ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 51

อาหารบนโต๊ะส่วนใหญ่เข้าไปอยู่ในท้องของไป่ฉี

ไป่ฉีรูปร่างสูงใหญ่ กินจุมากจนน่าตกใจ ไป่ฉีกินอย่างเอร็ดอร่อย เซียวเฉวียนพอใจมาก

เซียวเฉวียนกินอิ่มแล้วจงใจขูดกวาดอาหารของเหลือที่อยู่ในจาน ฉินซูโหรวขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะพูด "คุณช่วยรักษามารยาทในการรับประทานอาหารหน่อยได้ไหม"

ตอนนั้นเองที่เซียวเฉวียนสังเกตเห็นใบหน้าอันงดงามของฉินซูโหรวเกือบจะเข้มเหมือนสีตับหมู ถึงกระนั้น หน้าตาของเธอก็ยังสวยงามดั่งภาพวาด แรงเสน่ห์คงเดิมไม่จางหาย

เซียวเฉวียนไม่สนใจที่จะไปตอแยกับเธอ ที่เขาไม่พูดถึงเรื่องระหว่างเธอกับจูเหิงในเที่ยวที่แล้วนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเขาจะให้อภัยกัน

เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นฉินซูโหรว รอให้ไป่ฉีทานอาหารเสร็จ เขาก็ยกกระถางธูปขึ้นเตรียมจะออกไป ไม่แม้แต่จะกล่าวขอบคุณ

พฤติกรรมดูถูกตระกูลฉินเช่นนี้ทำให้ฉินซูโหรวไม่สามารถทนอยู่ได้ "เซียวเฉวียน! คุณจะไปไหน?"

เซียวเฉวียนพูดอย่างเฉยเมยว่า "ก็กลับบ้านนะสิ"

"คุณแต่งเข้าบ้านตระกูลฉินแล้ว ยังมีบ้านอะไรอีก" ฉินซูโหรวโกรธจัด คนอยู่ข้างนอกชี้โบ๊ชี้เบ๊ เสียงซุบซิบผ่านเข้ามาถึงที่เธอ เธอรู้สึกอึดอัดแย่เต็มทน เซียวเฉวียนเมินเฉยต่อสิ่งรอบตัว อยู่อย่างเฉื่อยเนือยได้ไง?

เมื่อก่อน ใครๆ ก็พูดว่าเซียวเฉวียนไม่คู่ควรกับฉินซูโหรว แต่งงานกับเซียวเฉวียน เป็นเรื่องอาบอายสำหรับฉินซูโหรว

เวลานี้เซียวเฉวียนได้เข้าไปในโรงเรียนชิงหยวน และกลายเป็นลูกศิษย์ของเหวินฮั่น คนเหล่านั้นเปลี่ยนแนวสนทนาไป ต่างกล่าวหาว่าตระกูลฉินไร้มนุษยธรรมแล้วยังตระหนี่ เขยตระกูลฉินเข้าโรงเรียน แค่เตรียมข้าวของนิดหน่อย ไม่จ่ายค่าเล่าเรียนสักนิด

เป็นความจริงที่เซียวเฉวียนไม่ได้จ่ายค่าเล่าเรียน ครูเหวินฮั่นเป็นผู้บอกว่าเขาไม่ต้องการค่าเล่าเรียน ให้เข้าเรียนได้เลย เขาคิดไว้แล้ว ไว้การค้าขายทำสำเร็จ เขาจะมอบทองคำเป็นพันชั่งเพื่อตอบแทนบุญคุณเหวินเจี้ยวยวี่ที่มองเขาไม่ผิดคน

แม้ว่าเขาจะไม่ได้จ่ายค่าเล่าเรียน แต่เซียวเฉวียนก็ไม่ได้ขอเงินสักสตางค์จากตระกูลฉิน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จริงๆ ว่าฉินซูโหรวโกรธเรื่องอะไร "เซียวเฉวียนจัดการเรื่องค่าเล่าเรียนเองได้ จะมากล่าวหาอะไรไม่มีเหตุผล ฉันเซียวขอไม่ยุ่งด้วยหรอก"

ใบหน้าฉินซูโหรวถอดสี ตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะเรียกชื่อคุณหนูฉิน เขาโอหังมากไปแล้ว!

เธอตะโกนว่า "คุณไม่จ่ายค่าเล่าเรียนไม่ว่ายังไปกระจายข่าวอีก จงใจทำให้ตระกูลฉินเป็นขี้ปากของชาวบ้าน มีเจตนาอะไรกันแน่"

เซียวเฉวียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี คนโบราณนี้น่าคิดแฮะ โดยเหตุผลแล้ว เซียวเฉวียนเป็นเขยของตระกูลฉิน ก็มีฐานะเช่นเดียวกับลูกหลานของตระกูลฉิน ตระกูลฉินจึงควรเป็นผู้จ่ายค่าเล่าเรียนนั้น

ตระกูลฉินไม่ได้คิดริเริ่มที่จะจ่ายค่าเล่าเรียน ต้องการที่จะขีดเส้นแบ่งกับเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนดีใจไม่ว่า จึงไม่คิดที่จะไปเอากับตระกูลฉินแม้แต่สตางค์แดงเดียว เซียวเฉวียนคงไม่ถึงกับหมดปัญญาที่จะไปหาเงินมาเพียงเท่านี้

มีข่าวลือไปทั่วเมืองหลวงว่าเขาไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน เพราะบรรดาบุตรหลานตระกูลสูงศักดิ์หาจุดอ่อนอื่นๆ ของเขาไม่ได้ เลยฉวยเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น กระจายปากจากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อยจนกลายเป็นสภาพเช่นนี้

”เชอะ คุณไม่เกี่ยวงั้นหรือ? ฉันคิดว่าคุณก็อยากได้เงินนั่นแหละ! เอาไปซะ!” ฉินซูโหรวขยำธนบัตรที่เตรียมไว้แล้วเป็นก้อนกระดาษแล้วโยนมันลงกับพื้น ราวกับว่าจะให้ขอทานทั้งพูดอย่างเหยียดหยามว่า "นี่คือทองคำ 300 ตำลึง! คุณทำเรื่องก่อกวนไปทั่วทั้งเมืองไม่ใช่เพราะจะอยากได้เงินนี่หรือ? คุณยอมเสียหน้าเรื่องแบบนี้ได้ แต่ตระกูลฉินเราทำไม่ได้ !"

คุณยายฉิน และฉินเฟิงมองเขาห่างๆ มองเซียวเฉวียนเยี่ยงสุนัขตัวหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะอยู่นอนนิ่งหรือแหกปากเห่า เขาแค่ดูเหมือนกำลังกระดิกหางและเรียกร้องขอความเมตตา!

ทองคำ 300 ตำลึง เซียวเฉวียนดิ้นรนตลอดชีวิตก็หามาไม่ได้

เขาไม่เก่งวิชาเลข หนทางเขาจะตันอยู่หน้าการสอบระดับเมืองหลวง

ครองตำแหน่งได้แค่เจี่ยเหยียนกระจ้อยร่อย จะไปทำเรื่องใหญ่โตอะไร?

พวกเขาสงสารเซียวเฉวียน ผู้มีความทะเยอทะยานสูงและบวกพรสวรรค์นิดๆ อย่างไงก็มิอาจไปงัดแม้เพียงนิ้วของพวกผู้ร่ำรวยมีอิทธิพลในเมืองหลวงได้

บุตรหลานของผู้ร่ำรวยทรงอิทธิพลทั้งหลายมีความเชี่ยวชาญทั้งการเขียนเรียงความและวิชาเลข ถึงเซียวเฉวียนไปตายแล้วมาเกิดใหม่ มาเริ่มต้นร่ำเรียนจากศูนย์ ก็มิอาจไปเทียบได้กับความช่ำชองของพวกเขาที่ได้เรียนรู้มาสามปีที่แลกมาด้วยเงินทุนมากมาย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย