ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 319

ค่ำคืนนี้ ญาธิดานอนไม่ค่อยหลับ

ตั้งแต่ตนเองวิ่งจากใต้คอนโดกลับขึ้นมานั้น เธอก็พลิกตัวไปมาทำยังไงก็นอนไม่หลับ กระทั่งลากยาวไปถึงค่อนคืนไปแล้ว เธอถึงหลับสนิท

อาจจะเป็นเพราะว่านอนไม่หลับ เธอนอนหลับไม่เพียงพอ จนสุดท้ายนอนจนตะวันแทงตา แต่สิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้ก็คือ เธอมาทำงานสาย

เธอตาลีตาเหลือกรีบถ่อมาถึงบริษัท จนมาถึงห้องทำงาน ก็เห็นโต๊ะว่างเปล่า จนเริ่มแปลกใจ

ชมพู่ที่อยู่ด้านข้างเห็นเหตุการณ์นั้นแล้ว ก็อ้าปากพูดอธิบายทันที “ธิดา พี่แนนบอกกับฉันแล้ว เธอพูดว่าแกมีงานอื่นที่ต้องไปทำ เรื่องงานพวกนี้ก็ยกให้ฉันทำก่อน”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ญาธิดาถึงได้ฉุกคิดถึงคำพูดเหล่านั้นที่พี่แนนได้พูดกับตัวเองเมื่อวานนี้

พี่แนนพูดว่าเบื้องบนได้กำชับนักหนา ให้เธอจัดการเรื่องที่จะให้คิรินมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ได้แล้วค่อยว่ากัน

ดูเหมือนว่า การที่คิรินมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก

ญาธิดาพยักหน้าเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้พูดอะไรมาก พร้อมทั้งวางสิ่งของในมือลง และเริ่มอ่านตารางงานของคิรินทันที

ครั้งที่แล้วคิรินพูดว่าขอคิดดูก่อน แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเธอก็ยังไม่ได้ข่าวคราวใดๆของเขาตอบกลับมาเลย ดูเหมือนว่า ต้องให้เธอออกหน้าไปรบรับจับศึกถึงจะได้เรื่อง

ซึ่งตามข้อมูลตารางงานที่เขียนเอาไว้ วันนี้คิรินจะอยู่ที่กองถ่ายตลอดทั้งวัน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็เขาไปงมอยู่ในเพจกลุ่มแฟนคลับของคิริน หลังจากได้ข้อมูลที่แน่ชัดแล้ว จึงเก็บข้าวของและออกจากบริษัททันที

ในเมื่อคิรินไม่ยอมเจอหน้าเธอ งั้นเธอก็ต้องเสนอหน้าไปหาเขาสิ

เมื่อถึงโรงกองถ่ายในเมืองJ ญาธิดามาถึงกองถ่ายเล็กๆที่ไม่รู้ว่าชื่ออะไรที่อยู่ด้านข้างพร้อมทั้งเดินอยู่ในนั้นหนึ่งรอบ จนได้ป้ายพนักงานมา จากนั้นก็มุ่งหน้าเดินไปยังสถานที่ที่เป็นเป้าหมาย นั่นก็คือ กองละครหอศิลปะ

เนื่องจากป้ายพนักงานระหว่างกองถ่ายลักษณะใกล้เคียงกัน ญาธิดาเอาป้ายพนักงานด้านหน้าไปอยู่ด้านใน การทำเช่นนี้ เมื่อคนอื่นเห็นว่าบนคอเธอมีป้ายพนักงานอยู่ จึงไม่ได้ซักไซ้อะไรมาก อีกทั้งเมื่อเอามาเปรียบเทียบแล้วถือว่าสร้างความสะดวกสบายขึ้นมาก

ซึ่งไม่นอกเหนือไปกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ตอนที่ญาธิดาเดินยืดหลังตรงเข้าไปในกองถ่ายละครหอศิลปะอย่างสะใจนั้น แทบไม่มีคนห้ามเธอเลย

ญาธิดาแอบดีใจ จากนั้นก็กวาดตามองบริเวณโดยรอบ เพื่อควานหาตัวคิรินท่ามกลางเครื่องมือและกลุ่มคน หลังจากสอดส่องหาอยู่นาน ในที่สุดเธอก็เห็นตัวของเขาแล้ว

เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้สนามตรงขั้นบันได เหนือศีรษะยังมีร่มกางไว้หนึ่งคัน ทางด้านข้างยังมีโต๊ะเล็กๆที่วางเครื่องดื่มไว้อย่างครบครัน เมื่อเอาเปรียบเทียบกันแล้ว บรรดานักแสดงที่กำลังพักผ่อนอยู่อีกฝั่ง กลับนั่งกับพื้น เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับการปรนนิบัติกับเขายังทิ้งห่างอยู่ไม่ใช่แค่น้อยๆ

ญาธิดาแอบถอยหายใจเบาๆอยู่เฮือกใหญ่ จากนั้นก็ก้าวฝีเท้าเดินอ้อมกลุ่มคนเข้าไป และค่อยๆขยับเข้าหาคิรินจากทางด้านนอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พี่เอที่เป็นผู้จัดการไม่ได้อยู่ด้านข้าง มีแค่ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ด้านข้าง คิรินก้มหน้าก้มตามอง โทรศัพท์ทางวางแนวนอน เหมือนกำลังเล่นเกมอยู่

ผู้จัดการดื่มน้ำอึกหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมทั้งพูดว่า “พี่คิริน ผมขอไปห้องน้ำแปบหนึ่งนะ”

คิรินกำลังสนใจกับการเล่นเกมอยู่ จึงตอบรับไป “อื้อ”

พอผู้จัดการเดินไป ญาธิดาก็เดินอ้อมมาจากทางด้านหลัง จนเขยิบเข้ามาใกล้คิรินอย่างไร้วี่แวว จังหวะที่เขากำลังเล่นเกมและมีคนระเบิดหัวนั้น จึงแอบสบถด่าออกมาด้วยความโกรธเคือง พร้อมทั้งเหล่ตามองเงาที่อยู่ด้านข้าง จนพูดออกมาอย่างหมดอารมณ์ “เอาผ้าเปียกให้ผมหน่อย”

ญาธิดาตกตะลึง พร้อมทั้งตั้งสติได้ทันมีว่าเขาคิดว่าเธอเป็นผู้ช่วยแล้วแหละ เธอหัวเราะออกมา จากนั้นก็หยิบผ้าเปียกออกมาจากกล่องที่อยู่ด้านข้าง เพื่อยื่นส่งให้เขา

คิรินยื่นมือมารับทั้งที่ไม่หันหน้ามามอง พอหยิบผ้าเปียกห่อนั้นได้แล้ว จู่ๆเหมือนฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงหันกลับมาทันควัน เมื่อมองเห็นญาธิดา เขาตะลึงทันที พลันย่นคิ้วหากัน “ทำไมถึงเป็นคุณ?”

ญาธิดายกมุมปากยิ้มให้จางๆ “ฉันมาเยี่ยมไงคะ”

“เยี่ยมเหรอ?” คิรินนั่งหลังตรง ราวกับแพ้เกมรอบจึงพูดอย่างหมดความอดทน “คุณมาเยี่ยมมือเปล่าแบบนี้เนี่ยนะ?”

ญาธิดาได้ยิน จนหัวเราะออกมาอย่างเขินอาย พร้อมกระซิบพูด “คุณคิริน ฉันมีจุดประสงค์อะไรคุณยังไม่เข้าใจอีกหรือคะ? เรื่องพรีเซนเตอร์ของredeur คุณลองคิดทบทวนดูหน่อยนะ”

คิริน ดึงผ้าเปียกมาเช็ดมือ จากนั้นก็พ่นอารมณ์ดูถูกออกจากจมูกพร้อมทั้งพูดขึ้น “ทำแค่นี้ก็อยากให้ผมตกปากรับคำคุณแล้วเหรอ?”

ญาธิดาอ้าปากถามตามสถานการณ์ทันที “งั้น...คุณอยากจะให้ทำยังไงคะ?”

ดวงตาคิรินเปล่งประกาย หลังจากอึ้งอยู่พริบตาเดียว เขาก็เอียงคอมองเธอ และยกมุมปากพูดขึ้น “ผมอยากดื่มกาแฟ คุณออกไปซื้อสิ”

ไม่เสียงแรงที่เป็นดาราเลย คิรินเอียงคอยิ้มให้เธอแบบนี้ จนทำให้เธอตะลึงอย่างไม่รู้ตัว

จนสามารถพูดได้เต็มปาก หน้าตาของเขา ถือว่าหน้าตาดีอย่างไร้ที่ติจริงๆ

เธอแสดงอากัปกิริยาตอบกลับมาอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นจึงพยักหน้าและพูดขึ้น “ตกลงค่ะ ฉันจะไปซื้อให้เดี๋ยวนี้เลย”

ตราบใดที่เขายอมตกลงเป็นพรีเซนเตอร์ให้redeur กาแฟแค่แก้วเดียวมันจะสักเท่าไหร่กันเชียว

คิรินได้ยิน คิ้วตาถึงกับโค้งขึ้นทันที จากนั้นก็ยิ้มพลางพูดออกมา “ผมต้องการ Dalgona CoffeeของKirin Cafeที่อยู่ทางโซนตะวันออก”

ญาธิดาตอบรับตามสัญชาตญาณ แต่พอคิดดูอีกที ร้านกาแฟที่ชื่อว่าKirin Cafe” คิรินเป็นเจ้าของร้านไม่ใช่เหรอ? ตราบใดที่เขาต้องการ ทางร้านนำกาแฟสักแก้วมาส่งที่กองถ่ายต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

เธอมองคิริน เขายังแสดงท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง ดวงตาทอประกายราวดวงดาว อย่างไร้พิษสง

ญาธิดาพอคลำแผนการของเขาได้ จึงคลี่ยิ้มพูดตอบ “ตกลงค่ะ ฉันจะไปซื้อให้เดี๋ยวนี้”

คิรินเชิดปลายคางเล็กน้อย พร้อมทั้งแสดงท่าทางออดอ้อน “ตกลงครับ งั้นผมก็จะรอคุณกลับมานะ”

เวลานี้เอง พี่เอที่เป็นผู้จัดการก็เดินกลับมา เมื่อเห็นญาธิดา สีหน้าเคร่งขรึมลงทันที “คุณมาทำอะไรที่นี่?”

เธอพูด พร้อมทั้งกวักมือเรียกเจ้าหน้าที่ทางด้านหน้านั้น

หัวใจญาธิดาบีบรัดแน่น ยังไม่ทันได้พูด คิรินก็พูดออกไปก่อน “พี่เอไม่เป็นไรครับ ผมเรียกเธอมาเอง”

พี่เอตะลึง “คิรินที่นี่มันกองถ่ายนะ ไม่อนุญาตให้นายมาก่อเรื่อง”

คิรินยิ้มพร้อมทั้งพยักหน้า “ผมรู้ผมรู้น่า ผมก็แค่อยากให้เธอช่วยไปซื้อกาแฟให้ผมสักแก้วก็เท่านั้นเอง”

เขาพูด พร้อมทั้งใช้ดวงตาเรียวแคบอย่างจิ้งจอกมองมาทางญาธิดา ราวกับใช้แววตากล่าวออกมา “ไปเถอะครับ”

ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเหลือบมองเวลา จึงรีบเร่งฝีเท้ามุ่งหน้าเดินออกไปทางด้านนอก

ร้านกาแฟร้านนั้นที่คิรินเป็นคนเปิดอยู่ในโซนตะวันออก ซึ่งอยู่ห่างจากกองถ่ายทางนี้มาก การเดินทางไปกลับต้องใช้เวลาไม่น้อย แต่ขอแค่เขายอมอ่อนข้อพูดคุยเป็นพรีเซนเตอร์ให้ เธอเดินทางไปก็คุ้มแล้ว

พอถึงร้านกาแฟ ก็สั่ง Dalgona Coffeeที่คิรินต้องการ แถมเธอยังตั้งใจซื้อมาหลายแก้ว เพราะเกรงว่ามันจะหกกลางทาง อีกอย่างการซื้อมาแก้วเดียวกลับไปมันดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

เธอหิ้วกาแฟเป็นถุงๆ พร้อมทั้งรีบนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินอย่างร้อนรน ตอนที่กลับมาถึงกองถ่ายอย่างเร่งรีบนั้น เธอวนหาอยู่รอบหนึ่ง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคิริน

ญาธิดาร้อนอกร้อนใจ ซึ่งไม่ต้องคำนึงอะไรมากมายอีกแล้ว พลันคว้าคนหนึ่งมาถามทันที “คุณคิรินล่ะคะ? ฉันซื้อกาแฟมาให้แล้ว? ทำไมไม่เห็นเขาเลยคะ?”

คนคนนั้นกวาดตามองเธอ พร้อมทั้งพูดอย่างเฉยเมย “เมื่อกี้ถ่ายฉากสุดท้ายเสร็จเขาก็กลับไปแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีฉากที่เขาต้องแสดงอีกแล้วครับ”

ญาธิดากัดฟัน พลันเกิดความรู้สึกโมโหพุ่งขึ้นมาในหัวใจทันที คิรินให้เธอวิ่งไปกลับเพื่อซื้อกาแฟ เพื่อตั้งใจจะแกล้งเธออย่างไม่ต้องสงสัย!

คนคนนั้นเห็นใบหน้าญาธิดาแดงแจ๋ จึงชี้ทางให้เธออย่างใจดี “พวกเขาเดินออกไปทางประตูนั้น ไม่กี่นาทีเอง คุณรีบดูเร็วน่าจะตามทันนะ”

“ขอบคุณค่ะ!”

ญาธิดาไม่พูดพร่ำทำเพลง พร้อมทั้งก้าวฝีเท้ามุ่งหน้าเดินไปทางนั้น เธอวิ่งเหยาะไปบริเวณประตูตลอดทาง จนเห็นตัวของคิริน เขาเปลี่ยนเสื้อแสดงละครออกแล้ว แถมยังใส่หมวกไว้บนหัว ซึ่งกำลังพูดอะไรบางอย่างกับผู้หญิงคนหนึ่ง

เมื่อมองจากการแต่งตัวแล้ว อายุของผู้หญิงคนนั้นก็ใกล้เคียงกับเขา และใส่แว่นตาสีดำ ทั้งสองคนกำลังพูดอะไรสักอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ขนาดมองเห็นก็รู้สึกตื่นเต้นตาม

หัวใจญาธิดาตื่นเต้น จึงเดินตรงเข้าไปหาทันที

ใครจะไปรู้ว่าตอนเข้าไปใกล้นั้น คิรินก็หันศีรษะกลับมา จังหวะที่เห็นเธอนั้น ดวงตาฉายความโกรธเคืองออกมาทางแววตาเพิ่มมากขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์