พอออกมาจากร้านอาหารแล้ว ญาธิดากับอัญมณีก็ขับรถตรงกลับบ้านเลย พอมาถึงประตูทางเข้าชุมชน อัญมณีก็มองซ้ายมองขวาไป เหมือนกับว่ากำลังหาใครอยู่
ญาธิดาไม่เข้าใจ และกวาดมองรอบ ๆ แล้วถามขึ้นมาว่า “มีอะไรเหรอ?”
อัญมณีอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดไม่ออก “ไม่……ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรเหรอ?” ญาธิดายักคิ้วขึ้นเล็กน้อย เธอไม่เชื่อคำพูดของหล่อนหรอก
ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาลัย อย่างน้อยพวกเธอก็รู้จักกันมาแปดเก้าปีแล้ว การกระทำทุกอย่างของอัญมณีไม่มีทางที่จะปิดบังเธอได้หรอก
เธอหยุดฝีเท้าลง แล้วจ้องมองอัญมณีอย่างจริงจัง “ไม่มีอะไรจริง ๆ เหรอ?”
อัญมณียิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย และก็โกหกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงได้แต่ยิ้มแหยะ ๆ แล้วพูดความจริงขึ้นมาว่า “ฉันโทรหาพี่ชายฉันไป ในเมื่อเรื่องย้ายของแบบนี้ ยังไงก็ต้องให้ผู้ชายมาทำดีกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว……”
พอญาธิดาได้ยิน ก็ทั้งโกรธทั้งขำขึ้นมา “อันอัน เธอนี่……”
ถึงแม้ว่าเธอจะโง่ แต่ก็ไม่ได้โง่จนมองความหมายของอันอันไม่ออกหรอกนะ
แต่ว่าพอพูดจริง ๆ แล้ว เรื่องย้ายบ้านนี่ มีผู้ชายอยู่ด้วยมันก็ดีกว่าจริง ๆ
แล้วในเวลานี้เอง ด้านข้างก็มีรถขับเข้ามาคันหนึ่ง แล้วมาจอดข้าง ๆ พวกเธอ พอกระจกรถเปิดออก ธีทัตที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ก็คลี่มุมปากส่งยิ้มมาให้พวกเธอ
อัญมณีใบหน้ายิ้มแย้ม แล้วโบกมือให้ธีทัตเล็กน้อย “พี่ รีบลงมาเร็ว!”
หลังจากที่จอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ธีทัตก็ลงมาจากรถ ชุดลำลองสีเทาทั้งชุดทำให้รูปร่างของเขาดูสูงโปร่ง เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น
เขามองไปที่ญาธิดา แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้นมา “อันอันบอกว่าคุณจะย้ายบ้าน แล้วผมก็ว่างอยู่พอดี ก็เลยมาช่วย”
ญาธิดาส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อย “ขอบคุณค่ะ”
อัญมณีที่อยู่ข้าง ๆจ้องมองพวกเขาสองคนไป แล้วก็ยักคิ้วหลิ่วตาขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “พอแล้วๆ รีบไปกันเถอะ เรื่องสำคัญคือการย้ายของต่างหาก ”
พูดแล้ว เธอก็ลากตัวญาธิดาแล้วเดินเข้าไปในเขตชุมชน
พอมาถึงหน้าประตูบ้าน ญาธิดาก็กดกริ่งประตูเล็กน้อย พอคุณปภาวีเปิดประตูออกมา เห็นว่าเป็นเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะพร่ำบ่นขึ้นมา “ญาธิดาแกนี่ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม! ถึงได้ไม่กลับบ้านมาตั้งหลายวัน……”
คำพูดยังพูดไม่ทันจบ เธอก็เห็นอัญมณีและธีทัตที่ยืนอยู่นอกประตู
“อันอัน?”
“คุณน้า!” อัญมณียิ้มอย่างอ่อนหวานเป็นเด็กดี “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ หนูคิดถึงคุณน้าจังเลย!”
พอคุณปภาวีได้ยิน ก็ยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันที “อันอันนี่ ไม่ได้เจอกันตั้งครึ่งปีแล้ว ยิ่งอยู่ก็ยิ่งสวยแล้วนะ ”
“คุณน้าก็ยิ่งอยู่ก็ยิ่งหน้าเด็กลงนะคะ!”
พออัญมณีประจบประแจงไปหลายประโยค ก็ทำให้คุณปภาวีเอาคำพูดที่จะดุด่าว่ากล่าวญาธิดาโยนออกไปจากสมองเลย
พอเห็นธีทัตที่ยืนอยู่นอกประตู คุณปภาวีรู้สึกแต่ว่าหน้าคุ้น ๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน “คุณคือ……”
“นี่คือพี่ชายหนูค่ะ พี่ธีทัต แล้วก็เป็นคู่ดูตัวของธิดาด้วยค่ะ”
พอคุณปภาวีได้ยิน ตาทั้งคู่ก็โตขึ้นมาทันที ทั้งแปลกใจทั้งดีใจ แล้วก็รีบเชิญธีทัตเข้ามานั่งในบ้าน
ญาธิดานั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองคุณปภาวีที่กุลีกุจอไปชงชาและหั่นผลไม้ให้ ในใจก็ยิ่งเข้าใจความตั้งใจของอัญมณีขึ้นมา
ที่หล่อนตามธีทัตมา ไม่ใช่แค่มาช่วยพวกเธอย้ายของเท่านั้น ยังสามารถช่วยขัดขวางคุณปภาวีได้ด้วย
นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยจริง ๆ!
พอเห็นว่าเวลามันพอเหมาะแล้ว ญาธิดาก็มองไปที่คุณปภาวี แล้วก็รวบรวมความกล้าพูดขึ้นมาว่า “แม่คะ มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่หนูอยากจะพูดกับแม่หน่อยค่ะ”
พอคุณปภาวีเห็นท่าทีจริงจังของญาธิดา ก็เคร่งขรึมขึ้นมาด้วยเลย “เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องอะไร?”
ญาธิดากำมือเข้าด้วยกัน “หนูกะว่าจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกค่ะ หนูได้เช่าคอนโดอยู่ใกล้ ๆ บริษัทไว้แล้ว ค่อนข้างสะดวก ค่าเช่าก็ไม่แพง……”
“ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก?” และแล้ว สีหน้าของคุณปภาวีก็ดูแย่ลงทันที “อยู่ดี ๆ ทำไมจะต้องย้ายออกไปอยู่ข้างนอกด้วย ในบ้านมีให้กินมีให้ใช้ ทำไมจะต้องไปเปลืองเงินส่วนนี้ด้วย ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...