ของขวัญ?
คำถามนี้ทำให้เซียวเฉวียนสับสน
ไม่ต้องพูดถึงของขวัญ เขาไม่ได้นำอะไรมาเลย
เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ เขารีบเร่งเพื่อค้นหาอาวุธและมันเทศ เขาลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้ว
ฮ่องเต้ตัวน้อย ทำไมเขาไม่เตือนข้า!
เซียวเฉวียนลูบหน้าผากของเขา
คราวนี้ เขาเข้าใจฮ่องเต้ผิดจริงๆ
ก่อนที่จะออกเดินทาง องค์ฮ่องเต้ได้ถามเซียวเฉวียนมากกว่าสิบครั้งว่า “ราชครู เลือกบางสิ่งจากคลังเพื่อนำเสนอต่อฮ่องเต้แห่งซินเจียง”
เซียวเฉวียนขมวดคิ้วและยังคงนิ่งเงียบในเวลานั้น
ฮ่องเต้กล่าวต่อ “ท่านไม่เพียงแต่เป็นราชครูเท่านั้น แต่ยังเป็นลูกเขยของซินเจียงด้วย ท่านจะไปมือเปล่าไม่ได้ใช่ไหม?”
เซียวเฉวียนไม่ได้พูดอะไร
“ราชครู ข้าจะเลือกไข่มุกที่ดีที่สุด แล้วนำมาให้ท่าน?”
เสี่ยวเฉวียนดูเหมือนจะไม่ได้ยิน
“ราชครู ถ้าท่านไม่ชอบไข่มุก ข้าสามารถเลือกผ้าไหมที่ดีที่สุดและเพิ่มกล่องเครื่องประดับ ว่าอย่างไรบ้าง?”
เซียวเฉวียนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าในเวลานั้น จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดที่จะเดินทางไปยังซินเจียงโดยเร็วที่สุด เขาเพิกเฉยต่อคำพูดพล่ามของฮ่องเต้โดยสิ้นเชิง
เซียวเฉวียนเป็นอิสระมาโดยตลอด และองค์ฮ่องเต้คิดว่าเขาไม่ชอบสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงไม่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาอีก
บทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างน้อยสิบครั้ง และเซียวเฉวียนก็หมกมุ่นอยู่กับความคิด แม้ว่าเขาจะได้ยิน เขาก็รีบไล่ออกไป
เซียวเฉวียนเพิ่งสูญเสียแม่ไป และเขาไม่มีอารมณ์ที่จะทำให้ใครพอใจ
ตอนนี้เซียวเฉวียนได้ฟื้นคืนสติแล้ว ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าเขาเป็นลูกเขยของซินเจียง หากเขาไปมือเปล่า องค์หญิงจะไม่เสียหน้าหรือ?
เซียวเฉวียนไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองมากนัก เขาไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะมองเขาอย่างไร
แต่มันแตกต่างสำหรับองค์หญิง นางเป็นภรรยาที่ดีและเพิ่งคลอดบุตรสาว หากเซียวเฉวียนซึ่งไม่รู้มารยาทที่เหมาะสมไปมือเปล่า องค์หญิงก็จะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะในซินเจียง
เมื่อเห็นท่าทางครุ่นคิดและกังวลของเซียวเฉวียน ทหารก็รู้ว่าเขามามือเปล่าจริงๆ
“โอ้! คงเป็นเพราะใต้เท้าเซียวยุ่งเกินไป จึงลืมไป!”
“ใช่ ใช่ ใช่ ใช่!”
พวกทหารก็เอาตัวรอดเพื่อเผชิญหน้ากับเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนถอนหายใจและโทษตัวเองที่ลืมเรื่องมารยาทเหล่านี้
ชายแดนนั้นหนาวเย็นมาก และไม่น่าจะมีสมบัติใดๆเลย
เซียวเฉวียนรีบจากไป และไม่ได้นำสิ่งของมีค่าติดตัวมาด้วย
ทหารติดตามเซียวเฉวียนคิ้วขมวด พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ลูกชายของนายพลเซียวกลายเป็นที่น่าหัวเราะเยาะของหมู่ผู้คนในซินเจียงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้สมองอย่างหนักและคิดว่าจะเสนออะไรให้เป็นของขวัญได้บ้าง
แต่พวกเขาทั้งหมดมาจากครอบครัวธรรมดาๆ พวกเขาไม่สามารถมอบเนื้อแดดเดียวเป็นของขวัญให้กับฮ่องเต้แห่งซินเจียงได้ มันจะดูไม่ดีเลย
“ทำไมใต้เท้าเซียวลืมนำของขวัญมา?”
พวกทหารก็งง
“ข้าไม่ได้วางแผนที่จะพบกับราชาแห่งซินเจียง”
เซียวเฉวียนตอบ ทำให้ดวงตาของทหารเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “ห่ะ?”
พวกเขาอยู่ในซินเจียงแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่เข้าเฝ้าฮ่องเต้ การกระทำของเซียวเฉวียนค่อนข้างพิเศษ
“ใครจะรู้ว่าคนในซินเจียงจะกระตือรือร้นขนาดนี้” เซียวเฉวียนถอนหายใจ เดิมทีเขาตั้งใจจะพบกับองค์หญิงแล้วจึงมุ่งหน้าสู่ธุรกิจทันที เขาไม่มีเวลามากพอที่จะพูดคุยกับราชวงศ์ของซินเจียง
“อา...…”
ทหารถอนหายใจพร้อมกัน แสดงความประหลาดใจกับความกล้าหาญของเซียวเฉวียน
เมื่อสิ่งต่างๆมาถึงจุดนี้ พวกเขาสามารถคิดได้ว่าจะหาของขวัญดีๆได้ที่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...