ในตอนที่หนานอิงกำลังชงชาโดยมีอาโจวคอยช่วยเหลืออยู่นั้นขันทีก็รีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามารายงาน
“ทูลหนานเฟย ฝ่าบาททรงว่าราชการเสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หนานอิงยิ้มแล้วกล่าวว่า
“ดียิ่ง ว่าแต่ว่าเหตุใดเจ้าจึงดูร้อนรนยิ่งนัก”
“ทูลพระหนานเฟย ท่านอาจารย์ให้กระหม่อมมาทูลว่ามีคนถวายฎีการ้องเรียนเกี่ยวกับองค์ชายทั้งสองที่ทรงแกล้งบุตรชายของท่านราชครูขอรับ แต่ฝ่าบาทเอาแต่เข้าข้างองค์ชายจึงอยากให้หนานเฟยช่วยทูลฝ่าบาทเรื่องนี้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
หนานอิงหุบยิ้มโดยทันใด บุตรชายของนางทั้งสองบัดนี้กลายเป็นองค์ชายใหญ่ลู่หานและองค์ชายรองลู่โหยวที่มีพระอาจารย์อ้ายเจิงเป็นคนลงมือสั่งสอนกับมือ เหตุใดจึงได้ไปกลั่นแกล้งบุตรชายของท่านราชครูซึ่งเป็นสหายเรียนด้วยกันได้
อันที่จริงก็พี่น้องกันทั้งนั้น ด้วยบุตรชายของท่านราชครูก็คือหลานของนางเอง ด้วยภายหลังมานี้พี่สาวฝาแฝดของหนานอิงนั้นด้วยความรักตัวกลัวตายหลังจากสกุลหนานล่มสลาย นางทั้งสองก็รีบดีดตัวออกจากสกุลหนานโดยไม่คิดข้องเกี่ยวอีก
กระทั่งการที่ฮูหยินใหญ่มารดาของพวกนางถูกหนานอิงจัดการพี่สาวทั้งสองก็ยังได้แต่เอ่ยคำว่าอมิตาพุทธไม่คิดแค้นก่อกรรมทำเข็ญต่อไปอีก
เพราะพวกนางต่างเชื่อในคำของซินแสจอมปลอมที่หนานอิงเป็นผู้วางแผนเอาไว้นั่นเอง
ทันใดนั้นหนานอิงก็ได้ยินเสียงรับเสด็จดังมาจากด้านนอก นางรู้ว่าลู่หนิงหวังกลับมาแล้วจึงสั่งให้อาโจวและนางกำนัลที่ฝีมือดีอีกสองคนช่วยกันเตรียมชาให้เรียบร้อย
กระทั่งลู่หนิงหวังเดินเข้ามาพร้อมด้วยหานเซียว คนทั้งหมดจึงทำความเคารพอย่างนอบน้อม ลู่หนิงหวังโบกมือไล่คนให้ออกไป จึงมีเพียงอาโจวที่อยู่ข้างกายคอยช่วยเหลือหนานอิงปรนนิบัติพวกเขา
หานเซียวนั่งลงแล้วดึงมือของหนานอิงไปจุมพิตเบา ๆ ในขณะที่ลู่หนิงหวังรับถ้วยชาจากอาโจวแล้วไม่เอ่ยคำใด
“ฝ่าบาทหม่อมฉันได้ข่าวว่ามีฏีการ้องเรียนว่าองค์ชายทั้งสองทำร้ายหลานชายหรือเพคะ”
ลู่หนิงหวังกลับยิ้มเย็น
“แล้วอย่างไร ลูกของข้าใช่ว่าผู้ใดจะร้องก็ร้องได้หรือ พวกนั้นกล้าหาญมากไปแล้วตัดหัวเสียให้หมดดีหรือไม่ และคนแรกที่ข้าจะตัดหัวก็คือคนที่คาบข่าวมาฟ้องเจ้า”
หนานอิงรู้ว่าเขาเพียงขู่เท่านั้น นางไม่เคยก้าวก่ายราชกิจแต่ถ้าหากเป็นเรื่องขององค์ชายทั้งสอง ในฐานะแม่ที่เลี้ยงดูลูกด้วยตนเองนางจึงมีสิทธิ์เสียงเต็มที่
“ฝ่าบาทเราตกลงกันแล้วว่าท่านจะไม่ให้ท้ายพวกเขามิใช่หรือเพคะ ท่านอ๋องด้วยเหตุใดจึงไม่ไต่สวนให้ยุติธรรม”
หานเซียวเอ่ยเบา ๆ
“อิงอิงของข้าทำงานหนักมากไปแล้ว เรื่องหยุมหยิมเจ้าอย่าใส่ใจเลย สู้เอาเวลามาปรนนิบัติข้าจะดีกว่าหรือไม่”
หนานอิงรินน้ำชาแล้วยกให้หานเซียว
“ท่านอ๋องที่ข้าทำอยู่ทุกวันนี้ยังไม่พออีกหรือ หรือพวกท่านคิดตำหนิ”
น้ำเสียงของนางเยียบเย็นเล็กน้อย หานเซียวยิ้มเอาใจ ลู่หนิงหวังกลับไม่เอ่ยคำใด
“มิกล้า มิกล้า เจ้าเพียงคนเดียวก็พอแล้ว เอาใจข้าหน่อยได้หรือไม่เรื่องเด็ก ๆ ก็ปล่อยไปเถิด”
น้ำเสียงของหานเซียวดูโรยแรงเล็กน้อย หลังจากเขาฟื้นขึ้นมายังมีอาการพิษเย็นหลงเหลือ ลู่หนิงหวังไม่อนุญาตให้เขาใช้กำลังภายในอีก หานเซียวจึงหันมาช่วยงานปกครองขุนนาง ดำรงตำแหน่งเป็นชินอ๋องและผู้สำเร็จราชการ
ลู่หนิงหวังไม่ถนัดเรื่องการเจรจา คนที่ออกว่าราชการส่วนใหญ่จึงกลายเป็นหานเซียวโดยมีอ้ายเจิงคอยให้ความช่วยเหลือ
หนานอิงเห็นท่าทางของเขาเหนื่อยล้ากระทั่งมือยังไม่อยากจะยกขึ้นคล้ายมันหนักอึ้ง จึงป้อนขนมเขาด้วยตนเอง ทั้งยังยกถ้วยน้ำชาป้อนเขา
หานเซียวได้รับการปรนนิบัติใบหน้าพลันสดใส เขาเอนกายแล้วนอนหนุนตักของนาง ทั้งยังจับมือข้างหนึ่งของหนานอิงเอาไว้แนบมือนุ่มนุ่มกับแก้มเย็นของตนเอง ทั้งยังพูดเบา ๆ
“มือของเมียข้าอบอุ่นนุ่มนิ่มเป็นอย่างยิ่ง ข้าชอบที่สุดแล้ว”
หนานอิงเห็นท่าทางเกียจคร้านเช่นนี้ย่อมหมายถึงหานเซียวอยากจะพักและไม่ต้องการสนทนาเรื่องหนักหนากับนางต่อแน่แล้ว หนานอิงจึงหันไปเอาความกับลู่หนิงหวังแทน
“ฝ่าบาท หนานอิงขอร้องท่านแล้วก่อนที่องค์ชายจะเสียคน”
ลุ่หนิงหวังกลับตัดบท
“อิงอิงอย่าสนใจเลยเรื่องของเด็กที่เล่นกัน ผู้ใดอ่อนแอก็ต้องเสียเปรียบ ท่านราชครูก็ไม่เข้าเรื่องบุตรชายของตนเองสู้ไม่ได้ก็ถวายฏีการ้องเรียน ข้าเองก็คิดว่าคนผู้นี้เจ้าคิดเจ้าแค้นยิ่งนัก แพ้แล้วพาล ทั้งเรื่องเจ้าทั้งเรื่องลูก”
หนานอิงกลับคิดว่าคนพาลคือบุรุษสองคนนี้ต่างหาก กระทั่งยังเคยคิดย้ายราชครูไปยังชายแดนให้พ้นหูพ้นตา โชคดีที่อ้ายเจิงคัดค้าน ไม่เช่นนั้นคงเสียคนมีฝีมือดีมือสะอาดไปอีกคนเป็นแน่ โชคดีที่พวกเขายังเห็นแก่บ้านเมืองไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปะปน แต่กระนั้นลับหลังกลับเหมือนคู่แค้นที่เมื่อได้โอกาสเอาคืนต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีผู้ใดยอมใคร
ดูคล้ายกลุ่มเด็กอัธพาลที่ไม่รู้จักโต
“ข้าจะเรียกองค์ชายมาสอบถาม”
ลุ่หนิงหวังก็มิได้ขัด
“ตามใจเจ้า”
หนานอิงยังอดบ่นต่อไม่ได้
“ฝ่าบาทอย่าทรงตามใจองค์ชายมากสิเพคะ จะเสียคนเอาได้”
ลู่หนิงหวังดื่มชาจนหมดถ้วยเพราะมือข้างหนึ่งของหนานอิงถูกหานเซียวจับไม่ปล่อยเขาเองก็ไม่ชอบให้ผู้ใดปรนนิบัตินอกจากหนานอิงจึงรินชาด้วยตนเองแล้วยกดื่มช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ข้าตามใจบางเรื่องเจ้ามิใช่เสียทุกเรื่องไม่ต้องห่วง ลูกของข้าข้าย่อมเลี้ยงเขาได้ดี”
“ให้จริงเถิดเพคะ”
กระทั่งหานเซียวเอ่ยเบา ๆ ทั้งที่ยังหลับตาและนอนหนุนตักของหนานอิงอยู่
“หากจะตำหนิว่าผู้ใดตามใจพวกเขา เจ้าควรตำหนิพระอาจารย์อ้ายเจิงมากกว่าพวกข้า รายนั้นไม่รู้เป็นพระอาจารย์อย่างไร ทำสิ่งใดไม่ได้ก็ให้คนวิ่งมาฟ้องเจ้า”
หนานอิงไม่เห็นด้วย
“พี่ใหญ่หรือเพคะ หนานอิงคิดว่าถึงเขาจะตามใจองค์ชายเขาก็ย่อมก็รู้สิ่งใดควรสอนสิ่งใดควรห้ามปราม พวกท่านอย่าใส่ความเขาจะได้หรือไม่”
บัดนี้อ้ายเจิงกลายเป็นพี่ใหญ่ของหนานอิงไปแล้ว หลังจากที่เขาสามารถติดตามนางจนพบและบังคับให้นางสาบานเป็นพี่น้องกับตัวเองเพื่อผูกติดไม่ให้นางหนีไปที่ใดอีก
หานเซียวทำเสียงขึ้นจมูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...