เข็มนาฬิกาโบราณขนาดใหญ่ที่ประดับผนังสีขาวบริสุทธิ์ชี้บอกเวลาสิบโมงพอดี ประตูกระจกอันวิจิตรงดงามเปิดออกราวกับทำตามหน้าที่ พนักงานแยกย้ายกันไปประจำตำแหน่งก่อนที่แขกคนแรกซึ่งสวมชุดผ้าไหมชั้นดีและทักซิโดราคาแพงจะมาถึง
ฉันยืนอยู่ที่ประตู เอ่ยทักทายอรุณสวัสดิ์หนุ่มสาวคู่หนึ่ง ทั้งสองคนมองฉัน
โดยปกติแขกที่มีฐานะมักจะดูถูกพนักงานเสิร์ฟ แต่ทั้งคู่กลับหันมายิ้มแล้วทักทายตอบฉันอย่างร่าเริง
'เพชรน้ำงาม' ฉันคิดกับตัวเอง นั่นคือวิธีที่ฉันแยกประเภทแขกที่มีมารยาทอย่างพวกเขา เพราะพวกเขาหาได้ยากและมีค่า ฉันเคารพแขกประเภทนี้เป็นที่สุด
“ไม่ทราบว่าได้จองไว้หรือเปล่าคะ” ฉันถามอย่างสุภาพ
“ค่ะ เราจองไว้แล้ว” ผู้หญิงคนนั้นตอบพลางสำรวจฉันด้วยดวงตาสีเหลืองอำพันอย่างตั้งใจ
ฉันเอามือลูบหน้าตัวเองด้วยความสงสัยว่ามีอะไรติดหน้าหรือเปล่า แขกมักจะจ้องมองฉันอยู่นาน แต่ผู้หญิงคนนี้จ้องนานเกินไปหน่อย เธอแปลกใจที่ดวงตาของฉันแปลกหรือเปล่า
ฉันกระแอมแล้วถามนามสกุลพวกเขา
“เบลซครับ” ชายหนุ่มตอบ เขาก็มีสีหน้าพิศวงเช่นเดียวกับฝ่ายหญิง
เมื่อตรวจสอบบันทึกในมือ ฉันก็พบชื่อของพวกเขา "คุณและคุณนายเบลซ กรุณาตามดิฉันมาค่ะ” ฉันพาคู่หนุ่มสาวไปที่โต๊ะริมหน้าต่างสูงจากพื้นจดเพดานที่มองเห็นวิวสวนกุหลาบอันงดงามด้านนอกได้ชัดเจน
ชายหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาว ฉันอดอิจฉานิด ๆ ไม่ได้ขณะมองพวกเขาแลกเปลี่ยนสายตาอันหวานชื่น สำหรับผู้หญิงที่ชีวิตแต่งงานตั้งอยู่บนขอบเหว ฉากนี้นับว่าทิ่มแทงสายตาทีเดียว หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่วงท่าสง่างามราวกับนางพญา หลังจากที่ชายหนุ่มนั่งลง ฉันก็จดรายการอาหารจากพวกเขา
“เธอดูเหมือนผู้หญิงในภาพวาดจริง ๆ นะ ว่ามั้ยคะ" น้ำเสียงงุนงงของหญิงสาวยังดังมาเข้าหูหลังจากฉันหมุนตัวกลับเพื่อเดินไปยื่นรายการอาหารให้ที่เคาน์เตอร์ ฉันไม่มีโอกาสได้ยินคำตอบของชายหนุ่ม เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นกลบเสียงเขาไปหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อดีตภรรยาเศรษฐีพันล้านท้องแล้วหนี