เมื่อเทียบกับรูปถ่ายที่ส่งให้เขาเมื่อครู่นี้ ญาธิดาในนาทีนี้กระโปรงยาวบนตัวได้ถูกมีดกรีดออกเป็นรอยฉีกขาด สามารถเห็นผิวพรรณที่เผยออกมา และใต้ชายกระโปรง ยังมีเลือดไหลลงมาตามขาขาวเนียนของเธอ
เธอก้มหน้าไว้ สีหน้าขาวซีด คางเรียวแหลมทำให้คนเห็นแล้วสงสารจับใจ
เห็นฉากนี้แล้ว ภวินท์รู้สึกแค่ว่าสมองดัง“บึ้ม”เสียงนึง เหมือนมีของอะไรระเบิดอยู่ที่ข้างหูกะทันหัน เขากำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำ
ในขณะนี้เอง ข้างๆมีเสียงหัวเราะอย่างหยิ่งผยองก้องมาพร้อมด้วยเสียงปรบมือ
เคเดินมาด้วยและปรบมือไปด้วย “ภวินท์ นายไม่ได้ทำให้ผู้หญิงของนายผิดหวังเลย ฉันยังนึกว่า ครึ่งชั่วโมงนายจะมาไม่ทันเสียอีก!”
ถึงแม้เขากำลังหัวเราะ แต่รอยยิ้มไม่ได้มาจากในใจ ดวงตาที่ดุร้ายเหมือนเหยี่ยวคู่นั้นแฝงด้วยความเย็นชา ทำให้คนหนาวจับใจ
ภวินท์หันหน้าไป แววตาคมเข้มแฝงด้วยความเย็นชา เพ่งมองเขากลับโดยที่ไม่กลัวเลย “พี่เคที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสิงคโปร์ ไม่รู้ทำไมต้องใช้วิธีต่ำช้าขนาดนี้ลงมือกับผู้หญิงที่อ่อนแอไม่มีทางสู้”
ญาธิดาที่ถูกมัดอยู่บนกระดานปาเป้า
สะลึมสะลือ ได้ยินเสียงนั้นแล้วร่างกายสั่นเบาๆ พยายามลืมตาและเงยหน้าขึ้น ตอนที่เห็นใบหน้าคุ้นเคยนั้น อดคัดจมูกไม่ได้
ไม่นึกเลยว่าเขาจะมาจริงๆ!ในขณะที่เธอนึกว่าตัวเองจะตายอยู่ที่นี่ เขาก็ได้มาเหมือนพระเจ้า!
เคยิ้มหยันแล้วตอบ “เพราะภวินท์ที่มีชื่อเสียงโด่งไม่ได้เจอง่ายขนาดนั้น ต้องสิ้นเปลืองสมองหน่อย ใช้เหยื่อล่อหน่อย เนี่ย นายก็มาติดกับดักเองแล้วไม่ใช่เหรอ”
ภวินท์กำหมัดแน่น และเงยหน้ามองไปที่ญาธิดา มองหน้ากับเธอด้วยแววตาแจ่มใส ผ่านไปสองวิ เขาได้หันไปที่เค แววตาแฝงด้วยความเย็นชาที่แหลมคม “นายแตะต้องเธอ?”
เลือดบนตัวเธอ แดงจนบาดตา!
“เป็นไปได้ยังไง?”เคแกล้งยกมืออย่างบริสุทธิ์ใจ “ผู้หญิงเมนส์มา เลือดพวกนั้นไม่เกี่ยวกับฉันเลย ก่อนที่เรื่องจะคุยสำเร็จ ฉันไม่ลงมือง่ายๆหรอก”
ภวินท์ชายตามองลูกน้องสิบกว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเค แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “แล้วนายอยากจะเอายังไง?”
คนพวกนี้ ล้วนพกอาวุธติดตัวกันทุกคน ถ้าเขามาไม้แข็ง ใช่ว่าไม่มีทางวิ่งหนี แต่ญาธิดาถูกจับมัดไว้อยู่ เขาไม่กล้าทำอะไรซี้ซั้ว
เรื่องมาจนถึงวันนี้ ได้แต่ทำตามความต้องการของเค
เคก็ไม่รีบร้อน ได้จุดซิก้าขึ้นมาหนึ่งมวน อยู่ท่ามกลางควันที่ฟุ้งกระจาย เขาได้หรี่ตามองภวินท์อย่างละเอียด ดวงตาเฉี่ยวคมเหมือนเหยี่ยวแฝงด้วยความเย็นชา
ภวินท์มองกลับไปอย่างไม่ยอมให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองแย่กว่า แววตาดำเข้มปกคลุมด้วยน้ำแข็งชั้นนึง ทั้งสองเผชิญหน้ากันอย่างเงียบๆ
ในที่สุดเคก็ได้แสยะยิ้มมุมปาก พร้อมพูดเสียงเคร่งขรึม “มาร์ตินเป็นคนของฉัน นายแตะต้องไม่ได้ ถึงแตะต้อง ก็ต้องปล่อย”
ระหว่างพูด เนื้อตรงแก้มของเขากระตุก สีหน้าค่อนข้างร้ายกาจ พร้อมด้วยเขาเดินมาข้างหน้า ดวงตานกเหยี่ยวมองหน้ากับเขา “นายลงมือในถิ่นของฉัน ก็คือขี้ใส่บนหัวฉัน นายคิดว่าฉันจะทนได้เหรอ?”
ริมฝีปากบางของภวินท์แน่นขึ้น ดวงตาดำเข้มที่ลึกเหมือนสระน้ำเย็นคู่นั้นยิ่งมีอันตรายแฝงอยู่ทุกที่
ไม่รอให้เขาพูด จู่ๆหูฟังขนาดเล็กก็มีเสียงของหลุยส์ดังขึ้น “วิน ประจำที่เรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวลงมือได้เลย”
ภวินท์กระแอมเสียงเบาทีนึง แต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาเงยหน้า เดินผ่านผู้คนที่อยู่ตรงหน้า มองไปทางญาธิดาที่อยู่บนกระดานปาเป้า
รับรู้ได้ถึงสายตาของผู้ชาย ญาธิดาฝืนฮึกเหิมขึ้นมา เธอฟังไม่ชัดว่าพวกเขากำลังสื่อสารอะไร แต่รู้สึกได้ว่าบรรยากาศเฝตึงเครียดและกดดัน
เคมองไปตามสายตาของภวินท์ เห็นญาธิดาแล้วแสยะยิ้มมุมปาก “ไม่ว่าวันนี้นายจะจับมาร์ตินได้หรือเปล่า ถ้าอยากพาคนไป ก็ต้องเล่นเกมส์กับฉัน”
อุตส่าห์หาทางล่อเสือเข้าถ้ำได้ แค่บีบให้เขาปล่อยมาร์ตินอย่างเดียวมันไม่สนุกหรอก เขาอยากดูว่าภวินท์จะมีความสามารถมากแค่ไหนมากกว่า
ภวินท์ถามด้วยเสียงเคร่งขรึม “เกมส์อะไร?”
เขารู้ดีว่าเข้าถ้ำเสือแล้ว เคไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆหรอก
เคส่งสัญญาณ ไอ้หัวล้านที่อยู่ข้างได้ยกถาดมาใบนึงทันที ในนั้นมีลูกดอกที่สามารถใช้เป็นอาวุธลับวางเรียงเป็นแถว หัวลูกดอกมีแสงวิบวับ ขนนกหลากสีทั้งเรียวทั้งยาว มีทั้งหมดห้าหกดอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...