เมื่อชายคนนั้นได้ยินก็ชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะจ้องมองเธออย่างดุร้าย “เมื่อวาน! คุณดูสิ ยังมีวันที่ในเวชระเบียนนี่ด้วย!”
ญาธิดาเดินหน้าไปครึ่งก้าวแล้วถามว่า “ถ้าอย่างนั้นขอถามหน่อยคุณเคยเข้าไปที่แผนกหลังการขายหรือเปล่า”
ชายคนนั้นหยุดชะงัก ร่องรอยของความตื่นตระหนกปรากฏบนใบหน้า “ไม่...ไม่ได้ไป! โทรไปแล้วพวกเขาไม่รับสาย!”
“จริงเหรอ” ญาธิดามองตรงไปที่ชายคนนั้น “ถ้าฉันเป็นคุณ ถ้ามือลูกของฉันโดนบาด ฉันจะพาเขาไปโรงพยาบาลก่อน แล้วจึงไปพูดคุยที่แผนกหลังการขายโดยตรง แต่คุณไม่แม้แต่ไปที่แผนกหลังการขาย แล้ววันต่อมาก็วิ่งโร่มาที่งานผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา ดูจะไม่สมเหตุสมผลนะ”
เมื่อเธอพูดเช่นนี้ ชายคนนั้นมีสีหน้าทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ฝูงชนที่อยู่โดยรอบอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วย
มีที่ไหนพอเกิดเรื่องแล้วไม่ไปแผนกหลังการขายแต่มางานกิจกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อน มันน่าสงสัยจริงๆ นั่นแหละ...
ญาธิดาเห็นว่าชายคนนั้นพูดไม่ออก จึงหยิบผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาส่งสัญญาณให้ทุกคนดู “ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากและออกวางขายหลังจากการตรวจสอบความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าสินค้านี้จะมีใบมีดแบบเกลียวก็ตาม แต่ตัวเกลียวทำมาจากวัสดุพิเศษ ขนาดพอดีมือ หากตรวจพบสิ่งแปลกปลอมมันจะไม่ทำงานเลย ต่อให้สอดนิ้วเข้าไปก็จะไม่ถูกบาด”
ชายคนนั้นได้ฟังแล้วจึงส่งเสียงเยาะดูถูก “ในเมื่อคุณมั่นใจอย่างนั้น งั้นคุณก็สอดนิ้วเข้าไปแสดงให้พวกเราดู! พิสูจน์สิว่าสิ่งที่คุณพูดมามันจริงหรือเท็จ!”
ฉับพลันนั้น สายตาของทุกคนในฝูงชนต่างเพ่งเล็งไปที่ญาธิดา
ในความเป็นจริง ข้อโต้แย้งทั้งหมดโน้มน้าวใจไม่เท่าการปฏิบัติจริง
ญาธิดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก้มมองผลิตภัณฑ์ใหม่ในมือ และมองรูระบายความร้อนที่ด้านล่าง แล้วอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจ
ความรู้ทางทฤษฎีที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดของเธอมาจากกองข้อมูลที่พี่แนนมอบให้ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุยังแสดงให้เห็นปัจจัยด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ด้วย แต่ในทางปฏิบัติมันจะทำอันตรายต่อคนหรือไม่ เธอเองก็ไม่รู้
แต่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเทคโนโลยีโบรุยเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา ปัญหาด้านความปลอดภัยเป็นปัญหาพื้นฐานที่สุด และไม่ควรมีข้อผิดพลาดร้ายแรงเช่นนี้
ชายคนนั้นที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงเยาะ “ดูสิ ตัวเธอเองยังไม่กล้าเลย! แล้วยังจะมาพูดอะไรอีก!”
“ใครบอกว่าฉันไม่กล้า”
ญาธิดามองเขา พลิกผลิตภัณฑ์กลับด้าน เอานิ้วชี้กับนิ้วกลางใส่เข้าไปด้วยกัน
ผู้คนรายล้อมโดยรอบ บางคนยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกวิดีโอ และรอดูผลลัพธ์
อะไรจะน่าตื่นเต้นไปกว่าการทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ด้วยเนื้อมนุษย์
บางคนถึงกับเริ่มถ่ายทอดสดเพื่อแสดงสถานการณ์ล่าสุดให้ชาวเน็ตได้เห็นแบบเรียลไทม์
ภายใต้ความสนใจของทุกคน ญาธิดาตัดใจกดปุ่มสวิตช์ที่ด้านบนของผลิตภัณฑ์
ในขณะที่ผลิตภัณฑ์กำลังทำงานดัง “ครืน!” อยู่ครู่หนึ่ง ญาธิดาพลันรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ปลายนิ้ว เธอตัวสั่น และปล่อยมือโดยไม่รู้ตัว จนผลิตภัณฑ์ตกลงพื้น
ผู้คนที่อยู่ข้างๆ ต่างตกใจ ญาธิดาแทบจะได้ยินเสียงสูดหายใจจากฝูงชน
เธอก้มศีรษะลงและเห็นที่มือซ้ายของตัวเอง นิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งสองนิ้วถูกบาดเลือดไหล เลือดหยดลงพื้น ดวงตาแดงก่ำ
ในตอนนั้น สิ่งที่เจ็บที่สุดไม่ใช่นิ้วทั้งสอง แต่เป็นหัวใจของเธอ
คิดไม่ถึงว่าจะจบแบบนี้
มีทั้งเสียงถากถางและเปรมปรีดิ์จากฝูงชน บางคนก็กระจัดกระจายกันไป พูดจาเยาะเย้ย “ฉันไปดีกว่า ผลิตภัณฑ์แบบนี้ ยังจะกล้าเอาออกมาขาย!”
“ขายขี้หน้าจริงๆ! ฉันไม่กล้าซื้อแล้ว!”
“ไปๆๆ รีบไป ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเทคโนโลยีโบรุยไม่ได้เรื่อง”
“……….”
ชายคนนั้นที่อยู่ข้างๆ มองญาธิดาอย่างเยาะเย้ย และถามกลับว่า “หึ! โดนผลิตภัณฑ์ของตัวเองบาดแล้ว คุณยังมีอะไรจะพูดอีก!”
ญาธิดารู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าวในฉับพลัน แต่ร่างกายกลับเหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็นจัด
เธอใช้ตัวเองทำการทดลอง ไม่เพียงแต่คืนความยุติธรรมให้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้ กลับกันยังทำให้บริษัทเทคโนโลยีโบรุยตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอายมากขึ้นอีกด้วย เธอทำให้แบรนด์แปดเปื้อนจนไม่มีชิ้นดี และไม่มีหนทางกอบกู้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...