ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 71

ด้วยความที่มีผู้สมัครจำนวนมาก ฐานะที่ต่ำที่สุดคือเซียวเฉวียน ต้องโดนรังแกแน่นอน อีกอย่าง ตึกหมิงเยว่ยมีแต่สาวสวยที่ค่อยบริการตลอด ผู้หญิงพวกนี้ทั้งงดงามและมีเสน่ห์ แต่ละคนสวยมากๆ ถ้าพี่สาวรู้เรื่องนี้ เธออาจจะหักขาพี่เขยของเขาก็เป็นได้

"จะตีขาฉันหักเลยเหรอ? งั้นก็ต้องยิ่งไปเลย!"

เซียวเฉวียนหัวเราะ จากนั้นก็เข้าไปนั่งในรถม้าของเว่ยชิง ถึงแม้ว่าฉินหนานจะรังเกียจขนาดไหน เขาก็ยิ่งอยากเห็นหยางจูเกลียดเขามากแค่ไหน

ฉินหนานกระทืบเท้าไม่พอใจ ดึงฉินเป่ยขึ้นหลังม้าและตามไป

กลุ่มวัยรุ่นที่มีความสุขจากเมืองหลวง กำลังขี่ม้าเข้าสู่เมืองที่โรแมนติก

เสียงเกือกม้าที่ดังและแข็งแรง คนที่เดินอยู่ข้างๆ ก็หลีกทางให้เรื่อยๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าใครอยู่ในรถม้า แต่พวกเขาก็ก้มหัวทำความเคารพ เมื่อเห็นเศรษฐีกำลังเข้ามาเที่ยว เปรียบเสมือนว่าถนนเส้นทางนี้เป็นของพวกเขา

นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฉวียนนั่งอยู่ในรถและเห็นภาพแบบนี้ ความสุขของคนมีอำนาจมันเป็นแบบนี้เอง

ทุกคนก็เปรียบเหมือนกับนก แถมลูกหลานของคนรวยก็อยู่เหนือพวกเขา แค่เดินทางแค่นี้ก็สามารถทำให้ตัวเองเหนือกว่าพวกเขาได้

ข้างในรถม้า เว่ยชิงบอกว่า "หยางจูคนนี้ไม่ธรรมดา ที่เชิญมากินข้าว เผลอๆ อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายก็ได้"

เซียวเฉวียนหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

จูเหิ่งโดนจับ และถูกโดนให้ตัดคอ ครอบครัวของเขาจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร?

เซียวเฉวียนไม่กลัว ปีศาจพวกนี้ไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้

เขาขอแค่ว่าได้กินกันอย่างมีความสุข ส่วนที่เหลือ ไป่ฉีจะช่วยเขาจัดการเอง

เว่ยชิงชำเลืองมองไปที่ไป่ฉีที่นั่งเงียบๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้มานั่งที่รถม้าของเขา เขาเริ่มไอแห้งๆ "พี่เซียว เขาเป็นคนฆ่าหนุ่มหน้าตาดีนั้นเหรอ?"

“อืม ใช่” เซียวเฉวียนตบไหล่ของไป่ฉีอย่างชื่นชมพร้อมกับความภูมิใจ

เว่ยชิงรู้สึกกลัว และเงียบปากของเขา วันนั้น เขาเห็นหัวของเซินหยาง เป็นรอยแผลที่เรียบร้อยมาก ดูก็รู้ว่าไป่ฉีไม่ใช่คนธรรมดา แถมดาบก็ไม่ใช่แบบธรรมดา

มื้ออาหารในวันนี้ อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายจริงๆ ก็ว่าได้

ตึกหมิงเยว่ยเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งในเมืองหลวง เป็นร้านที่ดังมากๆ และภายในร้านตกแต่งได้สวยงาม อาหารรสเลิศนับไม่ถ้วน และไวน์ที่สามารถทำให้เมา

งานอดิเรกประจำวันของคนที่มีฐานะและมีอำนาจในเมืองหลวง ไม่มีทองคำสิบตำลึง อย่าหวังว่าจะได้เข้าร้าน

การใช้จ่ายแบบนี้ มันเกินความสามารถของคนทั่วไป เงินที่หามากี่สิบชาติก็ไม่พอที่จะมาใช้บริการที่นี่ ทำได้แค่มองดูอยู่ข้างนอก และจินตนาการได้ว่าอาหารชั้นยอดนั้นอร่อยขนาดไหน และความสวยงามภายในร้านนั้นอบอุ่นและสวยงาม

สมัยก่อน ใครก็ตามที่ชนะจากการสอบ ทางเมืองหลวงจะเชิญมาทานอาหารที่ตึกหมิงเยว่ย และจะสั่งอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านอาหาร

เซียวเฉวียนและคนอื่นๆ หาโต๊ะที่ใหญ่ที่สุด วันนี้หยางจูเป็นคนจ่าย พอมาถึงเขาก็สั่งอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่ทันทีที่เขามาถึง

มันน่าตลกจริงๆ ผลการสอบระดับมณฑลยังไม่ออกมาเลย หยางจูก็ชวนมาเลี้ยงอาหารกันแล้ว ดูเหมือนว่าความบ้านี้ไม่ได้เป็นแค่เซียวเฉวียนคนเดียว

เซียวเฉวียนเงยหน้าขึ้นมอง ที่นี่เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมดเก้าชั้น

ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดในการดูพระจันทร์ในเมืองหลวงแห่งนี้ มันจึงถูกตั้งชื่อว่าตึกหมิงเยว่ย

ตึกหมิงเยว่ยอยู่ห่างจากพระราชวังไม่ใกล้ไม่ไกล ว่ากันว่าตึกหมิงเยว่ยเป็นสมบัติของพระราชวัง เป็นที่ที่ไม่สามารถจับผิดได้ แต่มีความจริงอย่างหนึ่งคือวัตถุดิบของที่นี่เป็นของจริง

มีกลิ่นอาหารหอมอบอวลไปทั่วร้าน ภายในอาคารมีแต่ความครึกครื้น ผู้คนฐานะร่ำรวยจากเมืองหลวงชอบมารวมตัวกันที่นี่ ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม แต่พอมีเซียวเฉวียนมาด้วย เขากลับกลายเป็นคนที่แต่งตัวไม่ได้เรื่องที่สุด

พอเจ้าของร้านได้ยินว่ามีคนสั่งอาหารที่ขึ้นชื่อในร้าน เขาจึงต้องมาดูด้วยตาตัวเอง "โอ้โห้ ที่แท้ก็เป็นนายท่านนั้นเอง ยินดีต้อนรับครับ!"

"เอาอาหารทั้งหมดที่มีในร้านมาเสิร์ฟให้หมด วันนี้เซียวผู้เป็นหนึ่งของเรามาเป็นครั้งแรก ให้เขาได้เปิดหูเปิดตาหน่อย" หยางจูทำเหมือนตัวเองเป็นพี่ชายคนโตที่พูดอวดเซียวเฉวียน ดูเหมือนว่าพอเขายิ่งใจกว้างเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เซียวเฉวียนต่ำต้อยยิ่งขึ้น

เจ้าของร้านนิ่งพักหนึ่ง และมองไปทางเซียวเฉวียน

ชายผู้นี้มีความสง่างามมีดวงตาที่แปรงประกาย ไม่มีความเกรงกลัวใดๆ เสื้อผ้าของเขาดูไม่เหมาะกับคุณชายกลุ่มนี้ แต่พอดูดีๆแล้ว เขาก็คิดว่าไม่คู่ควร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย