แม่ฉินเวียนหัวมากตั้งแต่เหวินคุนย้ายเข้ามาอยู่ในจวนฉินอย่างมีความสุข
ฮ่องเต้รับสั่งให้จวนฉินรับใช้และให้ความสะดวกสบายแก่เขา มอบแม้กระทั่งของขวัญและเงินมากมายเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายของเหวินคุน
แม้ว่าเหวินคุนและเหวินฮั่นจะเป็นพี่น้องกัน แต่นิสัยของพวกเขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เหวินฮั่นเป็นคนเรียบง่าย ผิดกับเหวินคุนที่ใช้เงินเหมือนสายน้ำไหล ได้เงินมาก็ใช้เงินออกไปทันที อยากได้อะไรก็ซื้อทันที อยากจะให้ใครที่พบเจอก็ให้
เหวินฮั่นเป็นคนถ่อมตนและใจดี ในขณะที่เหวินคุนเย่อหยิ่งและจองหอง แม้แต่ฮ่องเต้เขายังไม่ใส่ใจ นับประสาอะไรกับผู้คนในจวนฉิน!
เพื่อต้อนรับแขกที่มีเกียรติสูงส่งคนนี้ จวนฉินได้จัดลานที่ดีที่สุดในจวนฉินให้ ทำความสะอาดและตกแต่งให้งดงามชั่วข้ามคืน นอกจากนี้ยังจัดหาสาวใช้และองครักษ์ที่มีความสามารถมาคุ้มกัน
อาหาร และเสื้อผ้าที่ดีที่สุด ล้วนได้รับการคัดเลือกและส่งไปที่ลานของเหวินคุน
เซียวเฉวียนยังคงอาศัยอยู่ในลานเล็กๆ ของตนเอง ยกเว้นว่าเขาจะไปคำนับอาจารย์ในตอนเช้าและค่ำ
พูดถึงการคำนับในตอนเช้าและตอนค่ำนี้ก็น่าสนใจ
เพราะไม่เพียงแต่เซียวเฉวียนเท่านั้นที่ต้องไปทั้งในตอนเช้าและตอนค่ำ แต่ยังรวมถึงแม่ฉิน พ่อฉิน และน้องๆของฉินเฟิงด้วย ต่างก็จำเป็นต้องมาที่ลานทีละคนเพื่อคำนับต่อเหวินคุน
ในฐานะลูกศิษย์ของเหวินคุน สถานะของเซียวเฉวียนนั้นสูงกว่าตระกูลฉิน ดังนั้นตระกูลฉินจะสามารถคำนับได้หลังจากที่เซียวเฉวียนคำนับแล้วเท่านั้น
ครั้งแรกที่มาและต้องทักทายแม่ฉิน เซียวเฉวียนก็ยังดูโกรธมาก! เขาไม่มีความสุขเลยที่ต้องพบกันทั้งในเวลาเช้าและค่ำ!
แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป เขามาที่ลานของอาจารย์ทุกวันใบหน้าเต็มไปด้วยพลัง และเขามาตรงต่อเวลาทั้งในตอนเช้าและค่ำ เมื่อมองดูตระกูลฉินคุกเข่าลงและคำนับอาจารย์ เขาก็มีความสุขได้ตลอดทั้งวัน!
เรื่องที่จวนว่าการชั้นในถูกเผา ฮ่องเต้ได้จัดการและทุกอย่างคลี่คลาย
เป็นเพราะสถานะของอาจารย์นั้งสูงส่ง ชีวิตของเซียวเฉวียนจึงสบายขึ้น อีกทั้งช่วงนี้ตระกูลฉินก็ดูสงบปากสงบคำผิดปกติ โดยเฉพาะแม่ฉินที่พึ่งสร้างปัญหาไปเมื่อไม่นาน
บางครั้งแม่ฉินก็มองเขาด้วยความสับสนและความกลัวที่ไม่อาจเห็นได้แน่ชัด
เซียวเฉวียนได้ยินว่าในวันที่เกิดจลาจลในจวนว่าการชั้นใน แม่เซียวถูกพี่น้องตระกูลฉินพากลับมา นางดูเหมือนว่าจะยังกลัวอยู่มาก
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ตระกูลฉินก็แค่ทำไปอย่างนั้น
เซียวเฉวียนคิดว่าการที่เหวินคุนย้ายเข้ามาในจวนฉิน เพราะต้องการสอนอะไรให้แก่เขา แต่ในตอนนี้เซียวเฉวียนได้ความแข็งแกร่งของเหวินคุนระหว่างการต่อสู้ที่จวนว่าการชั้นในแล้ว
เหวินคุนที่ไม่มีอะไรทำตลอดทั้งวัน เขาไปในครัวจวนฉินเพื่อหาอาหารหรือไม่ก็แอบฟังข่าวซุบซิบของคนรับใช้และสาวใช้
อาจารย์คนนี้มองซ้ายทีขวาที่ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ!
เซียวเฉวียนทำเป็นไม่สนใจ อาจจะเป็นเพราะว่าเหวินคุนอยู่ในคุกนานเกินไปและคงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะสนใจการใช้ชีวิตของคนภายนอก
เซียวเฉวียนใช้เวลาตลอดทั้งวันเดินทางไปมาระหว่างกองราชองครักษ์และจวนฉิน ในขณะที่ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าปกป้องเขา ไม่ให้ออกห่างแม้ครึ่งก้าว
ครั้งสุดท้ายก่อนที่เซียวเฉวียน ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าออกจากคุกของจวนว่าการชั้นใน พวกเขาได้ยินว่าจวนว่าการชั้นในได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาและคุณชายอี้กุยหยุดพวกเขาไว้
อี้กุยบอกว่าพวกเขาจะทำการแหกคุก ซึ่งมันจะทำให้เซียวเฉวียนเป็นที่พูดถึง แม้เซียวเฉวียนจะได้รับการปล่อยตัว แต่เว่ยเจียนกั๋วจะไม่ละเว้นเขาไว้อย่างแน่นอน
ขณะที่อี้กุยกำลังคิดหาทาง เหวินคุนก็เผาจวนว่าการชั้นในด้วยกำลังมหาศาล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหอปี้เซิ่ง ก็ผ่านไปแล้ว
เพราะในช่วงที่เกิดความวุ่นวายในจวนว่าการชั้นใน พยานหลายสิบคนที่แกล้งทำเป็นปวดท้องถูกคนของอี้กุยสังหารโดยไม่หลงเหลือหลักฐานใด ๆ
"สังหาร?"
“ใช่ สังหารทั้งหมดเลย” ไป๋ฉี่พยักหน้า ซึ่งมันทำให้ตึกปี้เซิ่งผ่านควายากลำบากมากได้
อา ดูไม่ออกเลย อี้กุยเหมือนกับเด็กเมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวเฉวียน แต่เมื่อเซียวเฉวียนไม่อยู่ เขาก็สามารถดูแลกิจการได้
"มีอีกอย่าง คุณชายอี้บอกว่าถ้าเขารู้เร็วกว่านี้ว่าอาจารย์ของนายท่านนั้นดุร้ายมาก ถึงกับเผาจวนว่าการชั้นในจนไม่เหลือซาก เขาก็คงไม่ต้องออกแรงฆ่าพวกมัน”
“ทำงานหนักจริงๆเลย เซียวอี้ ตอนนี้ เว่ยชิงคงจะโกรธมาก”
เซียวเฉวียนถอนหายใจ เว่ยชิงส่งโย่วควนมาฆ่าเขา แต่เซียวเฉวียนกลับจับโย่วควนไว้ใต้ปีก
เขาส่งคนมาทำร้าย และคนเหล่านี้ก็ถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว
แม้ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ เซียวเฉวียนกลายเป็นลูกศิษย์ของเหวินคุน
คิดว่าเว่ยชิงจะโกรธหรือไม่?
ไม่รู้ว่าครั้งต่อไป เว่ยชิงจะใช้กลอุบายอะไร
“ไป ไปหาเขากัน!”
หากไม่ไปคงเสียมารยาทน่าดู!
เซียวเฉวียนนั้นเป็นถึงขุนนางของราชสำนัก เขาจะถูกเว่ยชิงจับทุบตีได้อย่างไร?
แม้ว่าเว่ยชิงจะเป็นท่านอ๋อง แต่เขาก็ไม่สามารถรังแกใครได้!
เซียวเฉวียนและไป๋ฉี่ตื่นเต้น กำลังที่จะออกเดินทาง แต่เหวินคุนหยุดไว้: "หยุดก่อน! พวกเจ้าจะไปไหน?"
“อาจารย์ ข้าจะออกไปข้างนอก” เซียวเฉวียนยิ้ม ตาสองข้างของอาจารย์ต่างก็มองไม่เห็น เขารู้ได้อย่างไรว่าพวกเรากำลังจะออกไปข้างนอก?
“เจ้าคงจะกำลังหาทางแก้แค้น เจ้านี่ไม่เข้าใจธรรมชาติในจิตใจของมนุษย์ เจ้านี่มันคนไร้อารยธรรม ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าน้องข้าสอนอะไรให้กับเจ้า! แค่เพราะความคิด เลยอยากที่จะไปเอะอะโวยวายกับเหล่าเชื้อพระวงศ์งั้นรึ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...