ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 258

ตอนที่ญาธิดาได้รับโทรศัพท์ของพี่แนน คุรหมอเพิ่งตรวจอาการให้ยติภัทรเสร็จพอดี

ตอนที่รู้ว่ายติภัทรฟื้นตัวดีมาก ญาธิดาและปภาวีก็ยิ้มออกมาจากใจจริง

นี่หมายความว่าการดูแลในช่วงนี้ของพวกเขาได้ผลดีมาก ถึงแม้ยังไม่ทำการผ่าตัด อย่างน้อยก็ผ่านสถานการณ์ไม่คาดฝันครั้งก่อนไป ยติภัทรฟื้นตัวมากๆ เลย

“กริ้งๆๆ——”

มองเห็นชื่อของพี่แนนปรากฏบนมือถือ ญาธิดาลนลานอยู่บ้าง ตอนที่ลังเลว่าจะรับหรือไม่ ยติภัทรที่อยู่ด้านข้างก็ถามว่า “ใครโทรมา ทำไมไม่รับ?”

ญาธิดาบุ้ยปาก พูดเบาๆ ว่า “ที่บริษัทโทรมาค่ะ”

ยติภัทรพูดแนะนำเสียงเบา “รีบรับสิ นี่ลูกไม่ได้ไปทำงานอาทิตย์หนึ่งแล้ว ควรกลับไปได้แล้ว”

ญาธิดาพยักหน้า ลุกขึ้นยืน เดินไปรับโทรศัพท์ด้านนอกห้องคนไข้ “ฮัลโหลค่ะ พี่แนน”

“ธิดา จะกลับมาบริษัทเมื่อไร?” พี่แนนไม่พูดอ้อมค้อม พูดอย่างตรงไปตรงมา “ครั้งก่อนเธออยากขอลาหยุดห้าวัน วันทำงานบวกกับวันหยุดก็อาทิตย์หนึ่งแล้ว ธุระของเธอทางนั้นจัดการเป็นอย่างไรบ้าง?”

ญาธิดาสูดหายใจลึก ลังเลครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ใกล้เสร็จแล้วค่ะ”

จะเอาแต่หนีแบบนี้ตลอดไม่ได้ ถึงแม้เธออยากอยู่เป็นเพื่อนบิดาต่อไปแค่ไหน แต่สุดท้ายยังต้องกลับไปทำงานอยู่ดี

พี่แนนพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ดี งั้นวันนี้เธอจัดการสักหน่อย พรุ่งนี้กลับมาบริษัทเถอะ ช่วงนี้ในแผนกงานเยอะมาก คนทำงานไม่พอจริงๆ”

“ค่ะ”

วางสายโทรศัพท์ ญาธิดากลับมาห้องคนไข้แบบผิดหวังอยู่บ้าง ยติภัทรถามขึ้น เธอจึงรายงานเขาตามความเป็นจริง

ยติภัทรพูดปลอบด้วยเสียงละมุน “ธิดา มีแม่ของลูกอยู่เป็นเพื่อนข้างกายพ่อ ลูกไม่ต้องเป็นห่วง เข้าใจไหม? ลูกกลับไปทำงาน ดีเลวยังไงที่บ้านพวกเราก็มีรายได้เพิ่มส่วนหนึ่ง”

“หนูเข้าใจค่ะ”

เหตุผลพวกนี้เธอรู้ดีแน่นอน แต่พอนึกถึงว่าจะไม่สามารถอยู่ข้างกายบิดาได้ ในใจยังเสียใจอยู่บ้างไม่น้อย

ยังดีที่ตอนนี้ยติภัทรฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว เธอจึงวางใจได้บ้าง

ทำจิตใจตนเองให้ดี ญาธิดาก็สงบลงแล้ว กลับไปที่พักเร็วหน่อย เพื่อเตรียมตัวทำงานวันพรุ่งนี้

มีบางที่สงบจนไม่มีลมสักนิด แต่มีบางที่กลับเกิดความรุนแรงและความขัดแย้งไม่หยุด

หน้าประตูใหญ่บริษัทวรโชติ ผู้คนมากมาย วุ่นวายจนเละเทะไปหมดแล้ว

ไม่รู้ว่าแรงงานจากที่ไหนมารวมตัวกัน ขึงป้ายขึ้น ถือกระบองไว้ เรียกร้องสิทธิเพื่อตนเอง

ชนัดพลอยู่ในห้องทำงาน มองภาพของกล้องวงจรปิด ขมวดคิ้วแน่น

เรื่องนี้ มีท่าทีจะควบคุมไม่อยู่

“คนของทีมรักษาความปลอดภัยไร้ความสามารถกันหรือไง!” ปริญด่าอย่างโมโหอยู่ด้านข้าง “ทำไมคนนับวันยิ่งมากขึ้น? ดูเรื่องสนุกอะไรกัน! แม่งเอ๊ย!”

ปริญยกมือตบบนโต๊ะอย่างแรง โกรธจนลุกขึ้นเดินเข้ามา “พ่อครับ! ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?”

ชนัดพลสีหน้าขึงขังจนน่าตกใจ ดวงตาฉลาดเฉียบแหลมคู่หนึ่งแพร่กระจายแสงเย็นยะเยือก ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร

เรื่องนี้ มองย้อนไปเดิมทีต้องโทษเขา

เพราะโครงการของThe Riversideเงินทุนไม่พอ ดึงผู้ร่วมงานมาไม่ได้ ตอนนี้โครงการเริ่มต้นแล้ว อาศัยเพียงแค่กำลังของบริษัทวรโชติพวกเขาเองนั้นเดิมทีไม่พอ แต่เขาอยากทำโครงการให้เสร็จเสียเหลือเกิน คนที่คุมคนงานเข้ามารายงานกับเขา บอกว่าสามารถใช้ลูกไม้เล็กๆ น้อยๆ ประหยัดต้นทุน ไปหาแรงงานบางส่วนจ่ายเงินน้อยทำงานหนัก ให้พวกเขาทำงาน ช่วงทดลองครบกำหนดก็เลิกจ้าง เท่ากับว่าหาผลประโยชน์เข้าตนจากช่องว่างกฎหมายแรงงาน ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย

เขาไม่ได้แจ้งเจตนารมณ์อย่างชัดเจน แต่ก็หลับตาข้างเดียวจริงๆ นึกไม่ถึงว่า แรงงานที่โดนเลิกจ้างเหล่านั้นรวมตัวเป็นพันธมิตร และเข้ามาเรียกร้อง

นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขากลุ้มใจอย่างยิ่ง ถ้าเรื่องนี้บานปลาย กลัวแต่ว่าThe Riversideโครงการนี้ยิ่งไม่มีทางทำต่อไป

“ปริญ” ชนัดพลบิดคิ้ว พูดว่า “แกลงไป เจรจากับตัวแทนของพวกเขา บอกว่าพวกเรายินยอมดำเนินการชดใช้ความเสียหายของพวกเขา ดับไฟครั้งนี้ลงมาก่อน”

ปริญได้ยินดังนั้น รีบพยักหน้ารับปากอย่างไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย “ได้ครับ ผมจะไปเอง”

ทันใดนั้นชนัดพลหันหน้ามา เตือนสติด้วยเสียงเย็นยะเยือก “จำไว้ อย่าวู่วาม!”

ปริญสัญญาอย่างจริงใจ “ผมเข้าใจครับ พ่อ ให้ผมทำเถอะครับ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์