ญาธิดาตัวแข็งทื่อ รู้สึกแผ่นหลังเย็นวูบวาบ จนกระจายไปทั่วร่างกาย
ตอนแรกมาร์ตินให้เธออยู่ในห้องทำงานของเขาก็ทำให้คนคิดไปไกลแล้ว ถ้าเขาคิดอะไรกับเธอจริงๆ งั้นเธอควรจะทำยังไงดีล่ะ?
หนึ่งอาทิตย์จะว่ายาวก็ยาว จะว่าสั้นก็สั้น เธอควรจะทำงานกับมาร์ตินยังไงดี?
“ธิดา?” ชมพู่เห็นญาธิดาเงียบไม่ตอบสักที ก็เลยรีบถามอย่างเป็นห่วงว่า “เธอเป็นอะไรไป?”
เธอรู้สึกตัวและสูดหายใจเข้าลึกๆ “……คุณมาร์ตินทำไมเหรอ?”
ชมพู่พูดเสียงเบาว่า “ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าเขากับเลขามีความสัมพันธ์ลึกลับ แถมยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับเด็กฝึกงานด้วยล่ะ สรุปก็คือชีวิตส่วนตัวยุ่งเหยิงมาก! เธอสวยขนาดนี้ ต้องระวังตัวให้มากนะ!”
ญาธิดาพยักหน้า ในใจก็เหมือนมีหินก้อนหนึ่งทับไว้จนหายใจไม่ออก
ตอนนี้เธอรู้แล้วล่ะ ทำไมตอนนั้นพิชญ์สินีถึงยอมเอาโอกาสนี้ให้เธอ ที่แท้ก็เป็นเพราะเหตุผลนี้นี่เอง!
แต่ตอนนี้ไม่ว่ายังไง เรื่องก็สายไปแล้ว ถึงลำบากแค่ไหนเธอก็ต้องอดทนต่อไปให้ได้
พริบตาเดียวก็ถึงตอนบ่ายแล้ว ญาธิดาตั้งสติ จัดเรียงเอกสารอย่างมีประสิทธิภาพ
เธอแอบโล่งอก ลุกขึ้นแล้วยื่นเอกสารไปให้มาร์ติน “คุณมาร์ตินคะ นี่เป็นเอกสารประเด็นสำคัญที่คุณต้องการค่ะ…..”
มาร์ตินไม่เงยหน้าแล้วตอบรับ จากนั้นก็เปิดดูหนังสือสัญญาในมือ เขาลุกขึ้นแล้วสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เดี๋ยวไปงานเลี้ยงกับฉัน ไปเจอบุคคลสำคัญของโครงการHS”
โครงการHSเป็นงานแรกของมาร์ตินหลังจากที่ย้ายกลับมาใน ส่วนใหญ่เป็นการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะใหม่ๆกับบริษัทเทคโนโลยีเกิดใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ STN Group ให้ความสำคัญมากในช่วงนี้
เห็นสีหน้าที่เข้มงวดของมาร์ติน ญาธิดาก็แอบโล่งใจ จึงตอบตกลงและไปเตรียมของทันที
ต่อมามาร์ตินก็มาถึง Amaya Hotel นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอก็ยังรู้สึกหวาดหวั่นหัวใจ กัดฟันข่มความรู้สึกไม่สบายใจเอาไว้ แล้วเดินตามมาร์ตินเข้าโรงแรมไป
ครั้งก่อนโดนน้ำเพชรกับธมนวางแผน เกือบจะเกิดเรื่องแล้ว หลังจากนั้นเป็นต้นมา Amaya Hotel ก็กลายเป็นปมในใจของเธอ ตอนนี้พอเห็นภาพที่คุ้นเคยแบบนี้ ขึ้นลิฟต์ที่คุ้นเคย เธอก็รู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ
ขึ้นลิฟต์ไปแล้ว เธอก็มองดูตัวเลขที่ขึ้นไปเรื่อยๆ นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อน ใบหน้าก็ซีดเซียวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
มาร์ตินที่ยืนอยู่ข้างหน้าเหลือบหน้าไปแล้วพูดสั่งว่า “เดี๋ยวถึงตรงนั้นแล้ว ทำตัวฉลาดหน่อย อย่าทำหน้าตายแบบนี้ เข้าใจไหม?”
ญาธิดาสูดหายใจเข้า กำหมัดแน่น แล้วตอบว่า “รับทราบค่ะ”
เธอเดินตามมาร์ตินเข้าไปในห้อง เปิดประตูเข้าไปดู มีโต๊ะกลมสิบกว่าที่นั่ง น่าจะสักห้าหกคนได้ เป็นผู้ชายหมดเลย
ทุกคนต่างก็มองมาร์ตินแล้วยิ้มร่ากันหมด และทักทายเขาพร้อมกัน
“มาร์ตินรอนายคนเดียวแล้วนะ นายมาสายแล้ว ต้องโดนทำโทษสามแก้ว”
“ในเมื่อคุณป้องพูดแล้ว งั้นผมก็คงปฏิเสธไม่ได้ สามแก้วนี้ ผมดื่มแน่นอนครับ!”
มาร์ตินหัวเราะไม่ปฏิเสธคำขอ หยิบเหล้าขาวบนโต๊ะขึ้นมาเทหนึ่งแก้ว แล้วดื่มจนหมดติดต่อกันสามแก้ว ยังคงยิ้มและพูดกับคนตรงหน้าได้
ทุกคนต่างก็โห่ร้องกันใหญ่ ไม่รู้ว่าใครที่สังเกตเห็นญาธิดาที่อยู่ด้านหลังของมาร์ติน พวกเขาก็แสยะยิ้มแหะๆแล้วพูดว่า “มาร์ติน นายไม่จริงใจเลยนะ นายดื่มไปสามแก้วแล้ว ทำไมผู้ช่วยนายไม่ดื่มด้วยล่ะ?”
พอเขาพูดแบบนี้แล้ว สายตาทุกคนก็มองมาที่ญาธิดาทันที
ตอนแรกในห้องก็แต่ผู้ชายอยู่แล้ว ญาธิดาเข้ามาพร้อมกับมาร์ตินก็เป็นเพศตรงข้ามอยู่แล้ว บวกกับริมฝีปากแดงก่ำของเธอ ทำเอาคนที่เห็นแวบแรกไม่อาจละสายตาไปไหนได้ ก็ยิ่งดึงดูดให้ทุกคนหยอกเธอเล่น
ญาธิดายืนอยู่กับที่ พอได้ยินแบบนี้แล้ว ก็ไม่กล้าพูดอะไรเยอะ
มาร์ตินหันหน้าไปมองเธอ หยุดอยู่สองวินาทีก็พูดว่า “ควรทำยังไงเธอก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่รู้จักกาลเทศะแบบนี้!”
ญาธิดาอึ้งอยู่นาน สีหน้าก็เย็นชาขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...