ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 940

“แต่ข้าต้องการช่วยเจ้าเซียว รอเจ้าเซียวกลับมาจากซินเจียง ข้าจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของเขา”

เว่ยอวี๋พึมพำด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ: “แม้ว่าข้าจะไม่เก่งเท่ากับไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า แต่ไม่ใช่จะไม่เป็นสักอย่าง"

เว่ยอวี๋เป็นอ๋องที่เอ้อระเหยลอยชายมาโดยตลอด ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต คือการจับมือเล็กๆ ของหยางอวี้หวน กินอาหารอร่อย และเล่นสนุก

ระดับความเอ้อระเหยของเว่ยอวี๋นั้นสูงที่สุดในเมืองหลวง ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีตำแหน่งคนเกียจคร้านที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวง

ในเมืองหลวงนี้ คนที่มีเวลาว่างมากกว่าเว่ยอวี๋จะไม่รวยเท่าเว่ยอวี๋

เหล่าอ๋องและขุนนางที่ร่ำรวยกว่าเว่ยอวี๋ไม่ได้มีเวลาว่างมากเท่ากับเว่ยอวี๋

ในสายตาของทุกคน เว่ยอวี๋เชื่อฟังเพียงคนสองคน คนหนึ่งเป็นฮ่องเต้พระเชษฐาของเขา และอีกคนคือเซียวเฉวียน

ยิ่งไปกว่านั้นเว่ยอวี๋ยังฟังเซียวเฉวียนเป็นพิเศษ มีเพียงเซียวเฉวียนเท่านั้นที่สามารถทำให้เว่ยอวี๋ชายผู้เอ้อระเหยริเริ่มที่จะดูแลห้องหนังสือชิงหยวน

เว่ยอวี๋ไม่ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ และตอนนี้ จู่ๆ เขาก็บอกว่าเขาอยากจะเรียนศิลปะการต่อสู้ นี่ไม่เพียงแต่ทำให้อี้กุยประหลาดใจ แต่ยังรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้

“จริงๆ แล้ว ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องฝึกดาบเลย บ่อนพนันและโรงเหล้าของท่านปู่น้อยก็ต้องการคนช่วยงาน เช่นเดียวกับห้องหนังสือชิงหยวน สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังมากเกินไป เพียงแค่ต้องจัดการได้ดี อันที่จริงท่านอ๋องสามารถเลือก......"

เว่ยอวี๋ขัดจังหวะอี้กุย: "ไม่ เจ้าไม่เข้าใจ... นี่ช่วยเจ้าเซียวไม่ได้"

“หา? เหพราะเหตุใดล่ะ?" อี้กุยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่เห็นเว่ยอวี๋จริงจังมาก “ท่านอ๋อง ท่านอย่าทำให้ข้ากลัวสิ หรือท่านถูกคนจากภูเขาจงหนานทำให้หวาดกลัวจนโง่เขลาแล้วหรือไม่?”

“อี้กุย”เว่ยอวี๋ก้มศีรษะลง แล้วมองดูแสงสลัวบนพื้น: "ในสมัยโบราณ พละกำลังเป็นวิธีเดียวเท่านั้น โดยการฆ่าเท่านั้นจึงจะตั้งหลักได้"

"โรงเหล้าและบ่อนการพนันเหล่านั้นเป็นเพียงสมบัติภายนอก ตราบใดที่อนาคตแข็งแกร่งเจ้าก็จะมี โรงเหล้าและบ่อนการพนันมากเท่าที่เจ้าต้องการ แต่สมมติฐานก็คือ มันต้องมีอนาคตเช่นนี้แน่ๆ”

เว่ยอวี๋ได้ผ่านการกวาดล้างตระกูลเซียว จากนั้นเขาก็ได้ตระหนักถึงแก่นแท้ของการเอาชีวิตรอดในสมัยโบราณ — ความแข็งแกร่ง

สำหรับราชวงศ์ ไม่มีอะไรจะน่าปวดหัวไปกว่าความแข็งแกร่งและพลังทางการทหารที่แท้จริง

เซียวเฉวียนที่พยายามมาเป็นเวลานาน คือการเสริมกำลังทางทหารของเขาด้วย

ฮ่องเต้ไม่มีประสิทธิภาพและถูกเว่ยเชียนชิวและไทเฮาปราบปรามในก่อนหน้านี้ ซึ่งนำไปสู่การเสื่อมอำนาจของฮ่องเต้

แม้ว่าฮ่องเต้จะบริหารมาหลายปีแล้ว สามารถแข่งขันกับเว่ยเชียนชิวในราชสำนักได้ ในแง่ของความแข็งแกร่งทางทหาร มีเพียงกองทัพตระกูลฉินเท่านั้น ซึ่งยังตามหลังเว่เชียนชิวอยู่มาก

เว่ยอวี๋เข้าใจเซียวเฉวียน

เว่ยอวี๋อยากจะพยายาม ก็ไม่ผิด

อี้กุยถอนหายใจ: "เอาเถอะ เมื่อท่านตัดสินใจแล้ว เลือกดาบได้เลย"

เว่ยอวี๋พยักหน้าและเดินไปยังดาบนับร้อยที่แขวนอยู่ในศาลาคุนหวู่

อี้กุยคิดกับตัวเอง ด้วยความแข็งแกร่งของเว่ยอวี๋ถึงจะได้ดาบระดับต่ำสุด ก็ไม่เลวแล้ว

ที่สุดเว่ยอวี๋ไม่มีความรู้หรือทักษะ ดังนั้นจึง ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับดาบชั้นสองหรือสูงกว่า

ผลลัพธ์ที่แย่กว่านั้นคือเ ว่ยอวี๋ไม่สามารถเลือดดาบได้

อี้กุยคิดอยู่แล้วว่าจะปลอบใจเว่ยอวี๋ได้อย่างไร ตอนนี้เว่ยอวี๋มีความทะเยอทะยานอย่างมาก ถ้าเขาเลือกดาบไม่ได้ในทันที และเว่ยอวี๋อาจรู้สึกผิดหวังจนไม่สามารถออกจากประตูหรือแม้แต่ก้าวไปข้างหน้าได้ นั่นจะเป็นบาปใหญ่เลยนะ

หากต้องการให้อาวุธรับว่าเป็นเจ้าของ มันขึ้นอยู่กับโชคชะตา

อี้กุยไม่เคยคิดเลยว่า ภายใต้กฎนี้ มันจะใช้ไม่ได้กับเว่ยอวี๋

มือของเว่ยอวี๋ และดาบที่เขาสัมผัส ได้ตอบสนอง!

ตราบใดที่เป็นดาบที่มือของเขาได้สัมผัสเข้า

ต่างรับเจ้าของหมด!

อี้กุยตกใจมากจนนัยน์ตาของเขาสั่นไหว: "เถ้าแก่ ปิดประตูศาลาคุนหวู่! วันนี้ไม่รับลูกค้า!"

“ขอครับ คุณชาย!"

เว่ยอวี๋ขมวดคิ้วสับสน: “เป็นไรหรือ?”

อี้กุยตกใจมากจนพูดไม่ออก หยุดพูดกระทันหัน

มู่เวยชอบกินและดื่ม เซียวเฉวียนจึงซื้ออาหารที่ดีที่สุดในเมือง ดูหญิงสาวผู้นี้สิเอาแต่กิน

โรคขององค์หญิง มู่เวยสามารถรักษาได้ องค์หญิงอ่อนแอหลังคลอดบุตร บวกกับความเหนื่อยล้าในระยะยาว ซึ่งอยู่ในขอบเขตของการรักษาของมู่เวย

สิ่งนี้ทำให้เซียวเฉวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อย่างไรก็ตามมู่เวยต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลาครึ่งเดือนเพื่อดูแลองค์หญิงอย่างดี

เพื่อที่จะอยู่ได้อย่างสบายในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า มู่เวยจึงหยิบยกข้อกำหนดหลายประการ เช่น การมีห้องส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งเครื่องนอนและเตียงทั้งหมดจะต้องใหม่ เธอเป็นโรคกลัวสกปรก และไม่ใช้ของที่คนอื่นเคยใช้

มู่เวยยังอยากกินอาหารอร่อยๆ เธอต้องกินสี่มื้อต่อวัน มื้อเช้า กลางวัน เย็น พร้อมของว่างตอนเที่ยงคืน

และเธอต้องมีคนรับใช้ดูแล เธอมีสาวใช้คอบดูแลปรนนิบัติมาตั้งแต่เด็ก เธอทำอะไรไม่เป็นเลย นอกจากการรักษาโรค

ข้อกำหนดเหล่านี้ สำหรับเซียวเฉวียนมันไม่มากเกินไป เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยเงิน จึงเป็นเรื่องง่าย

ความตั้งใจเดิมของเซียวเฉวียนที่มาซินเจียงคือ การหาปืน และตอนนี้มู่เวยก็ติดตัวมาด้วย เซียวเฉวียนไม่ต้องค้นหามันโดยเฉพาะแล้ว และเขามีเวลาอยู่กับองค์หญิงด้วย

ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงส่งเสี่ยวเฟิงไปรับโย่วควน และคนอื่นๆ ก็เริ่มฝึกฝนในซินเจียง นำโดยฉินซูโหรวและหมิงเจ๋อ

เซียวเฉวียนไม่อยู่ และเดิมทีหมิงเจ๋อวางแผนที่จะหลบหนี แต่เขากลับไม่กล้า เพราะอาจื่อไม่ยอมไป ซึ่งทำให้หมิงเจ๋อโกรธมาก ยิ่งไปกว่านั้น ฉินซูได้รับคำสั่งให้เฝ้าดูหมิงเจ๋อ ดังนั้นหมิงเจ๋อจึงไม่กล้าเสี่ยง

หมิงเจ๋อไม่กลัวที่จะอยู่กับเซียวเฉวียน แต่สิ่งที่เขากลัวมากกว่าคือตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยและศักดิ์ศรีของราชทายาทจะสูญเสียไป

ดังนั้น แม้ว่าเซียวเฉวียนจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แต่หมิงเจ๋อก็ไม่กล้าวิ่งหนี ฉินซูจ้องมองเขาต่อไป ดังนั้นหมิงเจ๋อจึงถือว่าให้ความร่วมมือ

และที่นี่ เซียวเฉวียนจ้องมองไปที่ปืนของมู่เวยอย่างครุ่นคิด

มู่เวยกำลังรับประทานอาหาร ส่วนเซียวเฉวียนอยู่ที่โต๊ะอื่น

โรคกลัวความสกปรกของมู่เวย เธอถึงขั้นไม่อยากกินข้าวร่วมกับคนอื่น เพราะตะเกียบจะมีน้ำลายของคนอื่น

เซียวเฉวียนกินข้าวคนเดียว และกินอย่างสบายใจ เมื่อเขากำลังจะดื่มเหล้าหนึ่งกา ทันใดนั้นก็มีเสียงหึ่งรุนแรงดังขึ้นในหัวของเขา: "วิ้ง..."

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย