ระหว่างทางที่เดินไป หลายคนมองญาธิดาอย่างสงสัย และมีแม้กระทั่งผู้ชายที่ผิวปากพูดจาหยอกเย้าใส่เธอ
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไรเลย เดินตามพนักงานต้อนรับไป
เธอถูกพาไปยังพื้นที่พักผ่อนกึ่งเปิด นี่ถึงได้เห็นคิริน เขาสวมชุดแข่งสีดำทอง ใช้มือซ้ายกอดหมวกกันน็อค เส้นผมปลิวสยายดูหล่อเหลา
หัวใจของญาธิดาตึงแน่น เธออดไม่ได้ที่จะมองจ้อง พอดีกับที่คิรินหันหน้ามาเห็นเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย เขาหันหน้าหนีแล้วเดินไปนั่งข้างๆ สีหน้าเคร่งขรึม
แน่นอนว่าญาธิดาเห็นข้างๆ เขามีผู้ช่วยหรืออะไรสักอย่างแต่ไม่เห็นพี่เอ เธอสูดหายใจเข้าลึกรวบรวมความกล้า ยกยิ้มแล้วเดินไปหาคิริน ทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม “คุณคิริน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”
คิรินกลอกตา ส่งเสียเยาะและไม่ตอบ
ญาธิดาทำใจเย็น เดินไปข้างๆ และอธิบายด้วยรอยยิ้มบาง “คุณคิริน คราวที่แล้วฉันไม่ได้ตั้งใจผิดนัดคุณจริงๆ ความจริงมันเป็นเรื่องที่ให้อภัยได้”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ คิรินก็มีปฏิกิริยานิดหน่อย เพยิดหน้าใส่เธอเล็กน้อย “เป็นเรื่องที่ให้อภัยได้งั้นเหรอ คุณอธิบายให้ผมฟังหน่อย”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดเสียงเบา “คราวที่แล้วเพราะฉันต้องไปงานหมั้นที่ปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้ไปหาคุณ”
เมื่อได้ยินคำว่า “งานหมั้น” สีหน้าของคิรินเปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กระตุกยิ้มมุมปาก สายตามีร่องรอยเยาะเย้ย “มันคืองานหมั้นระหว่างคุณภวินท์กับคุณนิวราสินะ”
เมื่อได้ยินสองชื่อนี้ ญาธิดาก็ชะงักไป หัวใจของเธอวูบไหวเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว และแม้แต่สีหน้าก็เปลี่ยนไป หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอตอบเสียงเบา “อืม”
คิรินเหลือบมองเธอ จับผิดอาการผิดหวังจากสีหน้าของเธอได้ แล้วพลันหัวเราะเยาะ “คุณ...คงจะไม่ชอบภวินท์หรอกนะ”
ญาธิดาชะงักไปทันที เลื่อนสายตาขึ้นมองเขาอย่างค่อนข้างประหลาดใจ ไม่รอให้เธอตอบ คิรินก็ส่งเสียงเยาะ “เขามีอะไรดีนักหนา”
ประโยคนี้เหมือนถามญาธิดา แต่ก็เหมือนคุยกับตัวเองด้วย
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็ยืนขึ้น หยิบหมวกสีแดงข้างๆ โยนให้เธอ “ถ้าอยากให้ผมยกโทษให้ อย่างน้อยก็แสดงความจริงใจบ้าง คำขอโทษมันไม่มีประโยชน์ ไปวิ่งกับผมรอบหนึ่ง ถ้าคุณอดทนไหว ก็ถือว่าคุณชนะ”
ญาธิดาก้มมองหมวกที่ทิ้งลงมาในอ้อมแขนของเธอ แล้วมองคิรินที่กำลังเดินไปข้างหน้า ในใจลังเลเล็กน้อย
หรือว่าเขาจะให้เธอขึ้นรถวิ่งไปกับเขารอบหนึ่ง
หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ เธอจึงรีบเดินตามไป “คุณคิริน เรื่องพรีเซนเตอร์…”
คิรินที่เดินไปข้างหน้าพูดโดยไม่หันมามอง “หลังจากผมให้อภัยแล้ว ผมจะพิจารณามันอย่างจริงจัง”
ญาธิดาได้ยินแล้วดวงตาก็เป็นประกาย ทันใดนั้นหัวใจก็มีความหวังขึ้นมาบ้าง เธอเหลือบมองหมวกกันน็อคในมือแล้วเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
คิรินมีขายาวและก้าวกว้าง ญาธิดาวิ่งเหยาะๆ ยังแทบจะไม่ทันเขา เมื่อวิ่งออกไปถึงนอกลู่ เขาหยุดฉับพลันแล้วหันกลับมามองญาธิดาและถามว่า “ยินดีจะนั่งรถวิ่งไปกับผมรอบหนึ่งไหม”
ญาธิดายกยิ้มมุมปาก “ตราบใดที่คุณคิรินยกโทษให้ ฉันก็ยินดี”
คิรินหัวเราะเยาะเบาๆ เขายกมือขึ้นสวมหมวกบนศีรษะแล้วพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยจนแทบมองไม่ออก “คุณอย่าเสียใจภายหลังแล้วกัน”
ลมกระโชกแรงพัดพาคำพูดของเขาไป ญาธิดาได้ยินไม่ชัดจึงถามว่า “คุณพูดว่าอะไรนะ”
คิรินยิ้มกว้างกว่าเดิม “ไม่มีอะไร”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็ก้าวออกไป เดินไปข้างรถคันสูงใหญ่น่าเกรงขาม ยกขายาวก้าวคร่อมรถ
ชายหนุ่มแขนขายาวเหมือนไม้แขวนเสื้อ บนตัวสวมชุดแข่งสุดเท่ซึ่งเข้ากับรูปร่างของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ญาธิดาตกตะลึงเล็กน้อยจนกระทั่งเขาหันกลับมาหาเธอ “ขึ้นรถ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...