่ต้องการหยุดพายุในทะเล แต่ลมและฝนในเกาะนกกระสาค่อนข้างแรงและมีน้ำสะสมอยู่บนพื้นยาวถึงข้อเท้า หากผ่านไปอีกสองสามชั่วยาม บ้านอาจถูกน้ำท่วม บ้านของราษฎรทั่วไปไม่แข็งแรงเท่าบ้านสมัยใหม่ ไม่ใช่สร้างด้วยอิฐโคลน ก็สร้างด้วยไม้ ทนลมและฝนไม่ได้
เพื่อความปลอดภัยและทรัพย์สินของราษฎร เซียวเฉวียนทำได้เพียงปล่อยให้พายุในทะเลหยุดลง
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เซียวเฉวียนก็พูดเบาๆ ว่า "ทุกท่านวางใจ ประเดี๋ยวพายุจะหยุดลง"
ด้วยคำพูดของเซียวเฉวียน ผู้คนก็รู้สึกโล่งใจ และทุกคนก็พูดพร้อมกันว่า "ขอบคุณ ใต้เท้าเซียว"
จากนั้น ก่อนที่ผู้คนจะพูดจบ เซียวเฉวียนก็หายตัวไปในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...