ญาธิดาได้ยินแล้วดึงสติกลับมา จากนั้นได้ยิ้มให้อัญมณีกับการินอย่างค่อนข้างรู้สึกผิด “ขอโทษด้วยนะ วันนี้ฉันคงจะทำงานเหนื่อยเกินไป”
การินยกมุมปากขึ้น เพื่อแสดงว่าเขาเข้าใจ “ไม่เป็นไรธิดา เดี๋ยวรอกับข้าวมาครบแล้ว เราทานข้าวเสร็จก็ส่งเธอกลับบ้านเลย พรุ่งนี้เช้าเธอยังต้องไปขึ้นเครื่องอีก กลับไปพักผ่อนเช้าๆหน่อย”
ญาธิดาพยักหน้าแล้วตอบเสียงเบา “โอเค”
อัญมณีที่อยู่ข้างๆไม่ได้ถูกหลอกง่ายๆหรอก เธอรู้จักญาธิดาดีขนาดนี้ ย่อมดูออกอยู่แล้วว่าเธอไม่ได้เหนื่อยเพราะงาน แต่ว่ามีเรื่องในใจ อาศัยช่วงจังหวะที่การินไปเข้าห้องน้ำ เธออดถามไม่ได้ “ธิดา เธอเป็นอะไรกันแน่?”
“ฉันไม่เป็นไร”
อัญมณียักคิ้ว ทำหน้าเหมือนฉันรู้ดีแก่ใจ “ไม่เป็นไร?เมื่อกี๊อยู่ที่โต๊ะทานข้าวเธอเหม่อลอยตลอดเลยนะ บอกมาตามตรงเลย เธอกำลังคิดถึงผู้ชายอยู่ใช่มั้ย?”
ฟังอัญมณีพูดแบบนี้แล้ว ญาธิดากลั้นขำไว้ไม่อยู่ แต่ที่เธอพูดดันถูกอีก เธอมักจะคิดถึงหน้ากวนประสาทของภวินท์อยู่เรื่อยเลย ทั้งๆที่ใจต่อต้าน แต่สมองกลับควบคุมไม่ได้ยังไงอย่างงั้น
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆทีนึง จากนั้นได้โน้มตัวเข้ามาใกล้อัญมณีเล็กน้อย พร้อมเสียงถามเบา “อันอัน เธอว่าทำไมฉันถึงได้คิดถึงภวินท์อยู่เรื่อยเลยนะ?”
อัญมณีฟังแล้วได้เผยสีหน้าแววตาที่สอดรู้สอดเห็นทันที กะพริบตาใส่เธอไม่หยุด “นี่ยังต้องให้พูดอีกเหรอ?นี่ก็ชัดเจนมากแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธอชอบเขา!”
“เหลวไหล!”สีหน้าของญาธิดาแดงก่ำขึ้นมาทันที เธอปฏิเสธทันที “จะเป็นไปได้ยังไง?”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?”อัญมณีทำหน้ามันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว “เธอก็ลองคิดดูสิ คืนนี้ทำไมเธอไม่ไปคิดถึงการิน หรือว่าคิดถึงพี่ชายฉัน?ทำไมดันต้องไปคิดถึงภวินท์?”
คำพูดนี้ เหมือนดั่งน้ำเย็นกะละมังนึง ราดจนญาธิดาตื่นตัวขึ้นเยอะ แต่ก็มีสติขึ้นมาเยอะเลย
หลังจากหยุดชะงักไปหลายวิ เธอส่ายหัวและพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “เป็นไปไม่ได้ ฉันเกลียดเขามาก อาจจะเพราะช่วงนี้ใกล้ชิดกับเขามากเกินไป”
ผู้ชายที่เอาแน่เอานอนไม่ได้และโปรยเสน่ห์ไปทั่วอย่างภวินท์ เธอไม่คิดพิจารณาหรอก บวกกับก่อนหน้านี้เธอกับภวินท์มีประสบการณ์การแต่งงานที่ไม่รื่นรมย์ขนาดนั้น เธอจะชอบเขาได้ยังไง?
หลังจากแน่วแน่กับความคิดแล้วญาธิดาได้รับประกันกับอัญมณีอีกครั้งว่า “ฉันไม่มีทางชอบเขาหรอก จริงๆนะ”
อัญมณีฟังแล้ว มุมปากมีรอยยิ้มที่ยากจะเข้าใจ แต่ปากล้วนพูดคล้อยตามเธอ “โอเคๆ ฉันเชื่อเธอ เธอไม่ชอบเขาอ่ะดีที่สุดแล้ว ไม่งั้นพี่ชายฉันรู้จะต้องเสียใจมากแน่ๆเลย”
ฟังอัญมณีล้อเล่นแล้ว ญาธิดาได้หัวเราะ พอเห็นการินเดินมาทางนี้ จึงไม่ได้พูดอะไรอีก
ทานอาหารค่ำเสร็จ การินเป็นฝ่ายขอไปส่งพวกเธอกลับบ้านเอง ตลอดทาง เหมือนอัญมณีคอยพูดจาไม่หยุดเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ
มาถึงหน้าชุมชนของญาธิดา เธอได้บอกให้จอดรถ หลังจากบอกลากับพวกเขา ก็ได้เปิดประตูลงจากรถ
ในขณะที่กำลังจะปิดประตู จู่ๆการินได้เรียกเธอไว้ “ธิดา”
ญาธิดาได้ยินแล้วหันไปมองเขา พร้อมถามเสียงเบาว่า “มีอะไรหรอ?”
การินอยากพูดแต่ก็หยุดเอาไว้ ดูเหมือนมีคำพูดมากมายที่อยากจะพูดกับเธอ แต่เนื่องจากในรถยังมีอัญมณีนั่งอยู่ เขาหยุดชะงักไปครู่นึง จากนั้นได้ชี้ช่อดอกไม้บนเบาะนั่งข้างคนขับแล้วพูดว่า “เธอลืมดอกไม้”
ญาธิดามองไปแล้ว เห็นช่อดอกไม้ที่วางอยู่ตรงนั้นอย่างเดียวดาย ทันใดนั้นค่อนข้างเก้อเขินจนทำอะไรไม่ถูก เธอรีบหยิบดอกไม้ขึ้นมาแล้วยิ้มให้เขาอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษด้วยนะ เมื่อกี๊มองไม่เห็น”
การินมองมาที่ญาธิดา สายตาอ่อนโยนดั่งน้ำ เขาพูดเสียงเบาว่า “ไม่เป็นไร กลับไปพักผ่อนเช้าๆนะ”
ญาธิดาพยักหน้าให้กับเขา จากนั้นได้โบกมือลาอัญมณี ทีนี้ถึงหันหลังเดินเข้าไปในชุมชน
เพิ่งเดินเข้าประตูใหญ่ของชุมชน ใครจะไปรู้ว่ามือถือได้ดัง“ดิ๊ง”ทีนึง เธอหยิบขึ้นมาดู อัญมณีส่งข้อความมาให้เธอ “แหมๆๆ การินช่างเป็นคนที่ลุ่มหลงในความรักจริงๆ”
ตามด้วยมือถือได้สั่นอีกทีนึง เธอส่งอิโมจิมาอีก
ญาธิดาดูสองข้อความนี้แล้ว แทบจะสามารถจินตนาการน้ำเสียงตอนที่อัญมณีพูดคำนี้ได้เลย
เธอยิ้มมุมปาก และไม่ได้ตอบกลับ
ในใจเธอรู้ดี เธอไม่มีใจให้การิน นี่ไม่เกี่ยวกับเวลา สองปีก่อนเป็นอย่างนี้ ตอนนี้ยิ่งเป็นอย่างนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...