ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 275

เมื่ออัญมณีได้ยิน จึงอดหัวเราะไม่ได้ “เจอผู้ชายที่ถูกใจ คงมีเฉพาะในความฝันเถอะ”

สองคนหัวเราะหันสนุกสนาน แยกย้ายกันที่ทางแยก ต่างคนก็ต่างกลับบ้าน

ได้กินข้าวเย็นกับอัญมณีด้วยกันหนึ่งมื้อ ญาธิดาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย หลังจากกลับถึงบ้านอาบน้ำเรียบร้อย พอถึงเตียงก็หลับทันที

เช้าตรู่ในวันถัดมา เมื่อถึงสำนักงาน CEO ญาธิดาทำงานที่ควรทำเสร็จก่อนเวลา ก็กลับห้องทำงานจัดเรียงเอกสาร

วันนี้ช่วงเช้า ภวินท์ไม่มาบริษัท ตามกำหนดงาน วันนี้ตอนเช้าเขาไปเซ็นสัญญาที่ไทเฮงกรุ๊ป ตอนเที่ยงต้องกินข้าวกับคู่สัญญา ในช่วงเช้าจึงมาไม่ได้

ภวินท์ไม่มาบริษัท งานของญาธิดาก็เบามือลงนิดหน่อย เธอได้พักอย่างมีความสุข ตอนที่กำลังจะไปห้องชาเพื่อต้มชามาดื่มในแก้ว ใครจะไปรู้ว่าลูกเกดได้วิ่งมาด้วยความลนลาน

“ ยะ... แย่แล้วค่ะคุณญาธิดา เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

ลูกเกดกระหืดกระหอบ วิ่งมาถึงที่ประตูและเห็นญาธิดา เกือบจะหยุดวิ่งไม่ทัน

เมื่อญาธิดาเห็นดังนั้น ก็ขมวดคิ้ว รีบถามทันทีว่า “ เป็นอะไรไปคุณลูกเกด ใจเย็นๆค่อยๆพูด”

ลูกเกดยื่นโทรศัพท์ตัวเองส่งไปด้านหน้าอย่างลุกลี้ลุกลน “ คุณ.....คุณดูข่าวนี้ซิ แผนความร่วมมือของบริษัทพวกเรากับไทเฮงกรุ๊ปล่มแล้ว”

เมื่อได้ยินลูกเกดพูดเช่นนั้น ญาธิดาถึงกับตกใจ เหมือนกับมีบางอย่างระเบิดที่ข้างหู เป็นเสียงดังปั้ง

ไม่กี่วินาที เธอกลับมามีสติ รีบยื่นมือไปรับโทรศัพท์ เปิดอ่านข่าวด้านบน “ยกเลิกพิธีการลงนามสัญญาระหว่างSTN Group กับไทเฮงกรุ๊ปสันนิษฐานว่าแผนดำเนินงานถูกเปิดโปง”

เธอมือสั่น ปัดหน้าจอเลื่อนลงด้านล่าง “จับประเด็นกันที่ความร่วมมือระหว่างSTN Group กับไทเฮงกรุ๊ป ช่วงเวลาที่มีการลงนามเซ็นสัญญาของวันนี้ได้ถูกยกเลิกกะทันหัน รายละเอียดแผนธุรกิจสันนิษฐานว่าจะถูกเปิดโปง ความลับของSTN Groupได้ถูกเป็นประเด็นข้อสงสัย........”

คำที่อยู่ด้านล่างญาธิดาตัดสินใจที่จะไม่อ่าน และก็พอจะเดาอะไรได้อยู่บ้าง

ถือเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่อง

ยังเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่น่าตกใจไปทั่วเมือง J

เมื่อข่าวนี้แพร่ออกมา คงเป็นเรื่องจริงแน่ ๆ ก็พูดได้ว่า ครั้งนี้ก็เหลืออีกขั้นตอนเดียวก็สามารถลงทุนสำเร็จเป็นโครงการใหญ่ 700 ล้าน เหมือนกับเป็นการเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์

ญาธิดาไม่กล้าจินตนาการถึงอารมณ์ของภวินท์ช่วงเวลานี้ว่าจะเป็นยังไง แล้วก็แผนธุรกิจของบริษัทถูกเปิดโปงได้ยังไง หรือว่าบริษัทมีสายลับเหรอ

คำถามต่างๆนานาได้เกิดขึ้นในหัวญาธิดา ผ่านไปพักใหญ่ เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

จนลูกเกดได้เรียกเธอ เธอถึงมีสติอีกครั้ง “ อะไรนะ”

“ ฉันพูดว่า ต้องโทรหาคุณภวินท์ถามดูสักหน่อยไหม ทางบริษัทจะต้องเตรียมอะไรไหม”

ลูกเกดมีไหวพริบดี คิดได้รอบคอบ แต่หล่อนคิดแบบนี้กลับไม่ถูกต้อง

ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ เงียบไปพักใหญ่ พูดช้าๆว่า “ ไม่ต้อง ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าภวินท์ตกอยู่ในสภาวะแบบไหน ยังไม่ต้องรีบโทรศัพท์จะดีกว่า หากมีอะไรที่ทางบริษัทจะต้องจัดเตรียม เขาต้องสั่งการให้คนแจ้งประกาศแน่นอน ”

เมื่อลูกเกดได้ยิน จึงพยักหน้า รีบถามต่อว่า “ ถ้าอย่างนั้นคุณญาธิดา ท่านประธานของพวกเราจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้นะซิ”

เมื่อเห็นลูกเกดมีท่าทีกังวล ญาธิดาก็ขมวดคิ้วทันที รู้สึกสับสน เรื่องมาถึงตอนนี้ ข่าวก็โดนแฉ เรื่องนี้ไม่นานกระจายในบริษัทแน่ ๆ คงหนีไม่พ้นคำวิจารณ์และความคาดเดาจากพนักงานในบริษัท

ตอนนั้น ไม่ควรสับสนที่สุดก็คือใจคน ภวินท์รับมือกับเรื่องนี้อยู่ด้านนอก บริษัทเกิดเรื่องแบบนี้ กลัวแค่ว่าจะลุกลามกันไปใหญ่

ญาธิดากัดฟัน เงยหน้ามองลูกเกด สูดหายใจลึกๆและพูดว่า “คุณลูกเกด ที่ต้องทำจริงๆก็คือ คุณไปเขียนอีเมลในนามสำนักงานCEOหนึ่งฉบับ ส่งให้ภายในบริษัท แจ้งทุกคนไม่ต้องตกใจ คุณภวินท์กำลังหาวิธีแก้ไขปัญหา ปลอบใจทุกคน ”

ลูกเกดสายตาเป็นประกาย รีบพยักหน้า “ โอเค ฉันจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้”

เมื่อเห็นลูกเกดเดินออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน ความรู้สึกของญาธิดาเหมือนกับมีอะไรกดทับที่ไหล่ ขนาดหายใจยังติดๆขัดๆ

เรื่องนี้แปลกยิ่งนัก

ทำไมจู่ ๆ ความร่วมมือของสองบริษัทตอนที่จะสมบูรณ์แล้วแผนธุรกิจถึงถูกเปิดโปง และแผนธุรกิจก็ผ่านมือเธอส่งไปยังไทเฮงกรุ๊ป ก่อนหน้านี้ก็อยู่ที่ภวินท์ตลอด พูดตามเหตุผล ไม่ควรจะเกิดปัญหา

หรือว่า.......

ญาธิดาตาเป็นประกาย จู่ ๆก็คิดอะไรออก รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที

ไม่ได้ เธอต้องไปหาภวินท์ ถามให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ในเวลาต่อมาหลังจากนี้ ญาธิดาได้รวบรวมพลังที่มีอยู่ในตัวทั้งหมด เมื่อได้ยินเสียงจากด้านนอกห้องทำงาน เธอลุกขึ้นทันทีเปิดประตูดูว่าภวินท์กลับมาหรือยัง แต่ก็รออยู่พักใหญ่ ยังไม่เห็นเขากลับมาเลย

เมื่อลูกเกดทำธุระที่ญาธิดามอบหมายเรียบร้อยแล้ว จึงมารายงานกับญาธิดาทันที “ คุณญาธิดา หลังจากส่งอีเมลไปแล้ว ความจริงพอจะเกิดประโยชน์บ้าง แต่คุณภวินท์ไม่กลับมา ฉันก็ตกใจอยู่ไม่น้อย ”

ญาธิดากลับไม่เป็นเช่นนั้น ณ เวลานี้ เธอไม่สามารถสับสนอะไรทั้งนั้น เธอกำลังจะปลอบใจลูกเกด อยู่ไม่กี่ประโยค ใครจะไปรู้ว่าฝั่งประตูลิฟต์มีเสียงดังจอแจขึ้นมา เมื่อเธอเงยไปดู เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางนี้

เป็นผู้บริหารชั้นสูงของบริษัททั้งนั้น สีหน้าพวกเขาดูเคร่งขรึม จับกลุ่มซุบซิบเหมือนคุยอะไรกัน เดินผ่านห้องสำนักงานCEO ไปอย่างรวดเร็ว ตรงไปทางฝั่งห้องประชุม

ญาธิดารู้สึกกดดัน เงยหน้ามองไปดูด้านหลัง กลับไม่เห็นเงาของคนที่อยากจะเจอ

ดูเหมือนว่าจะเป็นการประชุมด่วนของผู้บริหารชั้นสูง ผู้บริหารได้มาครบทุกคนแล้ว แต่กลับไม่เห็นเงาของภวินท์

เธอกำลังสงสัย ใครจะไปรู้ว่าเสียงของลูกเกดดังจากๆข้างๆว่า “ คุณภวินท์มาแล้ว”

ญาธิดารีบหันไปตามเสียง เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางนี้ ภวินท์เดินอยู่ตรงกลาง ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าดูจริงจัง ก้าวฝีเท้าด้วยความเร่งรีบ เหมือนแผ่กลิ่นอายของความเย็นชาไปทั่วร่างกาย

ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองภวินท์ที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องประชุม เธอจึงรีบตามขึ้นไปทันที

เมื่อถึงประตู พายุหันมามองเธอ พูดน้ำเสียงจริงจังว่า“ คุณญาธิดา ตอนนี้ยังไม่ต้องการให้คุณอยู่ร่วมประชุม ”

ญาธิดากัดริมฝีปาก “ แต่ว่า.......”

“ กลับไปที่สำนักงานCEOก่อน”

ขณะที่พายุกำลังพูด ก็ได้ปิดประตูห้องประชุมจากด้านใน ญาธิดาไม่รู้จะทำยังไง หันกลับไปมองพักหนึ่ง หลังจากนั้นเดินไปสำนักงานCEO

ดูท่าทีแล้ว เรื่องนี้รุนแรงกว่าที่เธอคิดไว้

ท่าทีของพายุเมื่อกี้นี้ เย็นชาเอามากๆ ทำให้เธอคิดไปต่างๆนา

ภวินท์คงไม่คิดว่าแผนธุรกิจถูกเปิดโปงมาจากมือเธอหรอกนะ

เธอคิดวกไปวนมาอยู่พักใหญ่ ก็ยิ่งไม่แน่ใจ เดินไปเดินมาอยู่ในห้องทำงานนานพอสมควร ได้แต่บังคังตัวเองหาอะไรทำไปก่อน

ไม่ทันรู้ตัว ได้ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆแล้ว

ญาธิดาเดินไปห้องน้ำ เรื่องราวเหล่านั้นยังติดอยู่ในใจ ไม่อาจจะลืมได้

ณ ตอนนี้ ที่หน้าประตูห้องน้ำก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาพร้อมกัน เสียงเปิดกระเป๋า เสียงล้างมือเกิดขึ้นพร้อมกัน

ญาธิดาอยู่ในห้อง กำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงมาจากด้านนอก “ เฮ้อ ฉันได้ยินมาว่าแผนธุรกิจครั้งนี้ได้เปิดโปงก็เพราะบริษัทพวกเรามีสายลับนะซิ”

หญิงสาวคนหนึ่งพูดแบบมีลับลมคมใน

“ สายลับ แกรู้เหรอว่าเป็นใคร”

“ ได้ยินว่าเป็นเลขาคนหนึ่งของสำนักงานCEO แผนธุรกิจฉบับบนี้เคยผ่านมือเธอ ก็ถูกเปิดโปงแบบนี้ ไม่ใช่หล่อนแล้วจะเป็นใคร”

“ เลขาคนไหนละ เลขาสำนักงานCEOก็คุณนวิยาไง คนอื่นก็มีเป็นผู้ช่วยทั้งนั้น ”

“ เฮ้ยแกยังไม่รู้อีกเหรอ คุณนวิยาลาไปแต่งงานแล้ว ตอนนี้เป็นเลขาที่เพิ่งย้ายไปจากแผนกธุรการ”

“……”

ญาธิดารู้สึกกดดันขึ้นทันที เธอขมวดคิ้ว ความรู้สึกแปลกๆก็เพิ่มขึ้น

ตอนนี้สำนักงานCEOมีเลขาอยู่คนเดียว ไม่ใช่หล่อนหรอกเหรอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์