ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 273

บรรยากาศก็ดูอึดอัดขึ้นทันที แต่นิวรากลับมีสีหน้าปกติ หัวเราะกลบเกลื่อน หันมามองญาธิดา โบกมือทักทายกับเธอ “ ชงชาเสร็จหรือยัง เป็นชาอู่หลงพีชไหม ”

ชาอู่หลงพีชเป็นชาที่นิวราชื่นชอบ

ญาธิดาหันมามอง พยักหน้า ก้มหน้ามองพื้น เดินเข้าไป

เมื่อวางถาดลง เธอค่อยๆหยิบกาน้ำชาและแก้วชา ยิ้มมุมปากให้กับพวกเขาและพูดว่า “ เชิญดื่มให้อร่อยนะคะ”

พูดจบ ก็หันหลังเดินกลับไป

ภวินท์ได้แต่จ้องมองเงาด้านหลังของหญิงสาว รู้สึกถึงความไม่สบายใจ

แต่เดิม เขาคิดว่าเธอจะอารมณ์ไม่ดี คิดไม่ถึงว่า อารมณ์ของเธอไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

เดินออกจากสำนักงาน ก็ปิดประตู ญาธิดาที่รู้สึกตัวเกร็งก็เริ่มผ่อนคลายลงบ้าง เธอกัดฟัน รู้สึกหางตาแฉะๆ เอามือขึ้นมาลูบ ถึงจะเห็นว่าหางตามีน้ำตา

เธอเป็นอะไร ทำไมถึงร้องไห้ออกมา

ญาธิดาได้แต่ส่ายหน้า เร่งฝีเท้ากลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง และปิดประตู

ทำไมเธอถึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ คิดให้ละเอียด ทุกครั้งที่ภวินท์เข้าใกล้เธอ หัวใจเธอก็อดไม่ได้ที่จะเต้นแรงๆ ตอนที่ได้ยินเขากับนิวราจะหมั้นหมายกัน เธอเสียใจอย่างมาก และเมื่อกี้ ตอนที่เห็นนิวราจูบกับเขา สมองเธอถึงกับว่างเปล่า ในอกเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ

ความจริง เธอก็เป็นห่วงภวินท์ ถ้าพูดตามตรง ในใจเธอก็มีเขา

เมื่อรับรู้ถึงความจริง ญาธิดาก้มหน้าลง เอามือสองข้างปิดหน้า น้ำตาไหลซึมออกมาระหว่างนิ้ว........

ในที่สุด เธอรู้สึกดีกับภวินท์ คนที่ไม่ควรจะรู้สึกดีกลับรู้สึกดี เธอไม่กล้าจะนึกถึงความเจ็บปวดหลังจากนี้

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เธอจึงค่อยๆปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ หยิบกระดาษทิชชูเช็ดน้ำตา พยายามดึงสติอีกครั้ง

สามารถรักใครสักคนได้ ก็ต้องลืมเขาให้ได้เช่นกัน ก็เหมือนเธอกับจิณณ์ เคยรักเขามากตอนอยู่มหาวิทยาลัย ตอนหลังเมื่อได้มาเจอกันอีก ก็ไม่มีความรู้สึกแล้วนี่

เมื่อคิดแบบนี้ ญาธิดาก็รู้สึกดีกว่าเดิม

บังเอิญตอนนั้นโทรศัพท์ภายในที่อยู่บนโต๊ะดังขึ้นมาพอดี เธอจึงรีบรับสาย“ ฮัลโหล คุณภวินท์ มีธุระอะไรไหมคะ”

เสียงชายหนุ่มทุ้มต่ำดังมาจากปลายสาย “ มาที่ห้องทำงานผมหน่อย”

ญาธิดาได้ตอบรับ วางสายโทรศัพท์ ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เดินไปยังห้องทำงานของเขา

ตอนที่ผลักประตูเข้าไป นิวรายังก็ยังอยู่ หล่อนยืนอยู่ที่ข้างโต๊ะทำงาน หัวเราะกับภวินท์เหมือนคุยอะไรกันอยู่ สีหน้าดูสดชื่น ยิ้มสดใสเหมือนดอกไม้บาน

ญาธิดารีบหลบสายตา เดินไปข้างหน้าถามว่า “ คุณภวินท์ จะสั่งงานอะไรเหรอคะ”

“ นำเอกสารฉบับนี้ไปส่งที่ไทเฮงกรุ๊ป ไปถึงตรงนั้นจะมีคุณฌอนที่เป็นผู้จัดการกำลังรอคุณอยู่ จะต้องส่งเอกสารให้เขากับมือคุณเอง ”

ญาธิดารับคำ “ ค่ะ”

นิวราที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินคำว่า“ไทเฮงกรุ๊ป” สีหน้าดูเปลี่ยนไป อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองซองกระดาษคราฟท์สีน้ำตาลที่ใส่เอกสารอยู่หลายครั้ง

ณ เวลานี้ ภวินท์ได้เปิดลิ้นชัก หยิบกุญแจรถที่อยู่ข้างในออกมา วางลงบนซองเอกสาร “ ขับรถบริษัทไปนะ จอดที่บริเวณจอดรถสาธารณะที่ชั้นใต้ดิน หาหมายเลขก็ได้แล้ว”

“ ค่ะ ”

ญาธิดารับคำ แอบรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่า จู่ ๆภวินท์ให้เธอขับรถบริษัทไปส่งเอกสารหนึ่งฉบับ

ดูๆไปแล้ว เอกสารฉบับนี้คงสำคัญมากๆ ก็คงด่วนมาก

เป็นอย่างที่คิดไว้ ภวินท์เน้นย้ำว่า “ไปเลยตอนนี้ รีบไปส่งเอกสารก่อน ”

ญาธิดาพยักหน้า หยิบกุญแจรถพร้อมซองเอกสารขึ้นมา รีบเดินออกจากห้องสำนักงาน

นิวราตาเป็นประกาย จู่ ๆก็คิดอะไรบางอย่างออกมา

หล่อนพูดคุยเป็นเพื่อนภวินท์อยู่สองสามประโยค จึงเอ่ยปากพูดว่า “ พี่วิน กินข้าวเสร็จแล้ว พี่ก็พักผ่อนหน่อยเถอะ นิวจะเก็บของ ถึงเวลาต้องกลับแล้ว”

ภวินท์พยักหน้าเล็กน้อย มองไปที่หล่อนถามว่า “ ให้พี่ไปส่งไหม”

“ ไม่ต้องค่ะ”

นิวรายิ้มหวาน รีบเก็บกล่องความร้อนที่อยู่บนโต๊ะใส่ลงในกระเป๋า วิ่งไปกอดชายหนุ่ม หลังจากจึงเดินออกจากห้องสำนักงาน

เมื่อออกจากห้องสำนัก หล่อนไม่รีรอที่จะเร่งฝีเท้าด้วยความเร็ว รีบเดินไปตรงประตูลิฟต์

เมื่อเห็นญาธิดาที่ยืนรออยู่ลิฟต์อยู่ตรังนั้น หล่อนถอนหายใจโล่งออกมา และรีบไปข้างหน้าพูดว่า “ ธิดา”

ญาธิดาหันมามอง เมื่อเห็นหล่อน “ คุณนิว ”

คิดไม่ถึงว่านิวราจะรีบกลับขนาดนี้ ไม่อยู่เป็นเพื่อนภวินท์นานๆเหรอ

นิวราจึงพูดต่ออีกว่า “ ธิดา คุณจะไปไทเฮงกรุ๊ปใช่ไหม ฉันจะไปคริสตัล เซ็นเตอร์ ฉันติดรถไปด้วยได้ไหม ”

เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของญาธิดา หล่อนหัวเราะและอธิบายว่า “ คนขับรถที่มาส่งฉันมีธุระจึงกลับไปก่อน ต้องรอพักใหญ่ถึงจะมารับฉันได้ พอดีฉันจะไปซื้อของ ฉันติดรถไปด้วยละกัน ทางผ่านพอดี”

ความต้องการของนิวราสมเหตุสมผล ญาธิดาก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ เธอทำได้แค่พยักหน้า ตอบรับ “ ค่ะ”

ลิฟต์มาถึงพอดี พอประตูเปิด เธอจึงก้าวขึ้นไป จึงไม่เห็นนิวรายิ้มเยาะเย้ยอยู่มุมปาก

เมื่อขึ้นรถ ญาธิดาวางซองเอกสารตรงเก้าอี้นั่งข้างคนขับ ค่อยๆสตาร์ทรถ ขับออกไปจากโรงจอดรถใต้ดิน

นิวราได้แต่เหลือบมองซองเอกสาร ชวนคุยโน้นคุยนี่กับญาธิดา

ผ่านไปครึ่งทาง นิวราหยิบโทรศัพท์ออกมา รีบกดส่งไปสองสามข้อความ

นิวราหัวเราะเบาๆพูดว่า “ ธิดา วันหลังพวกเราไปชอปปิ้งด้วยกันเถอะ กระโปรงที่คุณเลือกให้ฉันครั้งก่อนฉันชอบมากเลยนะ”

เมื่อญาธิดาได้ยิน จึงตอบรับไปว่า “ ค่ะ”

ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่ตอนไหน นิวราเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกเธอ ราวกับว่าเขาสองคนสนิทกันมากๆ เธอก็พูดอะไรไม่ได้

รถกำลังผ่านทางแยก จู่ ๆถูกตำรวจจราจรดักเอาไว้ ญาธิดาจอดรถไว้ข้างทาง ลดกระจกรถ มองตำรวจจราจรที่ยืนอยู่นอกกระจกด้วยความสงสัย “ มีอะไรเหรอคะ”

“ ช่วยแสดงใบขับขี่ของคุณหน่อยครับ”

เมื่อญาธิดาได้ยิน ก็รู้สึกไม่ดี ปกติเธอก็ไม่ค่อยจะขับรถ จึงไม่ได้พกใบขับขี่ติดตัวไว้ ไม่คิดว่าจะบังเอิญขนาดนี้ โดนตำรวจจับได้อีก

ญาธิดาถอนหายใจลึกๆ หลังจากที่ค้นหาในกระเป๋าแล้ว ดูคนที่ยืนอยู่นอกหน้าต่าง จู่ ๆก็ไม่รู้จะทำยังไงดี

นิวราที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังได้เลิกคิ้ว ถามอย่างเย็นชาว่า “ ไม่ได้พกใบขับขี่มาเหรอ ฉันจำได้ว่าในโทรศัพท์มีรูปถ่ายใบขับขี่ลองหาดูสิ คุณลงไปถามตำรวจจราจรก่อนก็ได้นะ ดูว่าใช้ได้หรือเปล่า ”

เมื่อญาธิดาได้ยิน ด้วยความตกใจจึงไม่ได้คิดอะไรถี่ถ้วน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาผลักประตูลงไป เข้าไปอธิบายกับตำรวจจราจร

สีหน้าของตำรวจจราจรดูไม่ดีสักเท่าไหร่ เมื่อได้ยินว่าญาธิดาไม่ได้พกใบขับขี่มา จึงรีบทำการสั่งสอนทันที

ในตอนนั้น นิวราสูดหายใจเข้าลึกๆ ยื่นมือไปหยิบเอกสารที่วางอยู่ตรงเก้าอี้ข้างคนขับ เปิดซองเอกสาร ดึงเอกสารจากข้างในออกมา

ที่จริง หล่อนก็เดาไม่ผิด เป็นแผนธุรกิจความร่วมมือระหว่างSTN Groupกับไทเฮงกรุ๊ป

ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่เข้าใจในความร่วมมือร่วมกับบริษัทในส่วนนี้ แต่อยู่ในบริษัทของครอบครัวก็คุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี หล่อนก็รู้ว่าเอกสารฉบับนี้คืออะไร และช่วงนี้ข่าวความร่วมมือระหว่างSTN Groupกับไทเฮงกรุ๊ปก็ได้แพร่ไปทั่ว หล่อนต้องทำความเข้าใจสักหน่อยแล้ว

และสำหรับหล่อนแล้ว ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาส เป็นการถ่วงโอกาสดีๆของญาธิดาเอาไว้

นิวราหยิบโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋าทันที เล็งกล้องไปที่เอกสาร รีบถ่ายรูปเก็บไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ญาธิดาจะกลับมา ได้ใส่เอกสารกลับเข้าไป วางเอกสารไว้ที่เดิม

หล่อนรู้ดีว่าการที่ทำแบบนี้กับSTN Groupหมายถึงอะไร แค่ต้องการที่จะทำให้ภวินท์เอือมระอาญาธิดา หล่อนจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์