ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 268

ณ ประตูใหญ่จวนฉิน

ฉินเฟิงที่เหงื่อท่วมตัว เพิ่งกลับมาจากฝึกวิทยายุทธ์ที่สนามฝึก

การประลองยุทธเลือกคู่กำลังมาถึง เขาขยันหมั่นเพียรมากขึ้นทุกวัน จนแทบลืมกินลืมนอน

เขาจะต้องขยันมากกว่าเซียวเฉวียน

จะต้องฝึกซ้อมมากกว่าเซียวเฉวียนให้มาก

เขายังเชิญนักวิทยายุทธ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวงมาให้คำแนะนำ

เซียวเฉวียนก็เข้าร่วมการประลองยุทธเลือกคู่ขององค์หญิงด้วยมิใช่หรือ เขาเห็นเซียวเฉวียนทำตัวเอ้อระเหยอยู่ตลอดวัน หากไม่สุมหัวอยู่กับอี้กุย ก็มัวแต่ร่อนไปร่อนมากับไอ้เจ้าโย่วควน รอให้ถึงวันประลองยุทธเลือกคู่ นักปัญญาชนอย่างเซียวเฉวียน จะเอาอะไรมาเทียบกับเขา?

ฝึกวิทยายุทธ์คือหนึ่งในเรื่องที่ต้องทำ หากต้องการเอาชนะผู้รู้หนังสือคนอื่นในการต่อสู้ ในขณะที่ประชันกลอนนั้น ต้องผสานการต่อสู้ในการขับอาวุธ ดังนั้นฉินเฟิงยังต้องทบทวนบทกวีให้ดีอีกด้วย

ฉินเฟิงยุ่งจนแทบไม่มีเวลาได้พัก เขาคิดว่าตัวเองอยู่เหนือเซียวเฉวียนอย่างขาดลอย เขาแอบรู้สึกภูมิใจในตัวเอง

เขาคือคุณชายผู้สูงศักดิ์ เป็นผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ เชี่ยวชาญทั้งบู๊และบุ๋น ถึงเวลานั้นองค์หญิงจะต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาใหม่ และไม่ปฏิเสธเขาอีก

ความรู้สึกเหนือกว่าและความภาคภูมิใจของฉินเฟิง เป็นสิ่งที่ยากแก่การเข้าใจสำหรับเซียวเฉวียน แต่อย่างไรซะ เซียวเฉวียนก็ไม่ได้สนใจในสิ่งที่ฉินเฟิงกำลังทำอยู่

มีเพียงฉินซูโหรวที่เป็นกังวล

“ท่านพี่”

“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เจ้ากำลังตั้งครรภ์ มายืนอยู่ตรงนี้ทำไม?”

ช่วงเวลาใกล้ค่ำของวันนี้ ฉินซูโหรวตั้งใจรอเขากลับบ้านอยู่ที่ประตูใหญ่

ฉินซูโหรวคิดไปเองว่าน้องสาวเช่นนาง ต้องสำคัญมากสำหรับฉินเฟิง นางไม่จำเป็นต้องให้เซียวเฉวียนช่วย ก็สามารถเกลี้ยกล่อมท่านพี่ได้

“ท่านพี่ มีผู้หญิงหลายพันคนในโลก ตระกูลของเราก็ร่ำรวยและและเรืองอำนาจ มีผู้หญิงมากมายเท่าไหร่ที่อยากแต่งงานกับท่าน ท่านอย่าแต่งกับองค์หญิงเลยนะ”

เดิมทีฉินเฟิงมีใบหน้าที่อ่อนโยน ก็แสดงสีหน้าขรึมในทันที

“เซียวเฉวียนให้เจ้ามาพูดเรื่องพวกนี้กับข้างั้นรึ?”

“ไม่เจ้าค่ะ...”

“มันถือว่าตัวเองเป็นใครกัน?” ฉินเฟิงด่าสาดเสียเทเสีย “มันคนนี้ช่างหน้าไม่อาย กล้ามาพูดเรื่องนี้กับข้างั้นรึ? ข้าจะแต่ง จะทำอะไรข้าได้!”

หากเซียวเฉวียนอยู่ตรงนี้ คงเกลือกตามองบนเป็นแน่ คำพูดคำจาราวกับว่าองค์หญิงตกลงปลงใจแต่งงานกับเขาแล้วเสียอย่างนั้น

ฉินซูโหรวเห็นว่าเขากำลังเข้าใจผิด จึงรีบโบกมือ “ท่านพี่ ไม่ใช่เซียวเฉวียนหรอกเจ้าค่ะ เซียวเฉวียนเป็นคนนอก ไม่คู่ควรจะพูดเรื่องนี้ เป็นข้าเอง...ข้าพูดเอง”

ดวงตาที่สดใสเปล่งประกายของนาง เหมือนกับตอนเด็ก ๆ ไม่มีผิด เมื่อก่อนตอนที่ฉินซูโหรวมองเขาด้วยสายตาที่วิงวอนเช่นนี้ ต่อให้เป็นดวงดาวหรือพระจันทร์บนท้องฟ้า ฉินเฟิงก็ยอมเก็บลงมาให้น้องสาวได้

“ซูโหรว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าไม่ต้องเข้ามายุ่ง เจ้ารอเพียงข้ารับองค์หญิงเป็นสะใภ้ก็พอแล้ว”

“ท่านพี่...”

“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการพูดสิ่งใด!” ฉินเฟิงโกรธเล็กน้อย “ เจ้าเป็นน้องสาวของข้า หรือว่าเป็นน้องสาวของเซียวเฉวียน? เจ้าควรหันเหมาทางข้า ทำไมตอนนี้เจ้าทำตัวไม่ต่างจากเซียวเฉวียนเลย! ทำไมต้องทำตัวรำคาญเสียจริง?”

“ตอนแรกที่ให้เจ้าเอาลูกของเจ้ากับมันออก เจ้าก็ไม่ยอม! ดูเจ้าตอนนี้สิ เจ้ากับเซียวเฉวียนต่างนิสัยแย่พอกันเลย!”

“ข้าเหนื่อยแล้ว ขอกลับไปพักผ่อนก่อน อาเซียง พาคุณหนูกลับห้องนอน!”

ฉินเฟิงเดินเข้าไปราวกับสายลม ฉินซูโหรวขาทรุดลงและพิงไปที่ประตู “อาเซียง เมื่อครู่เจ้าได้ยินที่ท่านพี่พูดหรือไม่?”

ในตอนแรกที่ท่านแม่พยายามทำให้ลูกของนางและเซียวเฉวียนแท้งนั้น นางตะโกนเรียกให้ท่านพี่มาช่วย แต่ท่านพี่ไม่ปรากฏตัวออกมาเลย

ฉินซูโหรวคิดมาเสมอว่า ท่านพี่ไม่ได้ยิน

ที่แท้เขาแค่แกล้งทำไม่ได้ยิน เขาก็เหมือนกับท่านแม่ ต้องการให้นางแท้งลูกคนนี้

ท่านพี่ก็ต้องการให้นางกับเซียวเฉวียนแยกจากกัน

หากเป็นเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็ไม่ต้องขวางทางของท่านพี่แล้ว

มีบางอย่างพังทลายลงในหัวใจของฉินซูโหรว และความรู้สึกไร้พลังก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของนาง

นี่คือท่านพี่ที่รักและทะนุถนอมนางตั้งแต่ยังเล็กงั้นหรือ?

“คุณหนู พวกเราขวางทางคุณชายใหญ่ไม่ได้ คิดว่าต้องพึ่งนายท่านแล้วเจ้าค่ะ”

อาเซียงเห็นฉินเฟิงเพลิดเพลินอารมณ์เช่นนี้ และยังหัวแข็งดื้อดึง คุณหนูเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จเป็นแน่

“พวกเราไปขอร้องนายท่านดีกว่านะเจ้าคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย