มองสีหน้าแบบนี้ของญาธิดาแล้ว ทีนี้ภวินท์ถึงดึงสติกลับมา
เธอคงไม่ใช่คิดว่าเขากับแพรวามีความสัมพันธ์ลับลมคมในอะไรกันมั้ง?
เดาความหมายในคำพูดเธอแล้ว ภวินท์รู้สึกขำ ไม่นึกเลยว่าเธอก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทนนิวด้วย
หลังจากตกใจแล้ว เขาได้แสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย สีหน้าแววตาไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่กลับอารมณ์ดีขึ้นเยอะเพราะปฏิกิริยาของเธอ เธอที่เป็นแบบนี้ น่าสนใจดีนะ
ผ่านไปสักพัก เขาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไหนว่ามา มาหาผมมีธุระอะไร?”
ปกติอยู่บริษัทญาธิดาเจอหน้าเขาแทบอยากจะเดินหลบหน้า ตอนนี้เป็นฝ่ายมาหาเขาที่ออฟฟิศเอง จะต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน
แต่ญาธิดาอัดอั้นตันใจ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากพูดอะไรมากมายกับเขา ได้ทิ้งท้ายอย่างเย็นชาคำนึง “ไม่มีอะไรค่ะ”
พอพูดจบ เธอก็จะไปเลย เสี้ยวินาทีที่หันหลัง เธอขยับริมฝีปาก ริมฝีปากมีคำพูดที่ไม่ค่อยชัดเจนออกมา “ไอ้ผู้ชายสารเลว……”
ถึงเสียงทั้งเบาทั้งคลุมเครือ แต่ภวินท์ก็ยังฟังออกอยู่ดี แววตาเขามีแสงเยือกเย็นแวบผ่าน ริมฝีปากบางขยับ “หยุด”
ไม่นึกเลยว่าเธอจะกล้าว่าเขาเป็นผู้ชายสารเลว?ปีกกล้าขาแข็งแล้ว!
ภวินท์ทั้งโกรธทั้งขำ ได้ลุกขึ้นมาแล้วเดินมาหาเธอทันที
ญาธิดาตกใจ แอบร้องอยู่ในใจว่าแย่แล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าเธอแอบด่าเขาคำเดียวเขาก็ยังได้ยินด้วย!
อีกอย่างเธอยังจงใจควบคุมระดับเสียงให้เบาแล้วนะ โดยทั่วไปน่าจะไม่ได้ยินหนิ เขายังเป็นคนปกติอยู่หรือเปล่าเนี่ย?
ญาธิดาย่อมไม่รู้อยู่แล้วว่าอวัยวะรับสัมผัสทั้งห้าของภวินท์มีระดับที่เซนซิทีฟเกินคนปกติ อย่าว่าแต่คำพูดเดียวเลย แค่ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติเล็กน้อย เขาก็ยังสามารถรับรู้ได้เลย
ฝีเท้าของญาธิดาหยุดชะงักไว้ ร่างกายแข็งทื่อ ถ้าเธอถูกภวินท์จับได้แบบนี้ เกรงว่าจะถูกลงโทษแน่!
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง!
เธอกัดฟัน แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรแล้วเดินไปข้างนอกต่อ
แต่มือเพิ่งแตะโดนลูกบิดประตู เพิ่งเปิดประตูออกเป็นช่องโหว่เล็กๆ วินาทีต่อมา ก็มีมือเรียวยาวขาวสะอาดยื่นมาปิดประตูเอาไว้แล้ว และถือโอกาสผลักเธอไปแนบกับประตู
ญาธิดาตกใจ ขาดก็แต่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเดียว เธอเงยหน้าปุ๊บ ก็เผชิญกับใบหน้าหล่อเหลาที่ใกล้แค่เอื้อมของเขา ถึงแม้สีหน้าที่เรียบเฉยดูไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธ แต่ใบหน้าที่เรียบเฉยยังคงเพอร์เฟคจนไร้ที่ติ
เธอตื่นเต้น แต่ก็ยังฝืนแสร้งเป็นนิ่ง “คุณจะทำอะไร ?”
ภวินท์ขมวดคิ้ว เสียงหนักหน่วงจนเหมือนแฝงด้วยน้ำหนัก “ญาธิดา เมื่อกี๊คุณพูดว่าอะไรนะ?”
ฟันกรามของเขาให้แน่นขึ้น เหมือนได้กัดฟันพูด “ไหนลองพูดอีกทีซิ”
มองดวงตาคมเข้มของผู้ชายแล้ว ญาธิดาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง แววตาเธอเหม่อลอย “ฉันไม่ได้พูดอะไรนี่ ……”
ถ้าเธอยอมรับโดยตรง เกรงว่าภวินท์จะให้เธอตายอย่างน่าอนาถแน่!
ภายนอกเธอปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ลึกๆกลับเสียใจจนตบหน้าตัวเองโดยตรง!
ด่าเขาที่ไหนไม่ดี ขอแค่ออกจากประตูบานนี้ก็พอแล้ว เธอจะด่าพันรอบหมื่นรอบก็ไม่เป็นไร แต่เธอดันทนไม่ไหวพูดหลุดปาก แถมยังถูกเขาได้ยินอีก คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสิท่า?
เห็นสีหน้าผู้หญิงเปลี่ยนไปทันที ภวินท์ยิ่งรู้สึกขำเข้าไปใหญ่ เห็นๆอยู่ว่ากลัวเขา แต่เมื่อครู่กลับเปิดปากด่าเขา เป็นต้นฉบับของคนที่ทั้งดุทั้งขี้ขลาดตาขาวเลย
เขายื่นมือจับคางของญาธิดาเอาไว้ พร้อมใช้แรงเล็กน้อย บีบจนเธอต้องมองหน้าตัวเอง ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย “ไหนลองพูดคำพูดเมื่อกี๊อีกรอบซิ”
เวลานี้ ญาธิดาจะกล้าพูดได้ยังไง ได้แต่สูดหายใจลึกๆ แล้วแสร้งพูดอย่างบริสุทธิ์ใจ “ฉัน…ไม่ได้พูดอะไรเลย ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...