พอโดนสายตาไม่เป็นมิตรของคิรินอย่างไม่มีที่มาที่ไป ญาธิดากลับสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ตอนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอยู่นั้น ตอนที่เห็นผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ตรงข้ามกับคิรินหันศีรษะมามองเธอ
แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะใส่แว่นตาดำ แต่กระจกแว่นตากลับเป็นสีชาปนน้ำตาล ซึ่งมองผ่านกระจกแว่นจนเผยให้เห็นคิ้วตาอยู่เลือนลาง
ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นมองเห็นญาธิดา ซึ่งแววตาแข็งทื่ออย่างชัดเจน ดวงตาฉายอาการน่าเบื่อออกมาเล็กน้อย จึงหันศีรษะไปทางอื่น
ญาธิดาเองก็มองเห็นความหมายที่อยู่ในดวงตาของผู้หญิงคนนั้น จนตกตะลึงหนักกว่าเดิม จึงเหลือบมองอยู่หลายครั้งอย่างไม่ตั้งใจ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นคลับคล้ายคลับคลาจะรู้จัก ราวกับเคยเจอที่ไหน
จู่ๆ ทิศทางการมองเห็นทางด้านหน้าก็มีคนมาขวางเอาไว้ ญาธิดาแหงนหน้ามอง ก็เห็นใบหน้าของคิรินที่แสดงอาการโกรธเคืองอยู่เล็กน้อย เขาย่นคิ้วเข้าหากันอย่างรู้สึกหมดความอดทน “คุณจะทำอะไร?”
ญาธิดาหมดความอดทนเหมือนกัน คนที่พูดออกมาจากปากว่าต้องการกาแฟจากKirin Cafeให้ได้ก็คือเขา เธอเหาะไปตั้งไกลขนาดนั้นเพื่อซื้อมาให้เขา เขากลับเต๊ะท่า พริบตาเดียวก็พลิกหน้ามือทำเป็นคนไม่รู้จักกันเสียงั้นแหละ
เธอพยายามเก็บอารมณ์โกรธเคืองเอาไว้ในใจ พลันฝืนคลี่ยิ้มให้คิรินเล็กน้อย พร้อมทั้งพูดเสียงอ่อน “คุณคิริน กาแฟที่คุณต้องการฉันซื้อมาให้แล้วค่ะ”
เธอพูด พร้อมทั้งเอาถุงกาแฟที่อยู่ในมือขวาชูขึ้นมา เพื่อแสดงให้เขาเห็น
คิรินย่นคิ้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหมดอารมณ์จะพูดดีๆกับเธอแล้ว
เวลานี้เอง หูฟังบลูทูธที่เขาใส่อยู่ที่หูขวาก็ส่องแสงวิบวับ เขาชูมือขึ้นจากนั้นก็ใช้นิ้วสัมผัสเบาๆ จากนั้นก็พูดทันที “พี่เอมีอะไรหรือครับ?”
ส่วนพี่เอ ที่อยู่ทางนั้นไม่รู้ว่าพูดอะไรออกมา คิรินตื่นเต้นขึ้นมาทันที และหันไปสำรวจรอบๆอย่างระแวดระวัง พร้อมทั้งกระซิบถามเสียงต่ำ “ปาปารัสซี่ที่ไหนครับ?”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็มองไปอีกทาง จู่ๆสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นหม่นหมองลง สักพัก จู่ๆเขาก็ยกมือขึ้น เพื่อจับปกคอเสื้อทางด้านหลังของญาธิดาไว้แน่น พลันเอียงศีรษะพูด “มีปาปารัสซี่ เรื่องนี้คืนนี้เจอหน้ากันแล้วค่อยคุยต่อ”
คำพูดนี้ไม่ได้พูดกับญาธิดา แต่พูดกับผู้หญิงที่ใส่แว่นกันแดดคนนั้น
“ฉันไม่มีอะไรที่ต้องพูดกับคุณแล้ว”
ผู้หญิงคนนั้นพูดทิ้งท้ายออกมา พร้อมทั้งก้าวฝีเท้าไปเดินไปอีกทาง
ญาธิดาตะลึงทันที เมื่อมองแผ่นหลังของผู้หญิงที่เดินจากไปคนนั้น ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยมากขึ้นเรื่อย
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอจึงได้สะติ นั่นแพรวาไม่ใช่เหรอ! แพรวาคนที่สนิทสนมกับภวินท์มาตลอด ก่อนหน้ายังโดนสื่อมวลชนถ่ายรูปมาได้! ทำไมอยู่ดีๆถึงมาอยู่กับคิรินล่ะ? อีกอย่างความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเหมือนไม่ธรรมดาเลยทีเดียว...
โดยไม่รอให้ญาธิดาถามให้ชัดเจน คิรินก็ดึงคอเสื้อของเธอเดินไปอีกทาง
ญาธิดาย่นหัวคิ้ว ตอนที่เตรียมจะผลักออก ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของคิรินดังขึ้น “คุณต้องการพรีเซนเตอร์ไม่ใช่เหรอ? อย่าพูดมาก! ขึ้นรถผมเดี๋ยวนี้!”
คำพูดที่ติดริมฝีปากของญาธิดาจู่ๆก็หยุดกึกทันที เธออึ้ง พร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกใหญ่ พลางหุบปาก และไม่พูดไม่จา
ญาธิดาถูกเขากึ่งฉุดกระชากขึ้นรถ พอเธอหันกลับไปมอง จึงค้นพบว่าด้านหลังรถที่อยู่ไม่ไกลนัก กำลังมีกล้องดำๆเพ่งมาทางพวกเขา
วินาทีนั้น ญาธิดาถึงรู้ตัว
เธอเพิ่งถูกเขาโยนขึ้นรถ จากนั้นก็ได้เสียงตกอกตกใจดังตามหลังมาติดๆ “คิริน นี่นายกำลังทำอะไร? แล้วทำไมถึงพาเธอขึ้นมา! ฉันพูดกับนายแล้วนะว่ามีปาปารัสซี่อยู่!นาย....”
สีหน้าพี่เอเปลี่ยนไปทันที จู่ๆก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ “นาย...ทำเพื่อปกป้องเธอเหรอ?”
คิรินราวกับแสดงท่าทางไม่แย่แสอะไรอีกแล้ว พร้อมทั้งหยิบแก้วกาแฟในมือญาธิดามา และนั่งลงตรงตำแหน่งข้างตนเอง และหาท่าทางนั่งที่สบายๆ จากนั้นก็เปิดกาแฟและดื่มไปอึกหนึ่ง
ญาธิดาได้ยินคำพูดของพี่เอ ยิ่งสมองเบลอหนักกว่าเดิม
ที่พี่เอพูดคำ “เธอ” คนนั้น ไม่ได้หมายถึงเธอแน่ ดังนั้น....หมายถึงแพรวาที่อยู่กับคิรินเมื่อครู่!
หลังจากครุ่นคิดและเข้าใจอย่างถ่องแท้ ญาธิดาอ้าปากด้วยความตกใจ ไม่คิดเลยว่าเธอจะรู้เรื่องซุบซิบนินทาแบบนี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ
ค่ายของคิรินประกาศว่าเขายังโสดอยู่ พวกเขาต่างรู้ดีว่าส่วนใหญ่แฟนคลับของเขาจะเป็นแฟนคลับที่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของตัวเขาประหนึ่งภรรยาหรือแฟนตัวจริง ดังนั้นจึงจำกัดข่าวอื้อฉาวของคิรินไปเสีย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาแอบมีความรักไม่ได้นะ
แล้วทำไมแพรวาคนนั้นต้องยุ่งเกี่ยวกับภวินท์ไม่เลิก? หรือว่าพวกเขารักสามเส้า? หรือมีเรื่องอื่น...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...