ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 74

ลุงเต๊าเช็ดเหล้ามุมปากออก ยกมีดเล่มใหญ่ซึ่งอยู่คู่กายเขามาแล้วสามสิบปี พาดอยู่บนไหล่แล้วเดินข้ามมาทีละก้าว "ไอ้ซากอ้วน เจ้าแน่ใจหรือว่าจะมาแย่งฉกคนของลุง? "

หยางจูผงะ ตะโกนว่า "คุณว่าอะไรนะ? กล้าดียังไงมาหยาบคายกับฉัน!"

ลุงเต๊าหน้าตาเหี้ยมเกรียม “ข้าพูดอะไรผิดละ เจ้าไม่อ้วนเหรอ”

"ฉัน......" หยางจูโกรธเกรี้ยวจนร่างอ้วนสั่นสะท้าน

"เจ้ามาแส่หาเรื่องถึงที่เอง เจ้าว่าเดี๋ยวเจ้าจะต้องถึงตายไหม"

ไม่มีทาง! ไม่มีทาง! ไม่เคยมีใครกล้ามาว่าเขาว่าอ้วนต่อหน้าต่อตา นับประสาอะไรกล้ามาขู่เขาอีก?

นิ้วทู่ๆ ของเขาชี้ไปที่ลุงเต๊า แล้วตะโกนว่า "แค่โจรเร่ร่อนขี้ประติ๋ว โอหังเกินไปแล้ว! ที่นี่อยู่แทบใต้พระบาทของแผ่นดิน เจ้ากล้าดียังไงจะมาทำอะไรฉัน"

"ถ้างั้น เรียกเจ้าไอ้ซากอ้วนนี้ผิดใช่ไหม" ลุงเต๊าบ่นกับตัวเอง ไม่สนใจว่าหยางจูพูดอะไร เขาใช้ลิ้นเลียริมฝีปาก ไอ้อ้วนนี้พูดมากจริงเว่ย

"ฮ่าฮ่า!" ที่ชั้นล่างเซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่หัวเราะออกมาดังๆ เว่ยชิงและพี่น้องตระกูลฉินไม่กล้าที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมาดังๆ กลั้นไว้ด้วยความอดทนอย่างแรง

✫wap.fengshug✪e✤✵.✥info

ลูกหลานตระกูลขุนนางผงะไปครู่หนึ่ง พวกเขาไม่ค่อยจะคบค้ากับพวกเร่ร่อนพเนจรเท่าไร พวกนักพเนจรในสมัยนี้บ้าบิ่นถึงขนาดนี้ไปแล้วหรือ?

นักพเนจรส่วนใหญ่ไม่บ้าบิ่นเท่าลุงเต๊าหรอก พวกเขาดวงตกจริงๆ วันนี้มาเจอลุงเต๊าเข้าเท่านั้น

ลุงเต๊ากวาดลิ้นในปากรอบหนึ่ง ถุยถั่วลิสงที่แตกกระจายออกจากปากใส่หน้าของหยางจู และพูดอย่างเฉยเมยว่า "เจ้าว่าเจ้าเป็นนายอะไรอะ มีชื่อว่าอะไรอะนะ"

หยางจูยืดหลังของเขาให้ตรง "ฉันเป็นลูกของหยางเล่อแห่งสำนักมนตรีพิธีการ ซึ่งเป็นหัวหน้าขุนนางผู้ใหญ่เก้าตำแหน่ง! ฉันมีชื่อว่า ...... "

”พูดมากจริงเว่ย!” ไม่ทันที่หยางจูจะพูดจบ ลุงเต๊าซึ่งมีความอดทนเพียงสามวินาทีก็ยื่นเท้าออกมากระทืบหยางจูล้มลงกับพื้นทันที “ถามชื่อเจ้า! ไม่ได้ถามเตี่ยเจ้านี่ !"

หยางจูผู้ถูกกระทืบล้มลงกับพื้น ร้องไห้พูดจนจบ "...หยางจู..."

"หยางจู? เลี้ยงหมู (คำว่าเลี้ยงหมูในภาษาจีน อ่านว่าหย่างจู)? ฮะ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!" ลุงเต๊าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ชื่อนี้เป็นชื่อที่ดี! นึกสภาพได้เลย!

"คุณ....." น้ำตาของหยางจูเกือบจะไหลออกมา เขาเคยทำตัวเป็นคนสูงศักดิ์ แต่ตอนนี้มีคนจะเรียกเขาว่าหมู?

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!" เซียวเฉวียนที่อยู่ชั้นหนึ่งหัวเราะจนแสบท้อง เว่ยพานที่อดกลั้นอยู่มาตลอดก็ทนไม่ไหว หัวเราะออกมาตามๆ กัน

เหล้าที่เซียวเฉวียนถืออยู่หกลงบนโต๊ะ ฉินหนานไม่อาจจะหัวเราะหรือร้องไห้ และอดทนอยู่อย่างแสนสาหัส "พี่เขย อย่าหัวเราะจะดีกว่า ถ้าหยางจูเกิดมีอะไรขึ้น พวกเราจะเดือดร้อนไปด้วย"

เซียวเฉวียนหัวเราะจนน้ำตาแทบจะทะลัก ใบหน้าของเขาดูแทบจะบิดเบี้ยวไปแล้ว "จริงหรือ ฮ่าฮ่า!"

ฉินหนานขมวดคิ้วเมื่อเขาถูกหยอกล้อ จนหัวเราะออกมา "ฮ่าฮ่า!"

หยางจู รู้สึกเจ็บปวดที่ไขสันหลัง เสียงหัวเราะเสียดหูของเซียวเฉวียนและคนอื่นๆ ทำให้หยางจูรู้สึกอับอายมากขึ้นไปอีก เขาโกรธมากจนเนื้อหนังบนใบหน้าสั่นสะท้าน "คนมานี่ เข้าไปเลยะ! ฆ่าคนบ้าคลั่งคนนี้ให้ตายซะ!"

”เฮ้ อยากฆ่าฉันเหรอ วันนี้ลุงจะสอนให้เจ้ารู้ว่าอะไรคือกฎกติกาของยุทธจักร!” ลุงเต๊าเอามือวางบนสะโพกหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง! เขาท่องในยุทธจักรมาหลายปีแล้ว ลุกหลานตระกูลร่ำรวยมีอำนาจต่างก็หลีกทางให้เขา เด็กๆ กลุ่มนี้กล้าหาญไม่น้อยเชียว!

ลูกหลานตระกูลขุนนางต่างชักดาบออกมาทีละคน ๆ ในเวลาเดียวกันผู้อารักขาของแต่ละบ้านก็ขึ้นประจำที่!

"โอ้โห! ลุงเต๊ากลัวๆ !" ลุงเต๊าเลียนแบบน้ำเสียงของนางหมิงเยว่ ยกดาบของเขาขึ้นเพื่อต่อสู้อย่างหน้าตาเฉย!

การต่อสู้ครั้งดุเดือดหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว!

ในที่สุดชั้นบนก็ตีรันฟันแทงขึ้นมาแล้ว!

กลิ่นอายอาฆาตเขย่าจนอากาศสั่นสะเทือน เปลวเทียนก็แกว่งไกวอย่างเมามัน

เจ้าของร้านที่นอนอยู่บนพื้นตะโกนใส่ยามของตึกหมิงเยว่ "ยืนเฉยอยู่ทำไร ยังไม่รีบไปห้ามอีก!"

ในตึกหมิงเยว่มียามรักษาระเบียบอยู่เพียง 5-6 คน จะห้ามการทะเลาะวิวาทเที่ยวนี้ คงได้แต่คิดไม่มีกำลังพอที่ไปทำได้หรอก

พวกเขาแสร้งทำเป็นอยู่รอบนอก ใช้มือทำท่าอย่างเครื่องกระจายเสียง ตะโกนอย่างไม่เอาจริง "หย่าตีกัน หย่าตีกัน"

ตะโกนเสร็จก็จบไป สถานการณ์มาถึงนี้แล้วห้ามยังไงละ ชีวิตของตัวเองสำคัญกว่า

เสียงการต่อสู้ที่ชั้นบนดังขึ้นเรื่อยๆ เซียวเฉวียนหยิบตะเกียบขึ้นมาและคีบผักที่ยังพอกินได้เข้าปาก ด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย

แขกคนอื่นๆ ในตึกหมิงเยว่ ตื่นตระหนก ต่างกระจัดกระจายเหมือนนกบินหนีตาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย