ค่ำคืนนี้ดอกหญ้านอนหลับไม่สงบนัก เธอเอาแต่ฝันและเมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกหดหู่ใจขึ้นมา
เธอแขวนเสื้อผ้าที่เธอใช้เครื่องซักผ้าซักเมื่อคืนเอาไว้ที่ระเบียงตามปกติ
ตอนนั้นเองถึงได้พบว่าที่ระเบียงมีการติดตั้งราวเหล็กสเตนเลสยาวเอาไว้ใช้สำหรับตากผ้าอยู่แล้ว นอกจากนี้ระเบียงขนาดใหญ่ยัง ถูกวางเต็มไปด้วยกระถางดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ซึ่งหลายดอกกำลังบานหรือไม่ก็กำลังออกดอกตูม ใช่ ไม่ว่าดอกไม้จะมีขนาดเล็กใหญ่เท่าใดก็ตาม กลีบดอกก็ล้วยเป็นดอกซ้อนทั้งหมด
ความสนใจของดอกหญ้าตกไปอยู่ที่กระถางดอกไม้เหล่านี้ภายในทันที
หลังจากที่เธอตากเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจึงประกอบชั้นวางดอกไม้ที่เธอซื้อเอาไว้เมื่อเช้าวานนี้ เมื่อประกอบเสร็จเรียบร้อยจากนั้นจึงย้ายกระถางดอกไม้ไปที่ชั้นวาง
หลังจากที่สับสนอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองมาที่เธอ เธอเงยหน้าขึ้นทันที และจึงสบกับดวงตาสีดำเข้มคู่นั้นของสีคราม สายตาของเขาเฉียบคมและเย็นชา
ดีร้ายอย่างไรก็เป็นเวลาสองสามวันแล้วที่พวกเขาแต่งงานกัน ดอกหญ้าคุ้นชินกับท่าทีที่เย็นชาของเขาแล้ว
“คุณสีคราม อรุณสวัสดิ์”
ดอกหญ้ากล่าวทักทาย และเอ่ยชมเขา “คุณสีคราม ดอกไม้พวกนี้ไม่เลวเลย คุณจัดการได้ดีมากจริงๆ !”
เรื่องที่ส่งให้เขาจัดการ เขาสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งนั้น
สีครามกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “ทีหลังเรื่องที่เธอไม่สามารถแก้ไขได้ เธอก็บอกฉัน”
เรื่องที่เธอมอบหมายให้เขาทำ สำหรับเขาแล้วมันล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
“ได้เลย”
ดอกหญ้ายิ้มแล้วจัดวางดอกไม้เหล่านี้ต่อ
“คุณไปซื้อที่ร้านดอกไม้ไหน ดอกไม้พวกนี้กำลังเติบโตดีมากเลย”
สีครามโกหกว่า “ผมไปที่ร้านดอกไม้อยู่หลายที่ เลยจำชื่อร้านดอกไม้เหล่านั้นไม่ได้”
ดอกหญ้าส่งเสียงอืมตอบรับ ไม่ได้ถามเอาคำตอบอะไรอีก ตราบใดที่สิ่งที่เขาทำนั้นทำให้เธอพอใจก็พอ
“วันนี้คุณซื้ออะไรเป็นอาหารเช้า?”
หลังจากที่เขาเอ่ยถาม ดอกหญ้าจึงนึกถึงเรื่องอาหารเช้าขึ้นมาได้ เธอรีบหยิบมือถือออกมาดูเวลา เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าๆ แล้ว เธอลุกขึ้นและพูดอย่างรู้สึกผิด “คุณสีคราม เช้านี้ฉันลืมซื้ออาหารน่ะ แต่โชคดีที่ไปซื้อกลับมาตอนนี้ยังทัน คุณไปล้างหน้าล้างตาก่อน ฉันจะลงไปซื้อข้างล่าง คุณจะทานอะไร?”
สีครามกล่าวเสียงเรียบ “ผมทานอะไรก็ได้ คุณก็ซื้อมาเถอะ”
ต่อให้เขาเลือกกินอย่างไร แต่เขาก็ไม่สามารถเลือกกินกับเธอที่นี่ได้ มิฉะนั้นความอาจจะแตกได้ เพราะอาหารที่เขาชอบนั้นล้วนเป็นของที่มีราคาแพงเกินไป
“โอเค”
ดอกหญ้ารีบลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว เธอขี่รถจักรยานไฟฟ้าออกไปซื้ออาหารเช้า ไม่นานก็ซื้อกลับมาเรียบร้อย
เธอซื้อเกี๊ยวนึ่งมา 2 เข่ง ปาท่องโก๋ 2 แท่ง และน้ำเต้าหู้ 2 แก้ว
สีครามมองดูอาหารเช้าที่เธอซื้อกลับมาอยู่นานกว่าจะเอ่ยปากออกมา
ดอกหญ้าไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ เธอนำอาหารเช้าไปวางบนโต๊ะอาหาร แล้วทานอาหารส่วนของตนเองตัวเองจนหมดอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็กลับไปที่ระเบียงเพื่อจัดวางดอกไม้และต้นไม้ของเธอ
หลังจากเงียบไปนาน สีครามจึงเอื้อมมือออกไปหยิบปาท่องโก๋ทั้งนั้นออกมา เขาลองกัดหยั่งเชิงเข้าไปหนึ่งคำ กลิ่นของน้ำมันแรงมาก แต่ค่อนข้างหอมทีเดียว ไม่รู้ว่าน้ำมันที่ใช้ทอดปาท่องโก๋นี้ใช้มาแล้วกี่ครั้ง ถูกสุขลักษณะหรือไม่?
ช่างเถอะ นานๆ กินที กินไปเขาก็ไม่ตายหรอก
ขนาดนั้นเอง สีครามค่อนข้างเสียใจที่เขาปกปิดตัวตนในฐานะคุณสีครามจากตระกูลจีรศักดีแห่งจังหวัดนรารี และพยายามอย่างมากเพื่อสร้างภาพลักษณ์คนใช้แรงงานธรรมดาๆ มันยากมากจริงๆ !
“ไม่ต้องเกรงใจ”
เห็นท่าทีผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกของเธอ สีครามรู้สึกมีความสุขขึ้นมา
“กริ่งกริ่งกริ่ง……”
เสียงโทรศัพท์มือถือของดอกหญ้าดังขึ้น
เธอรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมาและกดรับสาย มันเป็นสายของพี่สาวเธอ
“พี่ ฉันกำลังจะโทรหาพี่อยู่พอดีเลย เมื่อคืนนี้ฉันเล่าเรื่องของพี่ให้สามีฉันฟัง บังเอิญว่าเจ้าของรถเป็นลูกค้าท่านหนึ่งของบริษัทสีคราม สีครามช่วยสอบถามให้เราแล้ว ค่าบำรุงซ่อมแซมราคา10,000 พี่พอจะจ่ายได้ไหม?”
ดอกหญ้าเองยังนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะเรื่องพี่สาวของเธอ นับประสาอะไรกับน้ำทิพย์
ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เธอยังทำงานและมีรายได้สูง ก็คงไม่ห่วงเรื่องค่าชดเชยหรอก แต่ตอนนี้เธอเป็นเพียงแม่บ้านเท่านั้น ไม่มีแหล่งรายได้ สามีก็ยังตำหนิเธอว่าตัวก่อเรื่องและบอกเธอว่าจะไม่ช่วยเธอออกเงินเหล่านั้นอย่างไม่สบอารมณ์ เธอกังวลมากกว่าน้องสาวของเธอเสียอีก
“หมื่นกว่าพี่หามาจ่ายได้ ปกติเงินที่เธอให้พี่สำหรับใช้จ่าย เธอให้พี่เก็บเอาไว้ครึ่งหนึ่งโดยที่ไม่บอกพี่เขยของเธอ มันก็พอจ่ายชดเชยค่าซ่อมแล้วล่ะ”
“โอ่ พี่โทรหาเธอเพื่อคุยเรื่องนี้ด้วย เมื่อเช้าเจ้าของรถส่งข้อความมาหาพี่ตอนตีสอง เขาส่งเลขบัญชีมาแล้วให้พี่โอนเงิน 9,000 เข้าบัญชีนั้น พอพี่ตื่นมาก็รีบโทรมาบอกเธอเลย เธอจะได้ไม่เป็นกังวล”
“ตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณสุดเขตต์จะไม่ได้ให้พี่จ่ายเต็มราคา”
ค่าบำรุงซ่อมแซมกว่า 10,000 เขาให้เธอจ่ายเพียง 9,000 ส่วนที่เหลือไม่ต้องจ่าย อาจเป็นเพราะเห็นแก่น้องเขยที่เธอไม่เคยพบหน้าก็เป็นได้
ความประทับใจของน้ำทิพย์ที่มีต่อสีครามน้องเขยคนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว
เมื่อเธอเกิดปัญหา สามีของตนเอาแต่ด่าว่าเธอเป็นตัวก่อเรื่อง และยังบอกด้วยว่ามันเป็นเรื่องของเธอ พวกเขาสองสามีภรรยาแยกกระเป๋าเงินกันใช้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะช่วยเธอจ่ายเงิน ทั้งยังปล่อยให้เธอคิดหาทางออกด้วยตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดอกหญ้าสีคราม