เมื่ออัญมณีได้ยิน จึงอดหัวเราะไม่ได้ “เจอผู้ชายที่ถูกใจ คงมีเฉพาะในความฝันเถอะ”
สองคนหัวเราะหันสนุกสนาน แยกย้ายกันที่ทางแยก ต่างคนก็ต่างกลับบ้าน
ได้กินข้าวเย็นกับอัญมณีด้วยกันหนึ่งมื้อ ญาธิดาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย หลังจากกลับถึงบ้านอาบน้ำเรียบร้อย พอถึงเตียงก็หลับทันที
เช้าตรู่ในวันถัดมา เมื่อถึงสำนักงาน CEO ญาธิดาทำงานที่ควรทำเสร็จก่อนเวลา ก็กลับห้องทำงานจัดเรียงเอกสาร
วันนี้ช่วงเช้า ภวินท์ไม่มาบริษัท ตามกำหนดงาน วันนี้ตอนเช้าเขาไปเซ็นสัญญาที่ไทเฮงกรุ๊ป ตอนเที่ยงต้องกินข้าวกับคู่สัญญา ในช่วงเช้าจึงมาไม่ได้
ภวินท์ไม่มาบริษัท งานของญาธิดาก็เบามือลงนิดหน่อย เธอได้พักอย่างมีความสุข ตอนที่กำลังจะไปห้องชาเพื่อต้มชามาดื่มในแก้ว ใครจะไปรู้ว่าลูกเกดได้วิ่งมาด้วยความลนลาน
“ ยะ... แย่แล้วค่ะคุณญาธิดา เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
ลูกเกดกระหืดกระหอบ วิ่งมาถึงที่ประตูและเห็นญาธิดา เกือบจะหยุดวิ่งไม่ทัน
เมื่อญาธิดาเห็นดังนั้น ก็ขมวดคิ้ว รีบถามทันทีว่า “ เป็นอะไรไปคุณลูกเกด ใจเย็นๆค่อยๆพูด”
ลูกเกดยื่นโทรศัพท์ตัวเองส่งไปด้านหน้าอย่างลุกลี้ลุกลน “ คุณ.....คุณดูข่าวนี้ซิ แผนความร่วมมือของบริษัทพวกเรากับไทเฮงกรุ๊ปล่มแล้ว”
เมื่อได้ยินลูกเกดพูดเช่นนั้น ญาธิดาถึงกับตกใจ เหมือนกับมีบางอย่างระเบิดที่ข้างหู เป็นเสียงดังปั้ง
ไม่กี่วินาที เธอกลับมามีสติ รีบยื่นมือไปรับโทรศัพท์ เปิดอ่านข่าวด้านบน “ยกเลิกพิธีการลงนามสัญญาระหว่างSTN Group กับไทเฮงกรุ๊ปสันนิษฐานว่าแผนดำเนินงานถูกเปิดโปง”
เธอมือสั่น ปัดหน้าจอเลื่อนลงด้านล่าง “จับประเด็นกันที่ความร่วมมือระหว่างSTN Group กับไทเฮงกรุ๊ป ช่วงเวลาที่มีการลงนามเซ็นสัญญาของวันนี้ได้ถูกยกเลิกกะทันหัน รายละเอียดแผนธุรกิจสันนิษฐานว่าจะถูกเปิดโปง ความลับของSTN Groupได้ถูกเป็นประเด็นข้อสงสัย........”
คำที่อยู่ด้านล่างญาธิดาตัดสินใจที่จะไม่อ่าน และก็พอจะเดาอะไรได้อยู่บ้าง
ถือเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่อง
ยังเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่น่าตกใจไปทั่วเมือง J
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกมา คงเป็นเรื่องจริงแน่ ๆ ก็พูดได้ว่า ครั้งนี้ก็เหลืออีกขั้นตอนเดียวก็สามารถลงทุนสำเร็จเป็นโครงการใหญ่ 700 ล้าน เหมือนกับเป็นการเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์
ญาธิดาไม่กล้าจินตนาการถึงอารมณ์ของภวินท์ช่วงเวลานี้ว่าจะเป็นยังไง แล้วก็แผนธุรกิจของบริษัทถูกเปิดโปงได้ยังไง หรือว่าบริษัทมีสายลับเหรอ
คำถามต่างๆนานาได้เกิดขึ้นในหัวญาธิดา ผ่านไปพักใหญ่ เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
จนลูกเกดได้เรียกเธอ เธอถึงมีสติอีกครั้ง “ อะไรนะ”
“ ฉันพูดว่า ต้องโทรหาคุณภวินท์ถามดูสักหน่อยไหม ทางบริษัทจะต้องเตรียมอะไรไหม”
ลูกเกดมีไหวพริบดี คิดได้รอบคอบ แต่หล่อนคิดแบบนี้กลับไม่ถูกต้อง
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ เงียบไปพักใหญ่ พูดช้าๆว่า “ ไม่ต้อง ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าภวินท์ตกอยู่ในสภาวะแบบไหน ยังไม่ต้องรีบโทรศัพท์จะดีกว่า หากมีอะไรที่ทางบริษัทจะต้องจัดเตรียม เขาต้องสั่งการให้คนแจ้งประกาศแน่นอน ”
เมื่อลูกเกดได้ยิน จึงพยักหน้า รีบถามต่อว่า “ ถ้าอย่างนั้นคุณญาธิดา ท่านประธานของพวกเราจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้นะซิ”
เมื่อเห็นลูกเกดมีท่าทีกังวล ญาธิดาก็ขมวดคิ้วทันที รู้สึกสับสน เรื่องมาถึงตอนนี้ ข่าวก็โดนแฉ เรื่องนี้ไม่นานกระจายในบริษัทแน่ ๆ คงหนีไม่พ้นคำวิจารณ์และความคาดเดาจากพนักงานในบริษัท
ตอนนั้น ไม่ควรสับสนที่สุดก็คือใจคน ภวินท์รับมือกับเรื่องนี้อยู่ด้านนอก บริษัทเกิดเรื่องแบบนี้ กลัวแค่ว่าจะลุกลามกันไปใหญ่
ญาธิดากัดฟัน เงยหน้ามองลูกเกด สูดหายใจลึกๆและพูดว่า “คุณลูกเกด ที่ต้องทำจริงๆก็คือ คุณไปเขียนอีเมลในนามสำนักงานCEOหนึ่งฉบับ ส่งให้ภายในบริษัท แจ้งทุกคนไม่ต้องตกใจ คุณภวินท์กำลังหาวิธีแก้ไขปัญหา ปลอบใจทุกคน ”
ลูกเกดสายตาเป็นประกาย รีบพยักหน้า “ โอเค ฉันจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้”
เมื่อเห็นลูกเกดเดินออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน ความรู้สึกของญาธิดาเหมือนกับมีอะไรกดทับที่ไหล่ ขนาดหายใจยังติดๆขัดๆ
เรื่องนี้แปลกยิ่งนัก
ทำไมจู่ ๆ ความร่วมมือของสองบริษัทตอนที่จะสมบูรณ์แล้วแผนธุรกิจถึงถูกเปิดโปง และแผนธุรกิจก็ผ่านมือเธอส่งไปยังไทเฮงกรุ๊ป ก่อนหน้านี้ก็อยู่ที่ภวินท์ตลอด พูดตามเหตุผล ไม่ควรจะเกิดปัญหา
หรือว่า.......
ญาธิดาตาเป็นประกาย จู่ ๆก็คิดอะไรออก รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
ไม่ได้ เธอต้องไปหาภวินท์ ถามให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ในเวลาต่อมาหลังจากนี้ ญาธิดาได้รวบรวมพลังที่มีอยู่ในตัวทั้งหมด เมื่อได้ยินเสียงจากด้านนอกห้องทำงาน เธอลุกขึ้นทันทีเปิดประตูดูว่าภวินท์กลับมาหรือยัง แต่ก็รออยู่พักใหญ่ ยังไม่เห็นเขากลับมาเลย
เมื่อลูกเกดทำธุระที่ญาธิดามอบหมายเรียบร้อยแล้ว จึงมารายงานกับญาธิดาทันที “ คุณญาธิดา หลังจากส่งอีเมลไปแล้ว ความจริงพอจะเกิดประโยชน์บ้าง แต่คุณภวินท์ไม่กลับมา ฉันก็ตกใจอยู่ไม่น้อย ”
ญาธิดากลับไม่เป็นเช่นนั้น ณ เวลานี้ เธอไม่สามารถสับสนอะไรทั้งนั้น เธอกำลังจะปลอบใจลูกเกด อยู่ไม่กี่ประโยค ใครจะไปรู้ว่าฝั่งประตูลิฟต์มีเสียงดังจอแจขึ้นมา เมื่อเธอเงยไปดู เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางนี้
เป็นผู้บริหารชั้นสูงของบริษัททั้งนั้น สีหน้าพวกเขาดูเคร่งขรึม จับกลุ่มซุบซิบเหมือนคุยอะไรกัน เดินผ่านห้องสำนักงานCEO ไปอย่างรวดเร็ว ตรงไปทางฝั่งห้องประชุม
ญาธิดารู้สึกกดดัน เงยหน้ามองไปดูด้านหลัง กลับไม่เห็นเงาของคนที่อยากจะเจอ
ดูเหมือนว่าจะเป็นการประชุมด่วนของผู้บริหารชั้นสูง ผู้บริหารได้มาครบทุกคนแล้ว แต่กลับไม่เห็นเงาของภวินท์
เธอกำลังสงสัย ใครจะไปรู้ว่าเสียงของลูกเกดดังจากๆข้างๆว่า “ คุณภวินท์มาแล้ว”
ญาธิดารีบหันไปตามเสียง เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางนี้ ภวินท์เดินอยู่ตรงกลาง ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าดูจริงจัง ก้าวฝีเท้าด้วยความเร่งรีบ เหมือนแผ่กลิ่นอายของความเย็นชาไปทั่วร่างกาย
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองภวินท์ที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องประชุม เธอจึงรีบตามขึ้นไปทันที
เมื่อถึงประตู พายุหันมามองเธอ พูดน้ำเสียงจริงจังว่า“ คุณญาธิดา ตอนนี้ยังไม่ต้องการให้คุณอยู่ร่วมประชุม ”
ญาธิดากัดริมฝีปาก “ แต่ว่า.......”
“ กลับไปที่สำนักงานCEOก่อน”
ขณะที่พายุกำลังพูด ก็ได้ปิดประตูห้องประชุมจากด้านใน ญาธิดาไม่รู้จะทำยังไง หันกลับไปมองพักหนึ่ง หลังจากนั้นเดินไปสำนักงานCEO
ดูท่าทีแล้ว เรื่องนี้รุนแรงกว่าที่เธอคิดไว้
ท่าทีของพายุเมื่อกี้นี้ เย็นชาเอามากๆ ทำให้เธอคิดไปต่างๆนา
ภวินท์คงไม่คิดว่าแผนธุรกิจถูกเปิดโปงมาจากมือเธอหรอกนะ
เธอคิดวกไปวนมาอยู่พักใหญ่ ก็ยิ่งไม่แน่ใจ เดินไปเดินมาอยู่ในห้องทำงานนานพอสมควร ได้แต่บังคังตัวเองหาอะไรทำไปก่อน
ไม่ทันรู้ตัว ได้ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆแล้ว
ญาธิดาเดินไปห้องน้ำ เรื่องราวเหล่านั้นยังติดอยู่ในใจ ไม่อาจจะลืมได้
ณ ตอนนี้ ที่หน้าประตูห้องน้ำก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาพร้อมกัน เสียงเปิดกระเป๋า เสียงล้างมือเกิดขึ้นพร้อมกัน
ญาธิดาอยู่ในห้อง กำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงมาจากด้านนอก “ เฮ้อ ฉันได้ยินมาว่าแผนธุรกิจครั้งนี้ได้เปิดโปงก็เพราะบริษัทพวกเรามีสายลับนะซิ”
หญิงสาวคนหนึ่งพูดแบบมีลับลมคมใน
“ สายลับ แกรู้เหรอว่าเป็นใคร”
“ ได้ยินว่าเป็นเลขาคนหนึ่งของสำนักงานCEO แผนธุรกิจฉบับบนี้เคยผ่านมือเธอ ก็ถูกเปิดโปงแบบนี้ ไม่ใช่หล่อนแล้วจะเป็นใคร”
“ เลขาคนไหนละ เลขาสำนักงานCEOก็คุณนวิยาไง คนอื่นก็มีเป็นผู้ช่วยทั้งนั้น ”
“ เฮ้ยแกยังไม่รู้อีกเหรอ คุณนวิยาลาไปแต่งงานแล้ว ตอนนี้เป็นเลขาที่เพิ่งย้ายไปจากแผนกธุรการ”
“……”
ญาธิดารู้สึกกดดันขึ้นทันที เธอขมวดคิ้ว ความรู้สึกแปลกๆก็เพิ่มขึ้น
ตอนนี้สำนักงานCEOมีเลขาอยู่คนเดียว ไม่ใช่หล่อนหรอกเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์