ชื่อเสียงของเซียวเฉวียนโด่งดังมากขึ้นทุกวันที่เมืองหลวง ประวัติในอดีตของเขาจะถูกพวกผู้ก่อกวนขุดคุ้ยออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในนั้น เรื่องที่เขานำชุดแต่งงานไปจำนำทิ้งนั้น ทิ่มแทงใบหูของตระกูลฉินมากเป็นพิเศษ
ตามถนนและตรอกซอกซอย พวกชาวบ้านจัดวางจานใส่ถั่วลิสงและเหล้าหนึ่งแก้ว พูดคุยกันต่างๆ นานา เขยของตระกูลฉินแท้ๆ ยากจนถึงขนาดต้องจำนำชุดแต่งงาน หรือจวนฉินไม่ให้ข้าวเขากินแม้แต่คำเดียว จนเขาต้องมาหากินกับชุดแต่งงาน?
ในสมัยโบราณ ไม่ว่าขุนนางหรือสามัญชน ชุดแต่งงานของคู่สมรสเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตคู่ที่แสดงความยืนยาว รักใคร่กลมเกลียว เคารพซึ่งกันและกันอยู่ยันแก่เถ้าจนตายจากไป ชุดแต่งงานจะถูกฝังลงดินพร้อมกับเจ้าของของมัน
ชุดแต่งงานไม่ได้เป็นเพียงเสื้อผ้าอาถรณ์ชิ้นหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักความศักดิ์สิทธิ์อันสูงสุดด้วย
แต่ว่าเซียวเฉวียนนำไปจำนำทิ้งเสียแล้ว!
ผู้คนคาดเดาไปต่างๆ นานา และเดาในเหตุไม่กี่เรื่องกัน 1. หิว 2. ประสพปัญหา 3. ยากจน ไม่มีใครเคยคิดว่าเขาจำเป็นต้องทำเพราะมารดาล้มป่วย เงินที่ได้มาจากการจำนำนั้น นอกจากนำไปซื้อพู่กัน กระดาษ หินและหมึกบ้าง ที่เหลือทั้งหมดนำไปใช้จ่ายในบ้าน ตัวเขาเองไม่ได้ใช้แม้แต่สลึงเดียว
หลังจากเซียวเฉวียนสอบได้ตำแหน่งเจี่ยเหยียนแล้ว พระองค์ได้ประทานเขาด้วยทองคำเป็นร้อยตำลึง นำไปไถ่เอาชุดแต่งงานคืนมาง่ายนิดเดียว แต่เขาก็ไม่ได้ไปทำสักที หรือว่าเขาลืมไปแล้ว?
ไม่ว่าทำไมเซียวเฉวียนถึงไม่ไปไถ่ชุดแต่งงาน เขาจำนำชุดแต่งงานก็คือทำให้ตระกูลฉินอับอาย เมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านยายฉินไปร่วมงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ท่านถูกพวกนางผู้ดีซุบซิบเยาะเย้ยอย่างแอบๆ ท่านถึงได้รู้ว่าเขยตัวเองเอาชุดแต่งงานไปจำนำ
ในงานเลี้ยง ท่านยายฉินไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน หน้าเปลี่ยนสีเดี๋ยวก็เขียว เดี๋ยวก็ซีด มือที่ถือตะเกียบยังอ่อนแรง ไม่สามารถแม้แต่จะกินอาหารเข้าปากได้
ท่านทนอยู่ต่อไปไม่ไหวจริงๆ และกลับมาจากงานเลี้ยงก่อนเวลา เมื่อถึงจวนก็ระบายโทสะใส่ฉินเฟิงและฉินซูโหรว ตระกูลฉินแท้ๆ ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านด้วยเงินแค่ 50 ตำลึง! ถูกเขาเยาะเย้ยว่าร่ำรวยแต่ไร้จิตเมตตา แถมใช้อำนาจรังแกคนอื่น!
เมื่อเห็นคุณยายฉินโกรธมาก ฉินเฟิงจึงสั่งให้คนไปไถ่ชุดแต่งงานจากโรงรับจำนำมาอย่างเงียบๆ แต่ว่าเจ้าของโรงจำนำอ้างเหตุเซียวเฉวียนสอบได้ตำแหน่งสูงมาเป็นจุดขาย ว่ามีคนไม่น้อยมาแข่งประกวดราคา สุดท้ายจวนฉินต้องกัดฟันใช้เงิน 3000 ตำลึง จึงไถ่ชุดแต่งงานเอาคืนมาได้
จำนำแลกเงิน 50 ตำลึงแต่ต้องไถ่คืนด้วยเงิน 3000 ตำลึง ท่านยายฉินเจ็บปวด ในใจนั้นไฟแห่งโทสะยลุกกระจายยิ่งกว่าเดิม
ฉินซูโหรวนำชุดแต่งงานมาที่นี่ในวันนี้ ประการแรกเธอต้องการมาต่อว่า ประการที่สอง จะใช้เหตุเรื่องชุดแต่งงานเพื่อให้เขาชดใช้ความผิดและสั่งให้เขาย้ายกลับไปอยู่ที่จวนฉิน ไม่งั้นตระกูลฉินจะถูกชาวบ้านครหาว่าตระกูลฉินโหดร้ายกับเขย แล้วต่อไปตระกูลฉินจะเอาหน้าไปไว้ไหน!
โดยไม่คาดคิดว่านอกจากฉินซูโหรวจะไม่ได้เข้าประตูบ้านของเซียว จะเข้าไปได้อย่างไร เธอจึงโมโหโกรธาวิ่งกลับจวนฉิน แถมชุดแต่งงานก็ถูกโยนทิ้งไว้ที่หน้าประตูบ้านของเขาเสมือนขยะชิ้นหนึ่ง ดูว่าเซียวเฉวียนจะเก็บไว้ไหมละ
ฉินซูโหรวผู้เอาแต่ใจไม่เคยคาดคิดว่า เซียวเฉวียนจะไม่ได้เก็บชุดแต่งงานขึ้นไว้ แต่กลับถูกขโมยไปโดยหัวขโมยสองคนที่มักจะคอยจับตาดูลาดเลาอยู่หน้าบ้านของเซียว
เซียวเฉวียนผู้ไม่ขาดสนในเรื่องกินเรื่องดื่ม ฝึกคัดลายมือทุกวัน ใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์และสะดวกสบาย เขาไม่รู้เรื่องว่าชุดแต่งงานที่เขาจำนำทิ้งลืมไปเมื่อนานมาแล้วทำให้จวนฉินกระโดดโลดเต้นด้วยความโกรธ ยิ่งฉินเฟิงเกลียดชังจนต้องการที่จะกระทืบเขาสักฉากหนึ่ง ทุบตีจนควันออกจากทวารร่างมันถึงจะสาแก่ใจ!
เซียวเฉวียนไม่ยึดติดกับชุดแต่งงานเหมือนคนสมัยก่อน ชุดแต่งงานสามารถนำมาสวมใส่เป็นครั้งที่สองได้หรือ?
ในอนาคต ถ้าเขาแต่งงานใหม่อีกครั้ง จะต้องเป็นงานแต่งที่ใหญ่โตมโหฬาร คงไม่นำชุดเก่าไปสวมอีกแน่ ยิ่งวันที่แต่งงานกับฉินซูโหรวนั้น เซียวติ้งมาตายในวันเดียวกันนั้นด้วย มันไม่มงคล
วันหนึ่งเซียวเฉวียนหลับนอนไปจนพระอาทิตย์ขึ้นยันไม้ยาวชั้นที่สามโน่น อาสือร้องด้วยเสียงตื่นตระหนก จนปลุกเขาตื่นขึ้นมา
เขาพลิกตัวไป อาสือรีบผลักประตูและเดินเข้ามา ทิ้งตัวเข้ามาทั้งมือทั้งเท้าราวกับว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น "เจ้านาย! ไม่ ไม่ ไม่ พี่ใหญ่ ตื่นเร็ว เกิดเรื่องแล้ว เกิดรื่องใหญ่แล้ว!"
”อะไรนะ?” เซียวเฉวียนลุกขึ้นนั่งด้วยหน้าตายังงัวเงีย บนหัวผมยุ่งเป็นกระเซิง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสุภาพบุรุษแต่งกายเรียบร้อยหลงเหลืออยู่เลย สำหรับเซียวเฉวียนที่เป็นอยู่ในขณะนี้
"เหล้า! เหล้าของเราถูกขโมยหมดแล้ว! ไปแจ้งเจ้าหน้าที่กันเถอะ!" อาสือรู้สึกผิดและกระวนกระวาย วันนี้เขาลุกขึ้นมาไปดูที่สนาม ไหเหล้าทั้งหมดถูกขโมยจนเกลี้ยงไม่ว่า แผ่นกระเบื้องที่ใช้ทับปากไหก็ไม่เหลือสักอัน
เหล้าพวกนี้แค่วัตถุดิบก็ใช้เงินไปตั้งหลายสิบตำลึง แถมยังเสียเวลาหลายวันในการกลั่นอย่างพิถีพิถัน ทั้งหมดนี้ เป็นความพยายามอย่างอุตสาหะของพี่ใหญ่แท้ๆ!
เซียวเฉวียนคิดว่าคนในบ้านเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกใจหายใจคว่ำ แต่ปรากฎว่า มันเป็นเหล้าไม่กี่ไห ถูกขโมย? ก็ดีละสิ กลัวที่สุดก็คือไม่มีคนมาขโมย เซียวเฉวียนพลิกตัวหันกลับและพูดเสียงรัวๆ ว่า "ไป่ฉี มาลากเจ้าอาสือนี้ลงไปที"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...