เธอขยับริมฝีปากให้ชมพู่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอเค จะไปเดี๋ยวนี้ !”
ระหว่างทางที่ไปโรงอาหารพนักงาน ชมพู่คุยไม่หยุด ล้วนเป็นข่าวซุบซิบในบริษัทที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง ญาธิดาไม่สนใจ แต่ก็ไม่อยากจะทำลายความสุขของชมพู่ จึงรับคำไปอย่างนั้นเพื่อร่วมมือเธอในการแสดงออก
“ใช่แล้วธิดา คุณได้ดูการสนทนากลุ่มของบริษัทไหม ได้ยินว่าวันนี้แฟนสาวของคุณภวินท์ของพวกเรามาที่บริษัท!”
ญาธิดากำลังเหม่อลอย เมื่อได้ยินคำว่า “คุณภวินท์” ได้สติคืนมาทันที ถามกลับไปโดยไม่รู้ตัวว่า “คุณพูดอะไรนะ?”
ดวงตาชมพู่ลุกวาว พูดซ้ำอีกครั้งอย่างตื่นเต้นว่า “ฉันบอกว่าแฟนสาวของคุณภวินท์มาแล้ว ได้ยินว่าสวยมากด้วย!”
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกลังเลเล็กน้อย
แฟนสาว น่าจะหมายถึงนิวรา
แม้ว่าข้างกายของภวินท์น่าจะยังมีผู้หญิงคนอื่นอยู่ แต่ว่าสำหรับเขาแล้วนิวราน่าจะเป็นคนที่พิเศษที่สุดและมีค่าที่สุด ไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะไม่แต่งงานกับเธอเพื่อหาแหล่งไตให้เธอ
ญาธิดากัดฟันแล้วเอาเรื่องพวกนั้นโยนทิ้งไปจากหัวสมอง และก็ไม่อยากจะคิดมากด้วย จูงมือชมพู่แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ชมพู่ เรารีบไปโรงอาหารกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”
เมื่อคืนเธอเพิ่งตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะรักษาระยะห่างกับภวินท์ ดังนั้นเรื่องพวกนี้ก็ไม่ควรจะไปคิดมากอีก
แต่บางครั้งโลกนี้กลับไม่ได้เป็นไปตามที่ปรารถนา ยิ่งไม่อยากจะเป็นแบบไหน ความจริงก็จะได้แบบนั้น
ญาธิดากับชมพู่เพิ่งจะเดินออกมาจากโรงอาหารได้ไม่ไกล เห็นคนสองสามคนเดินเข้ามาหาจากที่ไกลๆ สองคนที่เดินนำหน้าเป็นหนุ่มหล่อสาวสวย
เสมือนเป็นคู่สร้างคู่สม ถ้าไม่ใช่ภวินท์กับนิวราแล้วจะเป็นใคร?
ผู้หญิงที่เดินเคียงข้างผู้ชายนั้นดูเชื่อฟัง มีรอยยิ้มจางๆ ดวงตาเป็นประกาย ส่วนภวินท์นั้นมีท่าทางอ่อนโยนที่ยากจะเผยให้เห็น กำลังใจจดใจจ่อฟังผู้หญิงข้างกายกำลังพูดอะไรบางอย่าง
ทุกอย่างดูเหมือนกำลังดี ที่ไม่ดีคือญาธิดากับชมพู่กำลังเดินไปเผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มันรู้สึกอึดอัดเกินไปแล้ว
ญาธิดาก้มหน้าต่ำลง ท่าเดินและฝีเท้าให้เบาที่สุด หวังเพียงแค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นมนุษย์ล่องหน ที่ถูกพวกเขามองข้ามโดยสิ้นเชิง
จู่ๆ ชมพู่ที่อยู่ข้างๆ ก็ยื่นศอกออกมาสะกิดเธอ ลดเสียงลงต่ำแล้วพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ธิดา รีบดู!”
ญาธิดาเงยหน้าโดยไม่รู้ตัว เห็นภวินท์กับนิวรายืนอยู่ตรงหน้าไม่ไกลออกไป ได้หยุดฝีเท้าลงแล้ว นิวรายื่นมือขาวออกมา กำลังส่งยิ้มแล้วช่วยภวินท์จับเนทไทตรงหน้าอกให้ตรง ส่วนชายหนุ่มนั้นกำลังยิ้มหน้าเบิกบาน มองดูนิวราด้วยสายตารักและเอ็นดู
เมื่อเห็นภาพนี้ ญาธิดากัดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว มีความรู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจ
ชมพู่ที่อยู่ข้างๆ อดที่จะอุทานไม่ได้ “โอ๊ยพระเจ้า มันหวานเกินไปแล้ว!สายตาคุณภวินท์อ่อนโยนมาก!”
เมื่อญาธิดาได้ยินเช่นนั้น มุมปากมีความขมขื่น
ปกติภวินท์เป็นคนจริงจังและเย็นชา อย่าว่าล้อเล่นเลย เกรงว่าแม้แต่สีหน้าดีใจก็ไม่เป็น กับเธอยิ่งไม่เคยรักและเอ็นดูอย่างอ่อนโยนมาก่อน
เป็นไปตามคาด ประโยคนั้นพูดไม่ผิด การจะรักใครสักคนนั้นสามารถดูได้จากสายตาของเขา
ญาธิดาได้สติคืนมา มองดูชมพู่ที่อยู่ข้างๆ เธอกล่าวเสียงเบาว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
ชมพู่พยักหน้า ทั้งสองจึงเดินเคียงข้างกันไปทางข้างหน้า
อีกด้านหนึ่ง ภวินท์หันหลังแล้วเห็นญาธิดา ดวงตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่บนใบหน้ายังคงเย็นชาเหมือนเดิม แล้วเดินไปทางข้างหน้าพร้อมกับนิวรา
นิวราคล้องแขนเขาไว้อย่างสนิทสนม แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่วิน จู่ๆ นิวก็นึกถึงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่พี่พานิวไปกินข้าวที่โรงอาหารของมอ……”
ญาธิดาที่จูงมือชมพู่กำลังเดินเข้ามาใกล้พอดี เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ในใจก็รู้สึกหึงหวงเล็กน้อย
ที่แท้ภวินท์กับนิวราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว...........
เห็นว่าใกล้จะเดินสวนทางกับพวกเขาแล้ว ใครจะคิดว่าเวลานี้ น้ำเสียงไพเราะเสนาะหูของหญิงสาวดังขึ้นมา “คุณญาธิดา?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...