ญาธิดายืนอยู่ด้านข้าง และคอยมองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างแปลกประหลาด จนเกิดความสงสัยอยู่ในใจ
ถึงแม้ภวินท์กับภูผาทั้งสองคนจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันออกมา แต่ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ไม่น่าจะเป็นเช่นนี้นี่ เมื่อเจอหน้าก็สบตาด้วยแววตาเย็นชาใส่กัน
แววตาภวินท์หม่นหมองลง แสดงความเย็นเฉียบออกมา และตอบกลับนอกเหนือคำถาม “ภูผา ต่อหน้าฉัน ไม่ต้องเสแสร้งได้ปะ”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป เขาเองก็ไม่ลังเลแต่อย่างใด พลางหันหลังและรีบเดินออกไปอย่างเร่งรีบ พายุเหลือบมองอัญมณีที่อยู่ด้านข้าง และเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ
ญาธิดาเหลือบมองภูผาที่นั่งอยู่บนรถเข็น พลางคลี่ยิ้มให้เขาที่มุมปากอย่างเคอะเขิน จากนั้นก็ดึงอัญมณีที่กำลังทำหน้าตาสับสนและหันหลังเดินตามหลังไป
เดินจากไปไม่กี่ก้าว อัญมณีถึงได้มีอากัปกิริยาตอบโต้กลับมา มีทั้งการซุบซิบนินทาและสายตาที่แปลกใจมองมาทางญาธิดา พลางกดถามเสียงต่ำ “ธิดา คนเมื่อกี้คือน้องชายของภวินท์เหรอ?”
ญาธิดาพยักหน้าเล็กน้อย ได้แต่เงียบงันไม่ยอมพูดยอมจา
“บ้าบ้อ!” อัญมณีอุทานออกมา “น้องชายคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นท่านนั้นช่างอ่อนโยนมาก หน้าตาก็หล่อ! แถมยังช่วยแก้ไขปัญหาให้พวกเรา รู้สึกได้ว่าเป็นคนดีมาก! ทำไมภวินท์ถึงแสดงท่าทีกับเขาแบบนั้นล่ะ?”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางกระซิบพูด “เรื่องของตระกูลสถิรานนท์ฉันไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ อันอัน เมื่อแกอยู่ต่อหน้าภวินท์ แกห้ามพูดจาซี้ซั้วอีกเด็ดขาด”
เธอเคยผ่านประสบการณ์มาแล้วย่อมรู้ดีอย่างชัดเจน ภวินท์ไม่ยินยอมพูดถึงน้องชายคนนี้ให้มากความไปกว่านี้ ถ้าอันอันเอ่ยถึงโดยไม่รู้ถึงผลลัพธ์ความเป็นความตายที่จะตามมา ซึ่งไม่แน่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง
เมื่อออกจากWesker Nightclubแล้ว บรรยากาศแม้ว่าไม่ได้ตึงเครียดขนาดนั้น อัญมณีถอนหายใจ พลางอดพูดไม่ได้
“คิดไม่ถึง วันนี้กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของแองจี้! เฮ้อ คิดๆ แล้วก็โมโหชะมัด”
“ผ่านไปแล้ว อย่าคิดมากเลย” ญาธิดาตบแผ่นหลังอัญมณีเพื่อเป็นการพูดปลอบใจ
เมื่อเธอเงยหน้าศีรษะขึ้น จึงมองเห็นภวินท์และพายุเดินอยู่ด้านหน้าในจุดไม่ไกลนัก จู่ๆ ก็คิดอะไรขึ้นมาได้
“ใช้สิ อันอัน แกสนิทกับพายุมากเหรอ?”
ครั้งที่แล้วเธอถูกมาร์ตินกับบรรดาพวกพ้องของท่านประธานกักขังอยู่ในห้องน้ำภายในห้องรับรอง เธอเป็นคนเรียกพายุเข้ามาช่วยเธอ ครั้งที่แล้วก็ลืมถาม ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้เธอก็เรียกพายุมาอีกครั้ง แถมยังพาภวินท์ติดสอยห้อยตามมาด้วย
จู่ๆ การโดนถามคำถามนี้ สีหน้าอัญมณีแสดงความรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติออกมาเล็กน้อย และรีบพูดปฏิเสธทันควัน “ไม่สนิท ฉันเคยเจอกับเขาแค่ไม่กี่ครั้งเอง!”
ญาธิดาสมองเบลอหน้าหนักกว่าเดิม “เคยเจอไม่กี่ครั้ง? หรือว่าพวกแกเคยแอบเจอกันแบบส่วนตัวป่ะ?”
เธอถูกถามไล่บี้ซ้ำหลายครั้ง จนแก้มทั้งสองข้างของอัญมณีแดงระเรื่อ และพูดจาอ้ำๆ อึ้งๆ จนทำให้คนอดคิดตามไม่ได้
“เคยเจอที่ไหนล่ะ? ไม่มีเรื่องอะไรหรอกน่า ธิดาแกก็อย่าคิดเองเออเองสิ!”
พลางมองเพื่อนสนิทที่ปกติจะพูดมากตลอดทุกวี่ทุกวันแต่วันนี้หน้าแดงขึ้นมา ญาธิดาหัวเราะออกมาอย่างอดใจไม่ไหว เมื่อครู่เธอค้นพบว่าระหว่างอัญมณีกับพายุมันมีความหมายอย่างมีเลศนัยที่ไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง
“โอเคๆ ฉันไม่พูดแล้วพอใจยัง?”
ญาธิดายิ้มให้และจูงเธอเดินไปทางด้านหน้า พอเงยศีรษะมาก็มองเห็นภวินท์กำลังยืนรอพวกเขาอยู่ข้างรถ
เธอเก็บรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าทันที พลางจ้องมองพายุที่สาวเท้าเดินเข้ามาหา
พายุเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างตัวอัญมณี พลางกระซิบพูด “ผมจะส่งคุณกลับบ้าน”
อัญมณีเหลือบตามอง พลางบอกปัดปฏิเสธออกมาตรงๆ “ไม่ต้องหรอก ฉันจะกลับกับธิดา ”
หลังจากที่เธอพูดจบแล้ว พอเงยศีรษะก็มองเห็นภวินท์ที่กำลังจ้องมองมาทางนี้ เธอเข้าใจในทันที เธอจึงรีบหันหน้ามาทันควัน เพื่อมองมาทางญาธิดา “ธิดา แกคงไม่กลับบ้านไปกับเขาใช่มั้ย?”
ทำราวกับเธอเป็นก้างขวางคอแบบนั้น
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้า พลางมองมาที่อัญมณี และกระซิบพูด “อันอัน แกให้พายุส่งแกกลับบ้านเถอะ เมื่อกี้แกดื่มเหล้ามา ขับรถไม่ได้แล้วนี่”
การพูดออกมาเช่นนี้ อัญมณีถึงนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองดื่มเหล้ามา เธอกวาดตามองพายุที่อยู่ด้านข้าง ถึงได้ตอบตกลงอย่างไม่พอใจ “ก็ได้ ”
พลางมองคนสองคนอัญมณีกับพายุเดินจากไป ญาธิดาถึงได้ถอนหายใจ จากนั้นจึงได้สาวเท้าเดินไปหาภวินท์
เธอรู้ดีอยู่แล้ว เขาให้พายุพาตัวอัญมณีไปส่งเพื่อรั้งเธอเอาไว้ น่าจะมีเรื่องที่ต้องการพูดกับเธอ
เมื่อเดินไปอยู่ข้างรถยนต์แล้ว ภวินท์ก็ขึ้นรถ ญาธิดากัดฟันแน่น และขึ้นรถตามไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...