ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 719

พลังอำนาจของขันทีจูเปี่ยมล้นเป็นอย่างมาก

เซียวเฉวียนและเสี่ยวเซียนชิวกลับมองเขาราวกับมองคนบ้า

เพราะว่าตราประทับเหวินอิ้นไร้การเคลื่อนไหวใด ๆ

“ฆ่าทิ้งเสีย!” ขันทีจูกัดฟันกรอดอย่างโหดเหี้ยมขึ้นอีกครั้ง

ตราประทับเหวินอิ้นกลับยังคงไม่ไว้หน้าเขา แน่นิ่งอยู่เช่นเดิม

การกระตุ้นตราประทับเหวินอิ้นจำเป็นต้องใช้เลือด ทว่าเงื่อนไขแรกคือ เจ้าของเลือดนี้ต้องมีเจตนาที่จะฆ่าบุคคลนี้ด้วย

ตราประทับเหวินอิ้นและเลือดนี้ คือสิ่งที่ไทเฮาชิงมาจากมั่วสี่ ความจริงแล้วเลือดนี้ต้องใช้เพื่อเซียวเฉวียน แต่ในตอนนี้ขันทีจูคิดจะใช้เลือดนี้สังหารเซียวเฉวียน ช่างน่าขันเสียจริง

เสี่ยวเซียนชิวเดินทีละก้าวขยับเข้าไปใกล้ ขันทีจูตกใจจนต้องกรูถอย “เจ้า ๆ ๆ! เจ้าคิดจะทำสิ่งใด!”

เสี่ยวเซียนชิวก้มหน้าลง และพูดข้างหูเขาเบา ๆ หลายประโยค ขันทีจูหน้าซีดเมื่อฟังจบ “อย่าเจ้าพูดเพ้อเจ้อ!”

“จุ๊ ๆ ท่านพ่อไม่ทำส่ิงใดนางหรอก เพราะนางเป็นเสด็จแม่ของฮ่องเต้ ท่านพ่อต้องไว้หน้าฮ่องเต้เสียหน่อย” ดวงตาที่เป็นประกายคู่นั้นของเสี่ยวเซียนชิว แฝงไปด้วยความรุนแรงและเด็ดขาด “แต่ข้าเซียวเซียนชิวไม่สนว่านางเป็นเสด็จแม่ของผู้ใด ข้ารู้เพียงว่า ใครทำสิ่งใดต่อท่านพ่อข้า ผู้นั้นจักต้องตาย”

ขันทีจูตกใจจนตัวสั่น เดิมคิดว่าเซียวเฉวียนอวดดีมากพอแล้ว ปรากฏว่าบุตรสาวบุญธรรมอวดดีกว่าเสียอีก

“ข้าไม่เพียงทำให้นางต้องตาย ข้ายังจะทำให้นางตายอย่างน่าอัปยศอดสู ตายให้คนอื่นต้องวิจารณ์ ก็เหมือนกับ...” เสี่ยวเซียนชิวกระพริบตา “ที่นางกระทำต่อเฉาสิงจือ”

“นางชอบสร้างข้อกล่าวหาให้ผู้อื่นมิใช่หรือ เรื่องเหล่านี้ที่นางทำ ข้าก็จะให้นางได้มีชื่อว่าเป็นโสเภณีอันดับหนึ่งไปตลอดกาล!”

ขันทีจูสั่นเทิ้มไปทั้งตัว “จ จะ เจ้าเด็กไร้เดียงสา ระ รู้ได้อย่างไรกัน?”

รู้สิ่งใด?

เซียวเฉวียนสงสัย ในตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงความคิดของเสี่ยวเซียนชิวและขันทีจู ราวกับว่าเสี่ยวเซียนชิวสามารถปิดกั้นไม่ให้เซียวเฉวียนอ่านความคิดในหัวได้

“เพียงแค่บุคคลธรรมดา กลับคิดว่าตัวเองใหญ่เทียมฟ้า” สายตาของเสี่ยวเซียนชิวเต็มไปด้วยความรังเกียจ นางย่อตัวลงและจ้องขันทีจูด้วยความน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด “กลับไปบอกเจ้านายของท่าน หากยังคิดจะทำสิ่งใดต่อท่านพ่อข้าอีก ข้าจะ...”

เสี่ยวเซียนชิวดีดนิ้ว ขันทีจูได้ยินเพียงเสียงที่ดังขึ้นข้างหู ภาพตรงหน้าก็มือสนิทในทันใด

ทว่า ความมืดเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น

จนกระทั่งเขากลับมามองเห็นอีกครั้ง เขาก็ได้กลับมายังพระราชวังเสียแล้ว

การปรากฏตัวอย่างกระทันหันของเขา ทำให้ไทเฮาที่กำลังแก้ไขฏีกาต้องตกใจ “เหอะ! เจ้ามาได้อย่างไร?”

“ทะ...ไทเฮา?” ใบหน้าของขันทีจูเต็มไปด้วยหยาดเลือด เสี่ยวเซียนชิวไม่ได้แตะเขาแม้เพียงปลายเล็บ กลับทำให้เขาตกใจจนขวัญหนีดีฟ่อ “คะ คือว่าเซียวเฉวียน”

“ขะ เขาไม่ใช่คน”

“อะไรไม่ใช่คน! จะไม่ใช่คนได้อย่างไร! เจ้าพูดให้ชัดสิ!” ไทเฮาเปลี่ยนสีหน้า “จู่ ๆ เจ้ากลับมาได้อย่างไร! เจ้าออกจากวังไปแล้วมิใช่หรือ!”

“ไทเฮา! เซียวเฉวียนเป็นปีศาจ! ปีศาจพะยะค่ะ!” ขันทีจูตะโกนอย่างยั้งสติไม่อยู่ เพราะนอกจากคำว่าปีศาจ ก็ไม่รู้จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดว่าอย่างไร!

ถนนประตูเมืองทางฝั่งทิศตะวันตกเส้นนั้นมายังพระราชวัง ระยะทางนับสิบลี้ เขากลับมาถึงที่นี่ในพริบตาเดียว!

เซียวเซียนชิวผู้นั้น ยิ่งเสียกว่าปีศาจเสียอีก!

นางคือจอมปีศาจ!

“เจ้าร้องไห้ไปไย!” ไทเฮาตบหน้าดังเพี๊ยะ จนขันทีจูตะลึงงัน “ตอนนี้ได้สติแล้วหรือยัง!”

“ไท…เฮา” ขันทีจูส่ายหน้า “หม่อมฉันไม่ได้พูดปด เหตุผลที่บอกว่าพวกเขาเป็นปีศาจ เพราะนางรู้ นางรู้...”

ขันทีจูก้มหน้า ไม่กล้าพูดมากแม้แต่คำเดียว ไทเฮาร้อนใจ “รู้กระไรกัน!”

ขันทีจูหวาดกลัวอย่างมาก “นางรู้เรื่องมั่วโลกีย์ของพระองค์และเว่ยเชียนชิว!”

แม้แต่เรื่องนี้นางก็รู้!

แม้แต่ความลับที่น่าตกใจนางก็รู้!

หากนางไม่ใช่ปีศาจ แล้วนางคือสิ่งใด!

ไทเฮาชาไปทั้งตัว ราวกับถูกไฟช็อตอย่างรุนแรง!

นางเบิกตากว้างด้วยความโมโห “เป็นไปได้อย่างไร!”

“เป็นไปได้อย่างไร!”

“เป็นไปได้อย่างไร!”

ไทเฮาตะโกนอย่างโกธรเกรี้ยว เห็นเพียงหน้าต่างที่แตกดังเพล้ง ลมหนาวโหมซัดเข้ามาเป็นระลอก และในทันใดนั้นท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีดำทะมึน

ด้านบนพระราชวังมีเมฆดำลอยอยู่ เหล่าข้าหลวงหญิงมองดูท้องฟ้าที่ราวกับน้ำหมึกสีดำเข้ม ต่างพากันอ้าปากค้าง เมฆดำพวกนี้มาได้อย่างไรกัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย