ณ โรงพยาบาลโชคศิริ
ภวินท์นั่งลงที่ขอบเตียง พูดกับนิวราอย่างใจเย็น “ไม่ต้องห่วง การผ่าตัดวันพรุ่งนี้พี่จะอยู่กับเธอเสมอ”
นิวาราพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอยิ้มบางๆ แก้มสองข้างมีรอยปรากฏขึ้น "พี่วินคะ นิวหิวน้ำนิดหน่อย อยากดื่มน้ำ"
ภวินท์หันไปมองถังน้ำแร่เปล่า หยิบแก้วบนโต๊ะขึ้นมา แล้วพูดเบาๆ ว่า “เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้ รอแป๊ปนึงนะ”
นิวารายิ้มหวาน “โอเคค่ะ”
เมื่อเห็นภวินท์เดินออกจากห้องไป เธอก็ลุกขึ้นจากเตียง แล้วหันไปมองโต๊ะข้างๆ ที่โทรศัพท์ของภวินท์ เธอหยิบขึ้นมากรอกรหัสผ่านแล้วเปิดออก
มีสามสายที่ไม่ได้รับแสดงบนจอโทรศัพท์ เมมชื่อว่า"ธิดา"
นิวราขมวดคิ้วและจ้องไปยังสายที่ไม่ได้รับทั้งสามสาย
สัญชาตญาณบอกเธอว่านี่คงเป็นเบอร์ของผู้หญิง!
เธอกัดริมฝีปากและแอบจดบันทึกหมายเลขนั้นเอาไว้ จากนั้นจึงลบบันทึกการโทรออกและวางโทรศัพท์กลับเข้าที่ เธอไม่ยอมให้พี่ภวินท์ของเธอมีใครข้างกายเด็ดขาด!
หลังผ่าตัดพรุ่งนี้เธอต้องตรวจสอบให้รู้ว่าเบอร์นี้เป็นของใครกันแน่!
......
ทั้งคืน ญาธิดาได้แต่ฝันร้าย ตื่นมาหลายรอบ เหงื่อออกหนาวๆทุกครั้ง
เช้าวันรุ่งขึ้น ญาธิดาตื่นขึ้น มองดูรอยคล้ำรอบดวงตาในกระจก แล้วขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
ปกปิดด้วยคอนซีลเลอร์ แล้วเธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากบ้านไป
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เหมือนเป็นความโชคร้ายที่ติดอยู่ในใจเธอตลอดมา เมื่อเธอมาถึงบริษัท อาการของเธอก็ไม่ค่อยดีนัก
หลังจากที่ญาธิดาถ่ายเอกสารผิดเป็นครั้งที่สอง ชมพู่ก็ทนไม่ไหวแล้ว “ธิดา วันนี้เธอเป็นอะไรไป จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”
ญาธิดากัดฟันและส่ายหน้า "ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ น่าจะเพราะฉันนอนไม่ค่อยหลับเมื่อคืนนี้"
ชมพู่มองดูเธอที่ท่าทีเหมือนมีเรื่องหนักใจ แล้วก็ถอนหายใจ แต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ
ไม่ทันไรก็ถึงตอนบ่าย ญาธิดาจัดการกับงานส่วนใหญ่ในมือเสร็จแล้ว เปิดดูโทรศัพท์ ทันใดนั้นก็เห็นข้อความในกลุ่มของแผนกเด้งขึ้นมาไม่หยุด
"แจ้งให้ทราบ ภายใน 15 นาที คุณมาร์ตินจะไปตรวจสอบงานที่แผนก ทุกคนเตรียมตัวด้วย!"
หลังจากการแจ้งเตือนนี้ ข้อความมากมายก็ผุดขึ้นมาในช่วงเวลาสั้นๆ
“ทำไมเดี๋ยวนี้คุณมาร์ตินไปๆมาๆแผนกเราบ่อยจังอะ”
ใครบางคนตอบข้อความโดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า “คิดว่ายังไงล่ะ ต้องใช้เรื่องงานเป็นข้ออ้างในการมาหาใครบางคนแน่เลย!”
แล้วก็มีข้อความนิรนามอีกข้อความปรากฏขึ้น "ใช่แล้ว! ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่หรือ..."
"..."
ญาธิดาดูบทสนทนาที่ดุเดือดในกลุ่มแล้วอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แน่นอนว่าเธอรู้ ที่ใครๆ ก็พูดถึงกันมันหมายถึงเธอ
เธอทำได้แค่บล็อกข้อความกลุ่ม ปิดหน้าจอ โยนโทรศัพท์ไว้ และทำงานต่อไป
แม้ว่าเธอจะบอกตัวเองให้ไม่สนใจ แต่ก็ห้ามความรู้สึกเสียใจไม่ได้
ผ่านไปสักพัก ข้างนอกก็มีเสียงดัง มีคนมาแจ้งว่าคุณมาร์ตินกำลังมาตรวจสอบงาน
ญาธิดาเดินออกจากออฟฟิศไปยืนเป็นแถวกับฝูงชน
มาร์ตินเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าเคร่งขรึม พูด “มีเวลาเหลือเฟือก็ไม่คิดจะทำงานให้ได้ประสิทธิภาพแล้วหรือ คุณคิดว่าบริษัทเลี้ยงคุณไว้เพื่ออะไร ให้ข้าวให้น้ำแค่นั้นหรือ"
พี่แนนตกตะลึง จู่ๆ ก็พูดไม่ออก
ญาธิดาขมวดคิ้วและหลับตาไม่โต้ตอบ
มาร์ตินหันหน้ามองเธออย่างเย็นชา แล้วสั่งเสียงเข้มว่า “ในเมื่อคุณจะยื่นใบเสนอราคาพรุ่งนี้ ผมก็ไม่มีปัญหา แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้คุณ ผมจะสั่งงานอื่นๆเพิ่มอีก "
"พอดีเลยที่ห้องทำงานของผมไม่ได้ทำความสะอาด ผมให้เวลาคุณ1ชั่วโมงในการทำความสะอาด นี่คือการลงโทษและคำเตือน"
เขากล่าวพร้อมมองทุกคน "ผม มาร์ติน ทำโทษและให้รางวัลคนอย่างเหมาะสมเสมอ ไม่มีข้อแม้ในการทำงาน ถ้าใครมีเวลาว่างมากในการทำงาน มาหาผมได้ ผมจะสั่งงานให้เอง!"
พอพูดจบ มาร์ตินก็ก้าวเท้าเดินออกไป ไม่หันกลับมาอีกเลย
ทันทีที่เขาออกไป เสียงถอนหายใจก็ดั่งทั่วแผนก
ลูบหลังก่อนแล้วค่อยตบหัว มาร์ตินทำแบบนี้เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู หรือตั้งใจหาเรื่องให้ญาธิดากันแน่ ที่คาดเดาไม่ได้มากกว่านั้นคือเมื่อก่อนเหมือนจะมีความสัมพันธ์คลุมเครือกัน แล้วทำไมตอนนี้พวกเขาถึงดูเคียดแค้นกันซะอย่างนั้น
ทั้งสองคนเลิกกันหรือ
ทุกคนล้วนเดากันไปต่างๆนานา มีเพียงญาธิดาเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด เขาทำแบบนี้เพราะเรื่องเมื่อคืน
เธอกัดฟันทน เก็บทุกอย่างไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ
พี่แนนมองดูเธอด้วยความเห็นอกเห็นใจ แล้วพูดเบา ๆ ว่า "ญาธิดา ยังไงซะคุณมาร์ตินก็สั่งมาแล้ว อย่ารอช้าเลย รีบไปรีบมา แล้วมาทำงานให้เสร็จ"
ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าให้เธอแล้วเดินจากไป
เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเหตุผลที่ให้ผู้ช่วยธุรการอย่างเธอไปทำความสะอาด ก็เพราะจะทำให้เธอขายหน้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...