ดอกหญ้าสีคราม นิยาย บท 22

แต่น้องเขยกลับช่วยเธอสอบถาม คงจะขอร้องคุณสุดเขตต์ด้วย คุณสุดเขตต์ถึงได้รับเงินของเธอในจำนวนที่น้อยลง

ในตอนนี้แน่นอนว่าเงิน 9,000 ยังคงเป็นเงินจำนวนมากสำหรับเธออยู่ดี ดังนั้นก็ถือเสียว่าเป็นค่าบทเรียน ทีหลังจะได้ระมัดระวังในการใช้ท้องถนน ว่ารถหรูเป็นรอยไม่ได้เด็ดขาด!

“น้องเขยใกล้จะกลับมาแล้วใช่ไหม?”

“อืม พรุ่งนี้ก็กลับมาแล้ว”

“อย่างนั้นก็ดีเลย วันมะรืนพี่กับพี่เขยเธอจะไปที่นั่นแต่เช้า เธอจะทำอาหารเองใช่ไหม?พี่จะได้ไปช่วยเธอ”

น้ำทิพย์ที่ประคับประคองชีวิตกับน้องสาวของเธอด้วยกันมา เธอเป็นคนมีความสามารถทำได้ทุกอย่าง เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอมีลูกเล็กๆ ที่รั้งเธอเอาไว้ แหล่งรายได้ของเธอก็ถูกตัดออกไป เธอจึงจำต้องถูกสามีกดขี่ให้เธออยู่บ้านเป็นแม่บ้าน

สองคนพี่น้องพูดคุยเรื่องสัพเพเหระในโทรศัพท์กันได้สักพักก็วางสาย

“คุณสีคราม ตอนเย็นคุณต้องทำงานล่วงเวลาทุกวันเลยเหรอ?”

“มีธุระอะไรหรือเปล่า?”

“เดี๋ยวนี้ก็จะถึงวันเสาร์แล้ว คุณย่าและพ่อแม่ของคุณจะมาทานอาหารด้วย ในบ้านของเราดูโล่งๆ เกินไป ฉันคิดว่าสองวันนี้พวกเราหาเวลาไปดูเฟอร์นิเจอร์และซื้อทุกอย่างที่จำเป็นมากันสักหน่อยดีกว่า”

สีครามนิ่งเงียบ

งานของเขายุ่งมากๆ ตารางการใช้ชีวิตทุกวันก็เต็มแน่นไปหมด เป็นเรื่องยากมากที่จะหาเวลาไปซื้อเฟอร์นิเจอร์กับเธอ

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมพูด ดอกหญ้าก็กล่าวออกมาด้วยความเข้าอกเข้าใจ “ถ้าคุณไม่มีเวลา ฉันไปซื้อเองคนเดียวก็ได้”

สีครามส่งเสียงอืมตอบรับ “บ้านนี้คุณเป็นช้างเท้าหน้า ธุระภายในบ้าน คุณตัดสินใจเองได้เลย ถ้าเป็นเรื่องใหญ่คุณค่อยมาบอกกับผมก็ได้”

เขาไม่มีเวลามากขนาดนั้นที่จะมาดูแลเรื่องยิบย่อยภายในบ้าน

“อย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันไปบอกแก้วตาสักหน่อย วันนี้คงไม่ได้กลับไปที่ร้านแล้ว จะไปซื้อของหน่อย”

ครอบครัวของพวกเขานี้จะต้องยืนหยัดขึ้น

สีครามไม่ได้กล่าวอะไร

เขาหันหลังเดินกลับไปห้องของตนเอง

ผ่านไปไม่นาน เขาก็ออกจากห้องแล้วกล่าวกับดอกหญ้า “ผมไปทำงานแล้วนะ”

“ขับรถระวังหน่อยนะคุณ”

ดอกหญ้าเอ่ยกำชับเขาไปเองตามความเคยปาก

สีครามถือเกี๊ยวนึ่งและน้ำเต้าหู้ที่ยังไม่ได้เปิดออกเอาไว้และจากไป

เขาขับรถยนต์คันนั้นที่เขาซื้อมาเพื่อแสร้งทำเป็นยากจนตบตาดอกหญ้าออกไปจากกุสดีศิลป์

หลังจากออกมาจากบริเวณชุมชนแล้ว เขาก็เห็นรถโรลส์-รอยซ์ของตนเองและรถบอดี้การ์ดจอดอยู่ริมทางจึงจอดรถเทียบข้างถนน

“คุณสีคราม”

เหล่าบอดี้การ์ดรีบลงจากรถด้วยความรวดเร็ว

พวกเขาเดินล้อมรถโรลส์-รอยซ์คันนั้นเอาไว้แล้วเปิดประตูให้เขา

บอดี้การ์ดนายหนึ่งเอ่ยถามด้วยความเคารพ “คุณสีคราม คุณต้องการให้ผมเอาไปทิ้งให้ไหมครับ?”

สิ่งที่เขาหมายถึงก็คืออาหารเช้าที่สีครามถืออยู่ในมือ

สีครามส่งเกี๊ยวนึ่งที่ยังไม่ได้กินให้กับบอดี้การ์ดนายนั้นทันทีโดยที่ไม่ได้กล่าวอะไร นั่นก็คือให้เหล่าบอดี้การ์ดจัดการ

ประตูรถถูกปิดลง รถยนต์ออกตัวอย่างเร็วไว จากนั้นก็เข้าสู่การจราจรอย่างรวดเร็ว

ดอกหญ้าใช้เวลาทั้งวันวิ่งไปวิ่งมา และในที่สุดเธอก็ซื้อของทุกอย่างที่จำเป็นและขาดไปในบ้านได้ครบถ้วน

เครื่องใช้ในครัวที่เธอสั่งซื้อทางออนไลน์ก็ทยอยส่งมาถึงทีละชิ้นๆ เช่นกัน

คืนวันนั้น สีครามกลับมาดึกมาก เมื่อเขากลับมา ดอกหญ้าก็เฝ้าพระอินทร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาเองก็ไม่ได้ไปรบกวนเธอ หลังจากเดินไปดูรอบ ๆ และเห็นบ้านที่ดอกหญ้าตกแต่งแล้ว ก็รู้สึกขึ้นมาในใจว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างใช้ได้ทีเดียว

บางที เธออาจจะไม่ใช่หญิงเจ้าเล่ห์ ที่แต่งงานกับเขา ถ้าเธอไม่ต้องการอะไรอย่างอื่น ก็อาจจะแค่ต้องการหาที่พึ่งพิงก็ได้

เธอเองก็อาศัยอยู่ในบ้านพี่สาวของเธอมาตลอด คงรู้สึกเหมือนต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น

และสีครามยังไม่เชื่อว่าดอกหญ้าเป็นผู้หญิงที่ดี หลังจากที่คบหากันเพียงไม่กี่วันแน่นอน เขายังคงต้องคอยสังเกตต่อไป ดังคำกล่าวที่ว่าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ต้องอยู่ด้วยกันในชีวิตประจำวันฉันสามีภรรยา ถึงจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอได้อย่างแจ่มแจ้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดอกหญ้าสีคราม