ธมนหันไปมองจิณณ์ที่อยู่ด้านข้าง พลันหันไปมองเธอและยิ้มพูด “ที่เรามาหาคุณในครั้งนี้ คือตั้งใจมาขอโทษคุณโดยเฉพาะค่ะ”
ญาธิดาที่มึนงงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และวันนี้ยังมาได้ยินว่าธมนต้องการมาขอโทษ ยิ่งไม่เข้าใจหนักขึ้นกว่าเก่า
อาศัยความเข้าใจของเธอที่มีต่อธมนกับจิณณ์แล้ว อย่าพูดว่ามาขอโทษเลย พวกเขาเกลียดเธอเข้าไส้จนอยากจะเตะให้เข้าไปอยู่ในกองขยะโสมม แล้วทำไมถึงได้มาก้มหน้าก้มตาแสดงท่าทางขอโทษขอโพยต่อเธอด้วยล่ะ
ไม่รอให้เธอถามกลับธมนที่อยู่ด้านข้างก็ใช้แขนกระทุ้งจิณณ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ และส่งสายตาเป็นสัญญาณ
จิณณ์ย่นคิ้วหากัน “ธิดาจ๋า เรื่องเมื่อครั้งที่แล้วพวกเราทำผิดไปแล้ว คนใจกว้างอย่างคุณคงไม่คิดบัญชีกับเรานะ ครั้งนี้ยกโทษให้พวกเราเถอะ ฉันกับนินเสียใจกับเรื่องที่ทำลงไปแล้วจริงๆ”
ญาธิดากำหมัดแน่น “ยกโทษให้พวกคุณเหรอ? คนที่ทำร้ายฉันก็คือพวกคุณ ซึ่งพวกคุณก็คือคนที่ให้น้ำเพชรมาจัดการฉันด้วย คำพูดนี้ไม่ควรจะเป็นฉันพูดกับพวกคุณถึงจะถูกใช่ไหม?”
จิณณ์ได้ยินคำพูดนั้นแล้ว สีหน้าดำหน้าแดง “ธิดา พวกเรายอมรับนะเรื่องครั้งที่แล้วพวกเราทำเกินไปแล้ว แต่เพราะเรื่องนี้แหละ ภวินท์ถึงบีบบริษัทของตระกูลโชติอภิจินดาจนหมดหนทาง จนห่วงโซ่ทุนแตก หรือว่ามันดูไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
ญาธิดาถึงกับตกตะลึงทันที “อะไรนะ?”
ภวินท์บีบบริษัทของตระกูลโชติอภิจินดาจนหมดหนทางงั้นเหรอ?
ธมนที่อยู่ด้านข้างพูดตอบรับทันที “ใช่ๆ ธิดา! ตราบใดที่คุณให้อภัยกับพวกเรา คุณอยากได้อะไรเป็นของชดเชย พวกเราจะพยายามทำให้คุณพอใจถึงที่สุด!”
ญาธิดาสมองอื้ออึง แม้ผ่านไปชั่วครู่ก็ยังคิดไม่ออก
เธอรู้แค่ว่าหลังจากเกิดเรื่องนั้นแล้ว ภวินท์ไม่เคยถามไถ่เรื่องของธมนกับจิณณ์เลย ซึ่งสำหรับเรื่องของการหมุนเวียนของเงินทุนของบริษัทของตระกูลโชติอภิจินดาเธอก็ไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นเธอไม่มีอากัปกิริยาตอบสนองอยู่นาน ธมนจึงเริ่มหมดความอดทน เธอผลักจิณณ์เล็กน้อย พลันจ้องมองเขาตาเขม็ง
จิณณ์เข้าใจ แม้ว่าจะไม่ยินยอมพร้อมใจก็ตาม แต่ก็ยังแสดงท่าทางพูดเกลี้ยกล่อมญาธิดาอย่างสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน “ธิดาจ๋า คุณเป็นคนจิตใจดีเช่นนั้น ต้องไม่อยากเห็นผมกับนินกลายเป็นคนจรจัดไม่มีที่ซุกหัวนอนใช่มั้ย? อีกทั้งตระกูลโชติอภิจินดาก็ไม่ใช่มีแค่พวกเราสองคน คนในครอบครัวของพวกเราต่างเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งนั้น!”
เขาทั้งพูดไป และยื่นมือออกมา จับมือของญาธิดาเอาไว้ “ถือว่าเห็นแก่มิตรภาพของพวกเราสองคนก่อนหน้านี้ คุณช่วยไปขอร้องให้คุณภวินท์เห็นอกเห็นใจหน่อยเถอะ! จะได้ไหมธิดา?
ญาธิดาถูกเขาจับมืออย่างกะทันหัน จนรู้สึกตัวสั่นเทาทันที ขนพองสยองเกล้าทันที เธอรีบดึงมือตัวเองออก และก้าวถอยหลังเล็กน้อย “ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้สักนิด”
จิณณ์ยังพูดต่อ “ธิดาคุณต้องการให้ผมคุกเข่าขอร้องคุณใช่ไหม?”
ชั่วขณะนั้น ญาธิดาเองก็ไม่รู้ว่าทำอย่างไรดี จิณณ์เห็นว่าเธอทำสีหน้าลังเล จึงก้าวเท้าหลังไปหนึ่งก้าวและคุกเข่าลงทันที
“อย่า!” ญาธิดารีบก้าวถอยหลัง “ฉัน...จะช่วยคุณ! ฉันจะช่วยคุณพูดกับเขาให้...”
แววตาจิณณ์ปรากฏความยินดีออกมา และรีบลุกขึ้นทันที “ธิดาผมรู้ว่าคุณเป็นคนที่มีความเมตตาที่สุดแล้ว!”
ธมนเองก็พูดด้วยสีหน้าทั้งเซอร์ไพรส์ “ธิดาเรื่องนี้พวกเราก็ต้องฝากคุณแล้วนะ!”
ญาธิดาเห็นพวกเขาพูดขอบคุณไม่หยุดปาก จนเกิดความรู้สึกสับสน ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่มองพวกเขาเดินหันหลังกลับไป ถึงค่อยๆ เรียกสติกลับคืนมาได้
เรื่องนี้ถ้าเป็นจริงตามนั้น ซึ่งตัวเธอเองยังรู้สึกว่าไม่ควรอยู่บ้าง แม้ว่าธมนจะเป็นคนจิตใจชั่วร้าย คอยยุยงให้เธอตกหลุมพราง ทว่าไม่มีความจำเป็นต้องจัดการโดยการดึงคนทั้งบริษัทมาเกี่ยวข้องด้วย
ญาธิดาเม้มริมฝีปาก พลางหันตัว และขึ้นลิฟต์ด้วยความสับสน
หลังจากกลับมาถึงห้องทำงานแล้ว จิตใจเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในหัวสมองก็คอยครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ไม่จบไม่สิ้น
หลังจากครุ่นคิดไปมา ญาธิดานิ่งนอนใจไม่ได้อีกแล้ว ประจวบเหมาะกับทางแผนกธุรการมีเอกสารต้องส่งไปยังห้องทำงานของท่านประธาน จึงอาศัยโอกาสนี้ไปถามเรื่องนี้กับภวินท์ให้รู้เรื่อง
เมื่อมาถึงห้องทำงานของท่านประธานแล้ว ญาธิดาเคาะประตูและเดินเข้าไป หลังจากวางเอกสารเรียบร้อยแล้ว ทว่าไม่มีทีท่าจะเดินออกไป
ภวินท์จับสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ จึงเงยหน้าพลางจึงเห็นญาธิดาที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานที่กำลังจ้องเขาตาเขม็ง
วินาทีนั้น ทั้งสองคนประสานสายตากัน หัวใจญาธิดาทรุดฮวบ เพียงรู้สึกว่าความสดใสทั่วห้องมากระจุกอยู่ที่ตัวของผู้ชายคนนี้แล้ว ส่วนนัยน์ตาอันลึกซึ้งของเขาคู่นั้น ยิ่งเรียกความดึงดูดของตัวเธอไปหมดตัว
“มีเรื่องอะไรอีก?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...